อาชญากรรม

ตร.เล่านาทีเด็ก 14 โทรแจ้ง 191 บอกเป็นคนกราดยิง-จะปลิดชีพตัวเอง มอบตัวไม่ได้ 'เงาดำ' รายล้อม

โดย panwilai_c

4 ต.ค. 2566

484 views

เปิดบทสนทนา ชุดศูนย์วิทยุผ่านฟ้า 191 ชุดเจรจา เกลี่ยกล่อมทางโทรศัพท์ให้ผู้ก่อเหตุวัย 14 ปี ยอมมอบตัว หลังจากผู้ก่อเหตุโทรเข้ามาที่ 191 จึงจัดเจ้าหน้าที่ คุยเกลี่ยกล่อมอยู่นาน 23 นาที 41 วินาที จนยอมวางปืนลง และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการหน้างาน เข้าชาร์จตัวสำเร็จ



จากข้อมูลของชุดที่เข้าไปจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ทำให้ทราบว่า ก่อนถูกจับกุม ผู้ก่อเหตุวัย 14 ปี คุยโทรศัพท์อยู่กับเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า 191 ตลอดเวลา



ทีมข่าวคุณชญตร์ ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ยอมรับว่า ผู้ก่อเหตุ เป็นผู้โทรศัพท์มาที่ 191 จริง ตอนเวลา 16.46 น. ของเมื่อวานนี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่หญิง เป็นคนรับสาย จากนั้น ตัวผู้ก่อเหตุก็ถามว่า รับทราบรึยังว่ามีเหตุยิงกันที่พารากอน เจ้าหน้าที่ตอบว่า รับทราบแล้ว มีประชาชนแจ้งมา จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงบอกว่า "ผมเป็นคนยิงเอง"



พอทราบว่าเป็นตัวผู้ก่อเหตุ เลยให้เจ้าหน้าที่ชาย ที่มีประสบการณ์ในการเจรจา เป็นผู้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุ เพราะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำเสียง สติ โดยมีผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษเป็นผู้ควบคุมสั่งการ ซึ่งมีทีมเจรจารวมอยู่ทั้งสิ้น 7 คน



โดยขั้นตอนการเจรจา เริ่มจาก การสอบถาม "ชื่อ อายุ แต่งกายอย่างไร และพิกัด" ซึ่งตัวผู้ก่อเหตุ ก็ตอบชัดเจนว่าชื่ออะไร อายุ 14 ปี แต่งกายด้วยเสื้อสีดำ กางเกงลายพรางทหารสีน้ำตาล สวมหมวก และแจ้งพิกัดคือ อยู่ร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ชั้น 3



จากการพูดคุยช่วงแรก จับอาการได้ว่า ผู้ก่อเหตุค่อนข้างเครียด และมีลักษณะจะทำร้ายตัวเอง ทีมเจรจาจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็น มีสติ พอเริ่มคุย ผู้ก่อเหตุก็เริ่มใจเย็นลง และเริ่มฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ให้มอบตัว แต่ผู้ก่อเหตุพูดกับทีมเจรจาว่า มอบตัวไม่ได้ เพราะมีเงาดำ อยู่เต็มไปหมดเลย และไม่ยอมให้ผู้ก่อเหตุเดินออกไป



ชุดเจรจาจึงแนะนำให้วางอาวุธ เอาอาวุธออกห่างจากตัว ยกมือขึ้นสูงเอาไว้ท้ายทอย และนั่งลง ตอนแรกเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาก็บอกให้เดินเข้าไปหาตำรวจ แต่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าเดินไปไม่ได้เพราะมีเงา ไม่กล้าเข้าไป และบอกว่าให้ตำรวจเข้ามาได้หรือไม่ จึงได้แนะนำให้ผู้ก่อเหตุชูมือขึ้น และนั่งลงกับพื้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าชาร์จตัว



โดยอยู่ในสายกันยาวนานถึง 23 นาที 41 วินาที ระหว่างพูดคุย ทางผู้ก่อเหตุก็บอกตลอดว่า ตนเองยิงคนได้รับบาดเจ็บ และต้องถูกดำเนินคดีแน่นอน ซึ่งสาเหตุที่โทรมาหา 191 ทางผู้การสันนิษฐานว่าเป็นเพราะ หลังก่อเหตุเด็กไม่รู้ว่าจะปรึกษาใคร ก็เลยโทรมา 191 ระหว่างที่คุยก็ทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วย เพราะมีบางช่วงที่บอกว่าไม่ได้ทานยามานานแล้ว และผู้ก่อเหตุมีการถามถึงคุณพ่ออยู่ตลอด



1 ในตำรวจที่อยู่ในชุดเจรจา จนทำให้ผู้ก่อเหตุยอมวางอาวุธ และไม่ไปกราดยิงต่อ ผู้กองพศวัต เปิดใจเล่าเรื่องราวขณะเจรจาให้ทีมข่าวอาชากญากรรมฟังทุกขั้นตอน จนถึงวินาทีถูกจับ



ร้อยตำรวจเอก พศวัต จงจิตร รองสารวัตรชุดปฏิบัติการ กองกำกับการศูนย์รวมข่าว กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 เล่าย้อนถึงวินาทีที่เจรจากับเด็กชายผู้ก่อเหตุ ว่า ราวประมาณ 5 โมงเย็น ผู้ก่อเหตุ ได้โทรศัพท์เข้ามาที่สายด่วน 191 และบอกว่า "ผมเป็นคนยิงที่พารากอนเอง" เจ้าหน้าที่ที่รับสายจึงรีบยกมือให้หัวหน้างานเข้ามาคุย และเขาเป็น 1 ในชุดเจรจาที่ร่วมด้วย ทำหน้าที่ให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่ว่าต้องพูดอย่างไร



ประโยคแรกที่ถาม คือ ต้องการจะให้ช่วยอย่างไร? อยากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่? ซึ่งจับน้ำเสียงได้ว่า ผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการตกใจ และมีแนวโน้มจะทำร้ายตัวเอง เพราะเขาบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า "ผมกำลังเอาอาวุธจ่อตัวเองอยู่" จึงต้องพยายามเกลี้ยกล่อม บอกให้ผู้ก่อเหตุใจเย็นๆ ให้วางอาวุธ และยอมมอบตัวกับตำรวจ



จากนั้นพยายามสอบถามพิกัด เพราะขณะนั้นตำรวจที่ปฏิบัติงานในที่เกิดเหตุ ยังไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุอยู่จุดไหนของห้าง ซึ่งผู้ก่อเหตุ ก็ยอมบอกว่า เขาอยู่ในร้านเฟอร์นิเจอร์ จึงถามไปว่าใช่ชั้น 3 หรือไม่? ผู้ก่อเหตุ ก็ตอบว่าใช่ พร้อมถามลักษณะการแต่งกาย ผู้ก่อเหตุก็ตอบตามจริง คือ ใส่เสื้อสีดำแขนยาว กางเกงลายทหารสีน้ำตาล สวมหมวกแก๊ป



พอได้ข้อมูลทั้งหมดจึงรีบประสานงานไปยังศูนย์วิทยุนารายณ์ กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และระหว่างที่ตำรวจหน้างานกำลังเข้าไปหาผู้ก่อเหตุ เขาและเจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่ตลอด ซึ่งผู้ก่อเหตุ ดูตกใจมาก พูดจาไม่ชัดเจน วกไปวนมา ฟังค่อนข้างยาก ลักษณะ คือ "กลัวไม่ปลอดภัย" พอคุยไปสักพัก ผู้ก่อเหตุก็เริ่มร้องไห้ บอกว่า "ผมอายุแค่ 14 ปีเองนะครับ ผมจะติดคุกไหม ผมจะปลอดภัยไหม"



ตอนนั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตอบคำถามอะไร เพียงแต่บอกให้ใจเย็นๆ ให้วางอาวุธ ถ้าไม่วางอาวุธอาจจะได้รับอันตราย ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ฟัง ไม่ได้มีอาการต่อต้าน พอตำรวจที่อยู่ในห้างขึ้นไปถึงหน้าร้าน ก็บอกว่า ให้เดินออกไปหาเจ้าหน้าที่ แต่ผู้ก่อเหตุบอกว่าเดินออกไปไม่ไหว เพราะตัวชา นั่งอยู่บนโซฟา จึงบอกให้ยกมือขึ้น วางอาวุธลง จนตำรวจหน้างานได้เข้ามาควบคุมตัวไว้ได้ หากนับตั้งแต่ที่ผู้ก่อเหตุโทรเข้ามาใช้เวลาพูดคุยกันราว 20 นาที



ผู้กอง พศวัต บอกด้วยว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยมีเหตุการณ์ใหญ่เหตุการณ์ไหนที่ผู้ก่อเหตุจะโทรมาแจ้งที่ 191 เองว่า ตัวเองเป็นผู้กระทำ ครั้งนี้ถือเป็นเคสแรก ยอมรับว่าตอนแรก ก็มีคิดว่าเป็นการโทรมาหลอกเจ้าหน้าที่หรือไม่ แต่พอได้คุยแล้วก็เชื่อว่า ผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการตกใจจริงๆ และต้องการคำปรึกษา ต้องการไปอยู่ในที่ปลอดภัย หน้าที่ของเขาและทีมงาน คือ ต้องประสานงานไปยังหน่วยปฏิบัติการให้เร็วที่สุด เพื่อระงับเหตุได้ไว แล้วเกิดความสูญเสียน้อยที่สุด

https://youtu.be/fHiVFc2ljMA

คุณอาจสนใจ

Related News