อาชญากรรม

รองผบช.น. ลงพื้นที่จุดทิ้งศพเด็กเหยื่อพ่อฆ่าฝังปูน เปิดหน้าดินค้นหากระดูก

โดย panwilai_c

20 ก.ย. 2566

74 views

หลัง พฐ. เก็บหลักฐาน พลตำรวจตรีนพศิลป์ ให้สัมภาษณ์ระบุว่า จุดนี้เป็นคำรับสารภาพของแม่เด็กที่ว่าในช่วงปี 2559 และปี 2561 ได้นำศพลูกชายมาทิ้งไว้ที่นี่ เมื่อมาตรวจสอบพบว่าจุดนี้มีสภาพแวดล้อมทางกายภาพเปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งเมื่อก่อนเป็นป่ารก มีคลอง แต่จุดเดิมที่ไม่เปลี่ยนคือศาลพระภูมิที่เคยติดกับเพลิงร้านค้าประมาณ 50 เมตร เป็นจุดที่ผู้ต้องหาจำได้ว่านำร่างเด็กมาทิ้งไว้จุดนี้ หลังจากนั้นได้มีการแปรสภาพ สร้างปั๊มน้ำมัน และมีการถมที่ ยกดินให้สูงขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะทำการตรวจสอบข้อมูลจากพยานบุคคลและพยานแวดล้อมทั้งหมด



รวมถึงตรวจสอบผู้รับเหมาก่อสร้างที่มาถมที่ว่าขณะนั้นมีสิ่งผิดปกติอะไรบ้าง รวมถึงพยานแวดล้อม ร้านค้า คนเก็บขยะ และจะมีการนำเครื่องจักรมาเปิดหน้าดินเพื่อตรวจสอบว่ายังมีหลักฐานหลงเหลืออยู่หรือไม่ เช่น กระดูกของเด็ก และจากการตรวจสอบสภาพแวดล้อมอาจมีพวกสัตว์เลื้อยคลานมากัดกินเนื้อหรือลากศพเด็กออกไปที่อื่น ซึ่งตำรวจจะตรวจสอบและดูให้ครบถ้วนทุกมิติ



ส่วนเรื่อง DNA ตั้งแต่ปี 2555 นิติเวชทุกแห่งมีการเก็บข้อมูล DNA ศพนิรนามทุกคน สำหรับเคสนี้ก็จะนำ DNA ของผู้ต้องหาและพ่อแม่ไปตรวจสอบเพื่อทำการยืนยันว่าตรงกับศพนิรนามใดหรือไม่ โดยใช้ DNA ของพ่อและแม่เป็นตัวตั้ง แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบในพื้นที่เขตสายไหมยังไม่พบข้อมูลว่ามีการแจ้งพบศพนิรนาม ซึ่งต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ



เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่หากไม่พบศพ เนื่องจากว่าระยะเวลาผ่านมานานแล้วจะมีผลต่อรูปคดีหรือไม่ ตรงนี้ไม่กังวลเพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็จะมีหลักฐานเป็นชิ้นส่วนกระดูกทิ้งร่องรอยไว้อยู่ดี ซึ่งตำรวจก็จะทำจนสุดความสามารถ



ส่วนการเข้าตรวจค้นที่อพาร์ตเม้นต์ของนางสาวเจษฎา ที่ซอยพหลโยธิน 48 พบคราบเลือดและมีด 3 เล่ม แต่มี 1 เล่ม ที่พบร่องรอยว่ามีการถูกลนไฟ ซึ่งตรงกับคำสารภาพของนางเจษฎาว่าถูกสามีกดดันให้ทำร้ายตัวเอง โดยเอามีดหล่นไฟและนำมาทิ่มแทงตัวเอง โดยหลังจากนี้จะส่งตัวนางเจษฎาไปตรวจร่างกาย



นอกจากนี้ยังพบจดหมายระบายความรู้สึกที่นางเจษฎาเขียนระบายว่าถูกนายเอ็มทำร้ายร่างกาย แต่ไม่พบข้อความที่พูดถึงลูก ซึ่งตำรวจจะนำหลักฐานชิ้นนี้ไปตรวจสอบด้วย



https://youtu.be/gFGkwgxyp8M

คุณอาจสนใจ

Related News