อาชญากรรม
‘แซน’ เซอร์ไพรส์ ‘ปอ-โรเบิร์ต’ กลับคำให้การ รับสารภาพ
โดย attayuth_b
2 มี.ค. 2566
5.3K views
ทันทีที่ กระติก อิจศรินทร์ ลงมาจากศาล ทีมข่าวพยามจะสอบถามและสัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีที่คุณปอและโรเบิร์ต เปลี่ยนแปลงคำให้การรับสารภาพทุกข้อหา แต่คุณกระติก ที่เดินออกมา พร้อมทนายความ ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ และบอกว่าตนไม่ทราบรายละเอียดใดๆ เช่นเดียวกับ จ็อบ นิทัศน์ ไม่ได้พูดอะไร โดยทางทีมทนายตอบแทนว่า คุณจ็อบไม่มีอะไรจะให้สัมภาษณ์ เมื่อถามว่ามีการรับสารภาพของจำเลยที่ 1 กับ 2 หรือ และทราบมาก่อนหรือไม่ ทางทนายบอกว่าให้ไปสอบถามทั้งคู่ดีกว่า
มีเพียงคนเดียวที่ให้สัมภาษณ์สื่อ คือแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าไม่รู้มาก่อนว่า ปอและโรเบิร์ตจะกลับคำรับสารภาพในชั้นศาลวันนี้ เพราะที่ผ่านมาทั้งสองไม่เคยบอกมาก่อนและเพิ่งมารู้วันนี้เช่นเดียวกัน จึงเป็นอะไรที่ค่อยข้างเซอร์ไพรส์ แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี จากนี้ก็จะสู้คดีโดยไม่เกรงใจกัน ถึงเวลาจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย โดยเตรียมจะฟ้องกลับแม่แตงโมกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ และแม่ได้ฟ้องแซน ในข้อหาฆาตกรรม ซึ่งมีลายเซ็นแม่แตงโมในเอกสารจึงต้องการฟ้องกลับ และเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 40.8 ล้านบาท ส่วนจะมีข้อหาอะไรจะกลับไปปรึกษากับทีมทนายก่อน โดยวันนี้ก็ได้พูดคุยกับแม่ตามปกติ
โดยทนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของคุณแซน บอกว่า ตนเองไม่ทราบมาก่อนเช่นกันว่าทางทั้งสองจะเปลี่ยนแปลงคำรับสารภาพ ไม่คาดคิดว่าจะรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ส่วนตัวไม่ทราบเหตุผลของทั้งคู่ว่าทำไมจึงรับสารภาพแต่ส่วนตัวตนวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเหตุผลเรื่องของธุรกิจ ที่มองว่าจะต้องไปดำเนินธุรกิจของเขา
ส่วนคุณแซนก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ เมื่อถามว่าความรู้สึกของคุณแซน ตอบว่าไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการหักหลังใช่หรือไม่ ความรู้สึกเขาตนไม่รู้ว่าคิดแบบนั้นไหม แต่ตนได้บอกกับคุณ แซนว่า แค่เราเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่สำหรับคติที่จะถูกแยกฟ้องมา
ทางด้านคุณแม่ภนิดา แม่คุณแตงโม เปิดใจว่า รู้สึกเซอร์ไพรส์ และตกใจที่ปอ และโรเบิร์ต เปลี่ยนแปลงคำให้การรับสารภาพ ในทุกข้อกล่าวหา โดยเฉพาะข้อหาประมาท ที่ก่อนหน้านี้จำเลยทุกคน ยังให้การปฏิเสธ ซึ่งปอและโรเบิร์ตไม่ได้บอกใครเลย ทุกคนเพิ่งจะมาทราบวันนี้ในศาล เมื่อคืนยังคุยเรื่องสุขภาพของคุณแม่อยู่เลย
โดยแม่ เล่าถึงวินาทีที่ปอและโรเบิร์ตเปลี่ยนแปลงคำให้การว่า ได้เข้ามากราบเท้าคุณแม่เลย เขาขอสารภาพต้องอยู่ที่การตัดสินใจของคุณแม่ด้วยว่าจะยอมไหม คุณแม่ก็อนุญาต ศาลถามว่าคุณแม่ติดใจหรือไม่ คุณแม่บอกว่าไม่ติดใจ ตอนนั้นคุณแม่แทบจะร้องไห้ ดีใจที่เขาสารภาพ อยากให้เขาสารภาพมานานแล้ว
ส่วนจำเลยที่เหลือ ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำให้การ ซึ่งเมื่อสักครู่ที่เจอกันก็ทักทายกันตามปกติ เมื่อถามว่าอยากให้ที่เหลือรับสารภาพหรือไม่ คุณแม่บอกว่าแล้วแต่เค้า ถ้าตัวหลักปอกับโรเบิร์ตเป็นตัวหลัก เขาสารภาพแล้ว แล้วทำไมคนอื่นไม่รับสารภาพด้วย
โดยวันนี้คุณแม่มีท่าทีที่ผ่อนคลาย ยิ้มแย้ม สวมชุดสีขาว พร้อมกับต่างหูมุก ซึ่งทีมข่าวถามว่า ใช่ต่างหูที่คุณแซนซื้อให้ก่อนหน้านี้หรือไม่ คุณแม่บอกว่า ใช่ วันนี้ตั้งใจใส่มาให้เค้าดู คุณแม่พูดถึงคุณแตงโมว่า ทุกวันนี้ ยังคิดถึงคุณแตงโมเสมอ และไปทำบุญให้น้อง และวันนี้หลังจากที่ปอกับโรเบิร์ตสารภาพทุกข้อหา ก็จะไปบอกน้องโม เดี๋ยวจะซื้อดอกไม้บอกน้องโม
ส่วนเรื่องของหลักฐานที่นำมายื่นต่อศาลวันนี้ คุณแม่และทีมทนายบอกว่า เป็นคลิปกล้องหน้ารถแตงโม ได้ไปยื่นขอของกลางจากตำรวจ ที่มีการเก็บรักษาไว้กว่า1 ปี และมีข้อมูลบางส่วนถูกลบไป จากนั้นได้ให้ผู้เชี่ยวชาญทำการกู้ข้อมูลกลับมา พบว่าในรถมีการสนทนากัน2คน ถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งแม่เองได้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ รู้สึกมั่นใจกับหลักฐานชิ้นนี้ และจำเสียงบุคคลในคลิปได้อย่างชัดเจนแต่ขอให้เป็นรายละเอียดในสำนวน
ส่วนที่แซนจะฟ้องกลับและเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินเท่ากันกับที่แม่ฟ้องนั้น ตนเพิ่งทราบเพราะในห้องพิจารณาคดีแซนก็เข้ามากอดแสดงความรักซึ่งกัน จึงรู้สึกตกใจที่แซนจะฟ้อง แต่ว่าตนเองมั่นใจในพยานหลักฐานที่แน่นหนาพอสมควรเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ขณะที่ทีมข่าวบังเอิญเจอทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของคุณแม่ภนิดา อยู่ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี โดยทนายกฤษณะอ้างว่ามาทำธุระในคดีอื่น ทีมข่าวจึงได้สอบถามถึงประเด็นวันนี้ ทนายกฤษณะอ้างถึงพยานหลักฐานที่เป็นกล้องหน้ารถว่า ตอนที่ยังเป็นทนายความให้กับคุณแม่ ตนได้รับมอบหมายให้นำเมมโมรี่การ์ดกล้องหน้ารถนี้ ไปส่งให้กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของจังหวัดนนทบุรี ตามที่คุณแม่ได้ร้องขอมาและตนได้มีข้อสงสัย และเน้นเรื่องของกล้องหน้ารถมาตลอด เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการพูดคุยอะไรกันบางอย่าง และอาจจะมีความสำคัญในคดี ที่อาจจะพลิกในคดีได้
แต่ในช่วงนั้นเมื่อส่งมอบหลักฐานดังกล่าว ตนก็ถูกปลดจากการเป็นทนายความ ทำให้ไม่ทราบว่าพยานหลักฐานชิ้นดังกล่าว ถูกนำไปรวมอยู่ในสำนวนด้วยหรือไม่ กระทั่งมาทราบข่าววันนี้ว่าคุณแม่นำหลักฐานชิ้นนี้มายื่นต่อศาล
ตนเชื่อว่าพยานหลักฐานดังกล่าวน่าจะมีความสำคัญ และถ้าให้ตนคาดการณ์ เชื่อว่าความสำคัญน่าจะเป็นช่วงต้นคลิป ที่รถขับออกจากอู่เรือ ระยะประมาณช่วง 10 กว่านาทีแรก น่าจะมีการพูดคุยอะไรบางอย่างกัน
ทั้งนี้มีรายงานว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปกล้องหน้ารถของคุณแตงโม ซึ่งได้มีการกู้ไฟล์มา มีความยาวร่วมชั่วโมง แต่ประเด็นบทสนทนาที่สำคัญอยู่ที่ช่วงประมาณ 18 นาที ที่เป็นช่วงต้นๆ คลิป
รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/9bBQQFBCUVc