แม่วอนตร.ล่าคนร้าย ปม 'น้องแอร์' หายจากบ้าน 8 ปี สุดท้ายพบเป็นศพลอยน้ำ

จากกรณีที่มูลนิธิกระจกเงาประกาศ ตามหา นางสาวธัญญลักษณ์ หรือ แอร์ หญิงสาวชาวจังหวัดลพบุรี ผิวดำแดง ผมยาว มีรอยสักที่ข้อเท้า บริเวณตาตุ่มคล้ายรูปสัญลักษณ์นาซี หลังจากที่ญาติติดต่อขอความช่วยเหลือมาเมื่อปี 2564 หลังหายตัวไปจากบ้านในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2557

ล่าสุด ได้นำ DNA ของนางมาลี พงษ์จริง ซึ่งเป็นแม่ของคุณแอร์ ไปตรวจเปรียบเทียบ พบว่าไปตรงกับศพนิรนามของหญิงรายหนึ่ง ที่พบร่างถูกทิ้งในแม่น้ำป่าสัก เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 57 ในพื้นที่ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสภาพศพถูกแทงที่ใบหน้านับสิบแผล ลำตัวกระดูกหัก

วันนี้ ครอบครัวของคุณแอร์ เดินทางไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมกับนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เพื่อติดต่อรับขอรับกล่องบรรจุกระดูกของลูกสาว ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดข่อยเหนือ จังหวัดลพบุรี บ้านเกิด โดยมีพันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นผู้ส่งมอบกล่องบรรจุกระดูก คืนให้กับครอบครัว


ทีมข่าวคุณชญตร์ได้พูดคุยกับนางมาลี แม่ของผู้เสียชีวิต ที่วันนี้แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก นั่งรถเข็นมาเพื่อรอรับกระดูกของสาว ที่บรรจุในกล่องสีขาว คุณแม่เคยบอกกับเจ้าหน้าที่กระจกเงาว่า นานมากแล้วที่ไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ ไม่คิดว่าจะเป็นการเดินทาง เพื่อพาลูกสาวกลับบ้านครั้งสุดท้าย ลึกๆ แล้วในใจเคยคิดเสมอว่าเขาอาจมีชีวิตอยู่ และวันหนึ่งเขาคงกลับบ้าน แม่บอกว่า ลูกเป็นคนดื้อและเงียบ เคยบอกลูกด้วยซ้ำว่า แม่เป็นทั้งแม่และเพื่อนในคนเดียวกัน แม่ไม่เคยคาดหวังอะไรกับเขานะ แค่ขอให้เขาเป็นคนดี

แม่ไปตามหาแบบชาวบ้าน ไปโรงพัก ไปที่ว่าการอำเภอ เพราะไม่รู้จะไปตามหายังไง มองรูปเขาได้แต่ขอพรพระให้ดลจิตดลใจเขากลับบ้าน มาถึงวันนี้ ที่พบว่าลูกเหลือเพียงกระดูด จึงอยากวอนให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ แม้วันนี้โล่งใจที่ได้เจอลูก แต่อีกใจหนึ่ง ก็รู้สึกย่ำแย่ สงสาร คิดว่าลูกคงเจ็บปวด อยากถามผู้ก่อเหตุว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย


ด้านนางสาว ฌัฌชา นุ่มสำลี หรือ เฟิร์น อายุ 24 ปี ลูกพี่ลูกน้องเล่าว่า ตลอด 8 ปี ไม่เคยหยุดตามหาเลย คอยถามไถ่คนที่รู้จัก หาเบาะแสอยู่ตลอด จนวันนี้ ที่ได้เจอคุณแอร์แล้ว จึงอยากรู้ว่าใครเป็นคนทำ และทำไมต้องทำแบบนี้


โดยคุณเฟิร์นเล่าว่าคุณแอร์หายตัวไปจากบ้านพัก ตำบลบ้านข่อย อำเภอเมือง ลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 โดยขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ไอ 125 สีขาว และสร้อยคอทองคำ 5 บาทของพ่อ ออกจากบ้านไปตอนประมาณ 10 โมง

จากนั้นตอนบ่าย 3 โมง 16 นาที ส่งข้อความมาหาตนว่า "เฟิร์น พี่ฝากแม่ ฝากน้องเอยด้วย ฝากขอโทษแม่ด้วยที่พี่ทำให้เค้าเสียใจอีก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มันจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว"

คุณเฟิร์น เลยถามว่าจะไปไหน จะทิ้งลูก ทิ้งแม่ไปหรอ แต่เจ้าตัวไม่ตอบ ก่อนจะส่งข้อความมาวันรุ่งขึ้นว่าอยากเจอลูก คิดถึงลูกเหลือเกิน ตนจึงตอบไปว่า ไม่สงสารพ่อแม่บ้างหรอ พ่อโกรธมากแล้วนะ


วันที่ 13 ก.พ. 2014 เวลา 20.29 น. น้องแอร์ส่งข้อความมาอีกครั้ง บอกว่า เฟิร์นพี่อยากเจอเอย (ลูกสาว) พี่คิดถึงเอยเหลือเกิน ทางด้านคุณเฟิร์นก็ ตอบไปว่า พี่ทำแบบนี้ทำไม พี่ไม่สงสานเอย ไม่สงสารแม่บ้างหรอ พี่รู้ไหมว่าพ่อเค้าเผาเสื้อผ้าพี่ทิ้งหมดแล้ว พ่อเค้าโกรธพี่มาก

วันที่ 14 ก.พ.2014 เวลา 12.56น. คุณแอร์ แชทข้อความมาอีกครั้ง บอกว่า เฟิร์นเดี๋ยวพี่จะเอาทองเอารถไปคืนเค้าแล้วจะไปรับน้องเอยมาอยู่ด้วย ซึ่งคุณเฟิร์นก็ตอบกลับไปว่าไม่ต้องหรอก พี่ไม่ต้องกลับมา ถึงพี่กลับมาก็ไม่รอดแน่ ซึ่งนี่เป็นแชทสุดท้ายที่คุณแอร์กับกับเฟิร์น ก่อนจะติดต่อไม่ได้ เพราะทั้งโทรไปก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ


ทางครอบครัว จึงไปแจ้งความรถจักรยานยนต์ และ สร้อยคอทองคำ 5 บาทหายไว้ ที่ สภ.บ้านข่อย และก็พยามออกตามหา และทั้งถามเพื่อน และรุ่นพี่ที่ทำงาน แต่ไม่มีใครเจอเลย จนทิ้งเวลามานาน


กระทั่งต้นปี 64 จึงติดต่อทางมูลนิธิกระจกเงา เพื่อให้ช่วยตามหาตัวคุณแอร์ หลังเห็นข่าวของน้องหลิว สาวโรงงานที่หายตัวไป ก่อนพบว่าถูกฆาตกรรม และกลายเป็นศพนิรนาม และไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.บ้านข่อย เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2564 เพื่อใช้เป็นเอกสารในการยื่นติดตามตัวคนหาย


จนเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 65 ได้มีการเก็บตัวอย่างดีเอนเอจากแม่ของคุณแอร์ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับศพนิรนามที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และพบว่าดีเอนเอ ตรงกับศพนิรนามของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ถูกพบเป็นศพเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 หรือ 10 วันหลังจากคุณแอร์หายจากบ้านไป


คุณฌัฌชา ทางลูกพี่ลูกน้อง เชื่อว่า คุณแอร์ถูกฆาตกรรม และนำศพมาทิ้งอำพรางที่อยุธยา และปมสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ซึ่งมีคนที่สงสัยอยู่ในใจบ้าง หนึ่งในนั้นเป็นชาย อายุ 30 กว่าๆ ที่เคยมาหาคุณแอร์แถวจ้านช่วง 1 เดือนก่อนหายตัวไป แต่เธอยอมรับว่าจำรูปพรรณสัณฐานไม่ได้ และแม่ทราบว่าเป็นใคร ทำงานที่ไหน ส่วนตัวกังวลใจร่าที่คดีล่วงเลยมา 8 ปี จะยากในการติดตามพยานหลักฐาน

หลังจากไปรับกระดูกมาแล้ว ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และญาติๆ ได้เดินทางมาที่ใกล้จุดพบศพของคุณแอร์ ที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเชิญดวงวิญญาณลูกสาวที่หายไป 8 ปี ทันทีที่คุณพ่อ และคุณแม่จุดธูป ก็พูดขึ้นมาว่า "แอร์ กลับบ้านเรานะลูก แม่มารับกลับแล้วลูก ใครที่ทำกับลูก ขอให้มันรับเวรรับกรรมไปนะลูก ดลจิตดลใจให้จับให้ได้นะลูกแม่มารับแล้วลูก"

ก่อนที่พ่อจะบอกว่า "พ่ออโหสิกรรมให้นะลูก พ่อให้อภัยนะลูก พ่อมารับแล้วลูก" จากนั้นคุณแม่ก็ยืนขึ้น และเกาะขอบสะพาน และมองไปยังจุดที่พบร่างของลูกสาว ก่อนพูดว่า "ทำไมต้องโหดร้ายกับลูกแม่จังเลย" จากนั้นทุกคนก็เดินกลับไปขึ้นรถ เพื่อนำกระดูกไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดข่อยเหนือ ลพบุรี


ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงาบอกว่า หลังจากมูลนิธิได้รับแจ้ง จึงได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบ ทั้งเรื่องทะเบียนราษฎร์ ประกันสังคม และการติดคุกในเรือนจำ รวมทั้งการเดินทางออกนอกประเทศ แต่ไม่พบประวัติ //ซึ่งเคสน้องแอร์ เป็นหนึ่งในเคสที่สงสัยว่าอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว จึงเริ่มกระบวนการในการเก็บดีเอ็นเอ โดยการประสานกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่เพื่อนำดีเอ็นเอมาเปรียบเทียบ

กระทั่งผ่านไปสองเดือนพบว่าน้องแอร์คือหญิงที่ถูกฆาตกรรมตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งคุณแอร์ถูกพรากความยุติธรรมไป ตั้งเเต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ซ้ำยังถูกพรากความยุติธรรมไปจากการที่ไม่ถูกติดตาม และไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อเหตุกับเขา

ขณะที่ทางคดี พันตำรวจเอก ธีรวุฒิ แสงมณี ผู้กำกับ สภ.ท่าเรือ เปิดเผยว่า ปมการก่อเหตุตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ชู้สาว และ ชิงทรัพย์ เพราะก่อนหายไป ได้นำทรัพย์สินเป็นรถ จักรยานยนต์ และสร้อยคอไป


การทราบว่าผู้ตายเป็นใครในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการทำงานของตำรวจ และสามารถย้อนว่าก่อนเสียชีวิต มีผู้ใกล้ชิดเป็นใครบ้าง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่มีตุ๊กตาคนใกล้ชิดที่สามารถทำให้การสืบสวนเดินต่อได้ แต่ขอสงวนรายละเอียดไว้ เนื่องจากเวลาเนิ่นนานมาแล้ว แต่ยืนยันตำรวจจะทำอย่างเต็มที่

รับชมได้ทางยูทูบ :  https://youtu.be/aYUqd5IL648