หนุ่มแทงคอเมียดับ! ขับรถหนีสุดท้ายชน-หนีไม่รอด ในรถพบเตาอั้งโล่ คาดวางแผนจบชีวิตแต่ไม่สำเร็จ

เปิดวงจรปิดวินาที ผู้ต้องหาใช้มีดแทงคอภรรยาตัวเองเสียชีวิต ขับรถหนีแต่สุดท้ายไปชนมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง โดยในรถพบเตาอั้งโล่ เชื่อผู้ก่อเหตุวางแผนจะฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ขณะที่ครอบครัวคนตายเผยชนวนเหตุน่าจะมาจากเรื่องเงินเพราะผู้ก่อเหตุมีหนี้สินและเคยถูกคนมาทวงหนี้


นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ที่จะเห็นนายกฤษฎา จันทร์แดง ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้มีดแทงคอ นางสาวน้ำเพชร เสียชีวิต ที่บ้านพักซึ่งเปิดเป็นร้านซ่อมโช๊ค และลูกหมาก ที่ย่านโชคชัย 4 ขับรถโตโยต้ายาริสหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ แล้วขับผ่านซอยอมรพันธ์ 9 แยกซอย 8 เสนานิคม 1 ตอน เวลาประมาณ 3 ทุ่ม 13 นาที


ภาพกล้องวงจรปิดอีกมุมในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่จะเห็นนายกฤษฎาขับรถผ่านซอยนี้ จากนั้นได้เลี้ยวซ้ายออกจากปากซอยไป


อีกช่วงจากกล้องวงปิดตัวเดียวกัน ที่เห็นรถของนายกฤษฎาอีกครั้ง ตอน 3 ทุ่ม 21 ที่วิ่งผ่านปากซอย ซอยอมรพันธ์ 9 แยกซอย 8 เสนานิคม 1 และห่างจากปากซอยไปไม่ถึง 10 เมตร รถของนายกฤษฎาก็ไปชนกับรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างซึ่งขายกาแฟ จนนายกฤษฎาหมดสติ

จากนั้นตอน 3 ทุ่ม 31 จะเห็นรถกู้ภัยร่วมกตัญญู เปิดไซเรนมาปฐมพยาบาลนายกฤษฎา ซึ่งพบว่าหมดสติอยู่ภายในรถยนต์ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เร่งปฐมพยาบาลนายกฤษฎา ซึ่งนอกจากจะหมดสติแล้วยังมีบาดแผลตามร่างกาย เพื่อนำส่งโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ


ทั้งนี้จากการตรวจสอบรถเก๋งของนายกฤษฎา ซึ่งพบว่ารถด้านหน้ายุบและกระจกแตกแล้ว ภายในรถยังพบสร้อยคอทองคำ และโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ ที่เบาะด้านหลังยังพบเอาตั้งโล่ ที่ยังติดไฟอยู่ด้วย


พันตำรวจเอกพรทวี สมวงค์ ผู้กำกับการ สน.โชคชัย หลังจากนายกฤษฎาใช้มีดแทงคอนางสาวน้ำเพชร ตอนประมาณ 1 ทุ่มแล้ว นายกฤษฎา ได้ขับรถหลบหนีออกมาจากบ้าน และเชื่อว่าน่าจะฆ่าตัวตายโดยใช้วิธีรมควันในรถ แต่ไม่สำเร็จและรถเกิดอุบัติเหตุก่อน โดยหากนายกฤษฎา อาการพ้นขีดอันตรายก็จะอายัดตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ และหากอาการดีขึ้ันก็จะสอบปากคำ และแจ้งข้อหาฆ่าคนตายต่อไป


ครอบครัวคนตายทำพิธีเชิญดวงวิญญาณและรับศพ-เชื่อปมมาจากเรื่องเงินเพราะผู้ก่อเหตุมีหนี้สิน


ขณะที่ในช่วงสายครอบครัวของนายกฤษฎา และ ครอบครัวของนางสาวน้ำเพชร ได้ทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณนางสาวน้ำเพชร ท่ามกลางความโศกเศร้าของคนในครอบครัว


แม่ของนางสาวน้ำเพชร บอกว่าเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ลูกสาวเล่าว่านายกฤษฎาเป็นโรคซึมเศร้า และได้นำตัวไปรักษามาระยะหนึ่งแล้ว และต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายกฤษฎาตามกฎหมาย ขณะที่พ่อของนายกฤษฎา ซึ่งยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลถึงเรื่องที่เกิดขึ้น


นอกจากนี้ มีรายงานจากคนใกล้ชิดของนายกฤษฎา ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายกฤษฎาเคยมีปัญหากับนางสาวน้ำเพชร เรื่องหึงหวง เนื่องจากนายกฤษฎาระแวงว่านางสาวน้ำเพชรจะมีชายอื่น จนถึงขนาดขู่ฆ่ามาแล้ว


จากนั้นครอบครัวของนางสาวน้ำเพชร ได้ไปรับศพนางสาวน้ำเพชร ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนา ที่วัดโบสถ์ จังหวัดชัยนาท โดยแม่ของนางสาวน้ำเพชร บอกว่า ปกติจะคุยกับลูกสาวทุกวัน เพิ่งไม่ได้คุยเมื่อวานนี้ ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ลูกสาวบอกว่าทะเลาะกับนายกฤษฎา ถูกกระชากแขนจนล้ม จนพ่อแม่ฝ่ายชายต้องเข้ามาห้าม


ส่วนชนวนเหตุที่นายกฤษฎาทะเลาะกับลูกสาวเชื่อว่ามาจากเรื่องเงิน และนายกฤษฎาน่าจะขอสร้อยทองจากลูกของตนแต่ลูกของตนไม่ให้ และเมื่อช่วงวันแม่ที่ผ่านมา ลูกสาวบอกว่าจะกลับเข้าบ้านแต่มีคนมาดักรอหน้าบ้าน จึงทำให้ลูกสาวมาหาตนที่บ้านเกิดที่จังหวัดชัยนาท ซึ่งคาดว่านายกฤษฎาคงมีปัญหาเรื่องหนี้สินและมีคนมาตามทวงหนี้


ซึ่งตนกับนายกฤษฎาเคยเจอกันครั้งเดียว ตอนที่ลูกสาวพามาหาที่บ้านเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาแต่ไม่ได้คุยอะไรกันมาก ทั้งนี้ครอบครัวของนายกฤษฎาบอกว่าจะรับผิดชอบแต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือขนาดไหนเพราะลูกของตนก็มีลูกสาวอายุ 11 ขวบ


ขณะที่น้าของนางสาวน้ำเพชร บอกว่าหลานสาวมาอยู่ที่กรุงเทพหลายปีแล้ว แต่ย้ายมาอยู่กับนายกฤษฎา ที่โชคชัย 4 ได้ประมาณ 5 เดือน โดยวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลานสาวโทรศัพท์มาบอกกับทางบ้านว่ามีปัญหากับนายกฤษฎา ทั้งเรื่องที่นายกฤษฎาระแวง และ เรื่องหนี้สินของนายกฤษฎา จนถึงขั้นที่หลานสาวบอกว่าถ้าทนไม่ไหวจะออกจากบ้านของนายกฤษฎา


ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนมองว่าแรงเกินไป ไม่ใช่ฆ่ากันแบบนี้ ส่วนที่นายกฤษฎาขับรถออกไปเหมือนจะฆ่าตัวตายนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าทำไปทำไม แต่รถคันที่ขับไปก็เป็นรถหลานสาวตน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/FHcMK6bpRKI