อาชญากรรม

เพจบิ๊กเกรียน! เผยหนังสือสั่งย้าย 'ส.ต.ท.หญิง' ของ สันติบาล1 ซ้อนคำสั่ง กอ.รมน.ภาค 4

โดย paweena_c

24 ส.ค. 2565

220 views

เพจบิ๊กเกรียน เผยแพร่หนังสือคำสั่งย้ายของสันติบาล 1 เป็นคำสั่งซ้อนกับ หนังสือคำสั่งที่ให้ไปช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 และยังมีภาพของสิบตำรวจโทหญิงรายนี้ ไปออกงานร่วมกับ ส.ว.


เพจบิ๊กเกรียน ได้เผยแพร่หนังสือคำสั่ง กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ที่ 18/2565 ทีลงนามท้ายหนังสือโดย พลตำรวจตรี อุดร วงษ์ชื่น ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1


ในหนังสือระบุให้ สิบตำรวจโทหญิง ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ สำนักงานผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากต้นสังกัดเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2565


มีรายงานว่าหนังสือคำสั่งดังกล่าว เป็นการออกคำสั่งที่ทับซ้อนกับคำสั่งเดิมที่ต้นสังกัดอนุมัติให้ สิบตำรวจโทหญิง ไปปฎิบัติงานที่ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า)


เนื่องจากคำสั่่งช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค4 เป็นคำสั่งที่ใหญ่กว่า ทำให้หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตุว่า คำสั่งประเภทนี้เป็นการป้องกันการผิดระเบียบของ สิบตำรวจโทหญิง คนดังกล่าว หรือไม่ เนื่องจาก สิบตำรวจโทหญิง จะได้ไม่ต้องปฎิบัติงานประจำที่ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) อย่างจริงจัง แต่สามารถอ้างได้ว่ามา ปฎิบัติงานที่สำนักงานผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1


ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าว ผู้บังคับบัญชาต้องรับรู้เพราะเป็นคนเซ็นอนุมัติโดยคำสั่งดังกล่าวจะต้องออกทุกปี เนื่องจากมีกรอบระยะเวลาการไปช่วยราชการแบบปีต่อปี


ขณะที่ พลตำรวจตรีอุดร วงษ์ชื่น ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 เปิดเผยว่า หนังสือคำสั่งฉบับดังกล่าว ได้มอบหมายให้ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ชี้แจงเพื่อให้เป็นทิศทางเดียวกันในการ ซึ่งตนไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด


โดยนอกจากทางเพจบิ๊กเกรียน ได้มีการเผยแพร่หนังสือคำสั่งของสิบตำรวจโทหญิงแล้ว ยังได้มีการเผยแพร่ภาพของสิบตำรวจโทหญิงอีกหลายภาพ ซึ่งไปร่วมงานในหลายที่


เช่นภาพนี้ เป็นภาพที่สิบตำรวจโทหญิงรายนี้ ซึ่งทางเพจบิ๊กเกรียน เรียกว่า มาดามหมวย ติดตาม ส.ว. ท่านหนึ่งไปออกงาน ทั้งงานศพ และ งานวันเกิดตำรวจชั้นผู้ใหญ่


และไม่เท่านั้น ยังมีภาพหลุดที่ สิบตำรวจโทหญิง ไปยืนพูดคุยกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับนายพลคนหนึ่ง ซึ่งนายพลคนดังกล่าวได้ยืนนอบน้อมคุยกับสิบตำรวจโทหญิงรายนี้


นอกจากภาพนี้ ยังมีคลิปของนางสาวเอ อดีตทหารหญิง ซึ่งถูกสิบตำรวจโทหญิง ทำร้ายถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ อีกหลายคลิป เช่นคลิปนี้ เป็นคลิปที่นางสาวเอ คลานเข่าเข้าไปหาสิบตำรวจโทหญิง เพื่อเข้าไปขอโทษสิบตำรวจโทหญิง


นอกจากมีคลิปที่นางสาวเอถูกใช้งานเยี่ยงทาส โดยใช้ให้เช็ดกระเป๋าตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม หลังจากเช็ดกระเป๋าเสร็จ นางสาวเอต้องมาเช็ดรองเท้าให้สิบตำรวจโทหญิงต่อ โดยจากช่วงเวลาที่ใช้งานเป็นช่วงเวลาตี 1



แฟนเจ๊นุช เตรียมเข้ามอบตัวที่ สภ.ชะอำ หลังถูกอดีตทหารหญิง ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย ด้านตำรวจจ่อแจ้งข้อหาทันที


พันตำรวจเอก วายุภักษ์ วงศ์ศักดิรินทร์ ผู้กำกับการ สภ.ชะอำ เผยว่า เมื่อวานนี้ผู้เสียหาย พาทนายความมาแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ต้องหาผู้หญิงและผู้ชายรวม 2 คน ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ และพาผู้เสียหายไปชี้จุดที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง พร้อมพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลชะอำ


ส่วนข้อหาอื่น ๆ ตำรวจจะต้องรวบรวมหลักฐานพยานก่อน ทั้งการเรียกสอบสวนพยานเพิ่มเติม และการเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ จากนั้นจะพิจารณาพยานหลักฐานอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นผู้ชาย ได้ติดต่อขอมอบตัวแล้ว


ด้าน พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในวันพรุ่งนี้ เมื่อผู้ต้องหาเข้ามอบตัว พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จะแจ้งข้อกล่าวหาทันที เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


ขณะที่นายคมสิทธิ์ จังพานิช แฟนของสิบตำรวจโท กรศศิร์ หรือ เจ๊นุช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า วันพรุ่งนี้จะเดินทางไปมอบตัวที่ สภ.เพชรบุรี ตามที่ถูกแจ้งความ โดยยอมรับว่า ทุบตี น.ส.เอ จริง หลังจากนี้ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ผิดว่ากันไปตามผิด



"กมธ.ป.ป.ช." รับเรื่องสอบ ปม ส.ต.ท.หญิง อ้างมีสามีเป็นส.ว. เผย มีข้อสังเกตหลายอย่าง พร้อมเรียกสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง


นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบหรือ กรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีส.ต.ท.หญิง ผบ.หมู่ กก.4 บก.1 ซึ่งมีข่าวว่าเป็นภรรยาสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ทำร้ายร่างกายทหารหญิงรับใช้ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่กมธ.พิจารณาแล้วว่าควรจะนำเข้ามาพิจารณาสอบหาความจริง ซึ่งตอนนี้เจ้าพนักงานตำรวจได้มีการดำเนินคดี และเชื่อว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด


นายธีรัจชัย กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจ ส.ต.ท.หญิง คนดังกล่าว โดยปกติแล้วการรับข้าราชการตำรวจจะต้องมีกรรมการการรับ แต่ในกรณีนี้ค่อนข้างจะมีความคลุมเครือว่าเข้าด้วยวิธีใด ซึ่งกรณีความรู้ความสามารถที่ขาดแคลน เช่นการเงินนั้น มีจำนวนมากที่จะต้องเปิดรับเข้าไป หรือเป็นการรับเฉพาะคนหรือไม่ หรือมีเส้นสายเป็นจริงตามคำกล่าวอ้างว่า มี ส.ว.ที่เป็นสามีสามารถฝากได้


เรื่องดังกล่าวสามารถเห็นได้ทั่วไป ที่มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ฝากลูกเข้าทำงานเป็นทหาร หรือนักการเมืองต่างๆ ฝากลูกเข้ามาเป็นตำรวจ ซึ่งระบบแบบนี้เป็นระบบอุปถัมภ์ ไม่ใช่ระบบที่จะสร้างการแข่งขันเข้าสู่การรับข้าราชการได้อย่างเป็นธรรม


นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการตั้งพนักงานร้านกาแฟไปเป็นทหาร ซึ่งเอาไปเข้าในโรงเรียนกองกำลังพลทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยได้ และมีช่วงหนึ่งไปอยู่ในโรงเรียนช่างทหาร และมีข่าวออกมาว่าได้มีการเอาไปช่วยราชการ แต่ไม่ปรากฏว่าไปที่ไหน แต่กลับนำไปรับใช้


ซึ่งข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อมีการนำไปใช้ 2 ปีอย่างทรมานและมีการทำร้ายสารพัดรูปแบบ ซึ่งเดิมการนำคนไปรับใช้นายทหารใหญ่ก็ผิดแล้ว แต่การที่นำไปรับใช้ตามที่ ส.ต.ท.หญิง อ้างว่าเป็นภรรยา ส.ว. และได้มีการทารุณกรรมจนเป็นเรื่องใหญ่โต ทั้งนี้ กมธ.จะเตรียมผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่อไป


https://youtu.be/A-Fk3Vr0npk


คุณอาจสนใจ

Related News