หนุ่มขับย้อนศรชนครูสอนดับเพลิงดับ พลิกลิ้น อ้างหลับใน พบประวัติฉาว เคยวิ่งราวทอง

เข้าพบตำรวจแล้ว หนุ่มขับกระบะย้อนศรชนเก๋งครูสอนดับเพลิงเสียชีวิต ตรวจสอบเจอประวัติไม่ธรรมดา เคยวิ่งราวทรัพย์ร้านทองที่ราชบุรี ช่วงต้นปี 2564 ยังอยู่ระหว่างคุมประพฤติกรรม 1 ปี 4 เดือน ขณะที่ลูกสาวคนตายบอกไม่ต้องมาขมาศพ เพราะครอบครัวทำใจไม่ได้



กรณีอุบัติเหตุกระบะขับย้อนศรด้วยความเร็ว แถมยังวิ่งเลนขวา แล้วไปพุ่งชนประสานงานรถเก๋งคันสีเขียวอีกคัน เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค ช่วงหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี



ทำให้คนขับรถเก๋ง คือ นายไพฑูรย์ รอดภัย อายุ 45 ปี ครูสอนดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฝีมือดีของเทศบาลเมืองปากแพรก บาดเจ็บสาหัส ติดคาซากรถ กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือนำตัวออกมา สุดท้ายนายไพฑูรย์เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล ส่วนคนขับรถกระบะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย



ตอนแรกคนขับยอมรับว่า ตั้งใจขับรถย้อนศร เพื่อที่จะไปเข้าซอยโรงแรมบ้านสวนฝน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดกลับรถไปเกือบ 500 เมตร จึงไม่อยากไปกลับรถไกล



อุบัติเหตุครั้งนี้สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับญาติ และคนในแวดวงดับเพลิง แวดวงกู้ภัย พากันร่วมโพสต์ไว้อาลัยให้กับนายไพฑูรย์ ที่ต้องสูญเสียบุคลากรฝีมือดี เพียงเพราะความมักง่าย ของคนที่ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎจราจร นายไพฑูรย์เป็นครูสอนดับเพลิงชั้นดี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกคนในจังหวัดกาญจนบุรี ล้วนเคยผ่านการฝึกโดยนายไพฑูรย์มาแล้วแทบทุกคน จนมีกระแสขอให้ลงโทษคนขับกระบะอย่างจริงจัง และยึดใบขับขี่ไม่ให้ขับรถอีกต่อไป



ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังคนขับรถกระบะคันดังกล่าว ผ่านทางแชทเฟซบุ๊ก เจ้าตัวไม่ขอให้ข่าว พร้อมบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจ แต่คราวกลับบอกว่า 'หลับใน'



"เวลานั้น 8 โมง ผมจะย้อนศรไปเพื่ออะไร รถก็ราชบุรี ผมจำอะไรไม่ได้เลย เหล้าก็ไม่ได้กิน ให้ตรวจทุกอย่างในกล้องก็เห็นอยู่ วิ่งตรงไป ไปเลย ถ้าไม่ชนพี่เขา ผมก็เต็ม ๆ ข้างทาง ผมเสียใจนะ ไม่ใช่ไม่เสียใจ ผมหลับในจริง ๆ พี่ ผมยอมรับข้อกล่าวทุก ๆ อย่าง"



ล่าสุด เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา นายณัฐรัฐ ทาเกตุ อายุ 26 ปี ชาวราชบุรี คนขับรถกระบะ พร้อมน้าสาว เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี แล้ว เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและรับทราบข้อกล่าวหา โดยในเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต



ขณะที่นายณัฐรัฐ ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า อุบัติเหตุในวันดังกล่าว เกิดจากตนเองเกิดวูบหลับใน และไม่ได้มีเจตนาที่จะขับรถย้อนศรจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนเดินทางกลับทันที



ขณะเดียวกัน นางสาวประภัสสร อายุ 25 ปี ลูกสาวของนายไพฑูรย์ ผู้เสียชีวิต ได้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อขอเอกสารไปแจ้งยืนยันการเสียชีวิตของพ่อ และได้มีโอกาสพบกับผู้ก่อเหตุเป็นครั้งแรก โดยน้าของผู้ก่อเหตุพยายามเข้ามาพูดคุย ขอพาผู้ก่อเหตุไปขอขมาศพของนายไพฑูรย์ แต่ถูกปฏิเสธ



โดย นางสาวประภัสสร กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุยังไม่มาพูดคุยกับตนโดยตรง มีเพียงน้าสาวมาขอพาหลานเข้ามาขอขมาศพพ่อ ซึ่งตนเองและครอบครัว รวมถึงเพื่อนร่วมงานของพ่อ ยังไม่พร้อมที่จะเจอหรือให้ผู้ก่อเหตุเข้าไปเคารพศพของพ่อ ทุกคนยังไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ อาจทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น เชื่อว่า หากดวงวิญญาณของพ่อรับรู้ ก็คงไม่อยากให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาที่งานศพเช่นกัน



ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของนายณัฐรัฐ พบว่า เคยก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำ 3 เส้น จากร้านทองในพื้นที่ สภ.เมืองราชบุรี เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 โดยขณะนี้นายณัฐรัฐ ยังอยู่ในระหว่างถูกควบคุมความประพฤติเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน ก็มาก่อเหตุขับรถย้อนศรทำให้นายไพฑูรย์เสียชีวิต แต่คดีอุบัติเหตุจะไม่กระทบเรื่องของการคุมประพฤติในคดีวิ่งราวทอง

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/CKV9q6wVqzo