“ไอซ์ สารวัตร” ยันไม่ใช่คนถือกุญแจบ้าน “นัทปง” ฟาดตำรวจควรเข้าค้นบ้านตั้งแต่วันแรกแล้ว

“ไอซ์ สารวัตร” ผู้ประกาศข่าว หอบหลักฐานมาพบพนักงานสอบสวน ยืนยันไม่ใช่คนถือกุญแจบ้าน “นัทปง” เป็นเพียงแค่คนประสานงานระหว่างครอบครัวนัทปงกับตำรวจ ฟาดตำรวจควรต้องเข้าค้นบ้านตั้งแต่วันแรกแล้ว

วันนี้ (7 ธ.ค.) เวลา 13.18 น. นายสารวัตร กิจพานิช หรือ ไอซ์ ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ตามหมายเรียกสอบปากคำในกรณีการเสียชีวิตของนายณัฐวุฒิ ปงลังกา หรือนัทปง ผู้สื่อข่าวช่อง 8

โดยนายสารวัตรเปิดเผยว่า การสอบปากคำหลัก ๆ วันนี้จะเป็นการนำพยานหลักฐาน โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือของนายณัฐวุฒิ มามอบให้กับพนักงานสอบสวน ตามที่ทางครอบครัวได้มอบหมายตนเป็นตัวแทนนำมามอบตำรวจ เบื้องต้นจากการเปิดดูเนื้อหาในโทรศัพท์บางส่วนตามมารยาทในฐานะคนรู้จัก ก็ไม่พบข้อบ่งชี้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุการเสียชีวิต เท่าที่ทราบ ญาติเป็นคนนำโทรศัพท์มือถือนายณัฐวุฒิออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ และทางครอบครัวไม่ได้ฝากอะไรมาถึงพนักงานสอบสวนเป็นพิเศษ

สำหรับประเด็นเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า ทางตำรวจจะเข้าตรวจค้นบ้านของนายณัฐวุฒิและมีการประสานให้นายสารวัตรนำกุญแจบ้านมาให้ทางตำรวจนั้น นายสารวัตรชี้แจงว่า น่าจะเป็นเรื่องการสื่อสารที่เข้าใจผิดกัน ซึ่งส่วนตรงนี้ ตนก็ไม่อยากจะกล่าวโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตามจริงแล้วตนก็ไม่อยากจะกล่าวโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตนเป็นเพียงแค่ผู้ประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวนายณัฐวุฒิ ในการนัดหมายเรื่องการเข้าตรวจค้นบ้าน ในฐานะที่ตนเป็นเพียงพี่น้องของผู้เสียชีวิตคนหนึ่ง ไม่ได้มีฐานะเป็นเจ้าทุกข์

โดยตนทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานกับทางครอบครัวว่า ทางตำรวจประสงค์อยากจะเข้าค้นบ้านของนายณัฐวุฒิ ทางครอบครัวก็ยินดี แต่ติดปัญหาตรงที่ครอบครัวอยู่ในระหว่างการจัดพิธีศพนายณัฐวุฒิตามประเพณีชาวเหนือ ซึ่งตอนแรกถามตำรวจประสานจะขอเข้าตรวจค้นบ้านในวันนี้ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ได้แจ้งทางตำรวจไปว่า ทางครอบครัวขอเลื่อนเพราะยังติดงานศพนายณัฐวุฒิ

ไอซ์ สารวัตร เน้นย้ำว่าตนเองไม่ใช่คนถือกุญแจบ้านนายณัฐวุฒิแต่อย่างใด ไม่เคยถือกุญแจบ้านนายณัฐวุฒิ ไม่เคยเห็น และไม่เคยส่งให้ใครด้วย ตนเป็นเพียงแค่ตัวกลางในการประสานงานระหว่างครอบครัวกับตำรวจเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไร ตนก็ไม่มีอำนาจการตัดสินใจอยู่แล้ว และไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ข้าวของภายในบ้านของนายณัฐวุฒิมีอะไรบ้าง ถ้าตนถือกุญแจบ้านจริงและเป็นคนเปิดบ้านให้ตำรวจเข้าค้น ก็คงตอบไม่ได้หากมีข้าวของในบ้านนายณัฐวุฒิหายขึ้นมา

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มีรายงานว่าทางตำรวจกำลังพิจารณาเตรียมออกหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านนายณัฐวุฒินั้น นายสารวัตรระบุว่า เป็นหน้าที่ของทางตำรวจหรือไม่ และเหตุการณ์นี้ผ่านมาแล้วกี่วัน จริง ๆ แล้วตำรวจควรต้องเข้าตรวจค้นบ้านนายณัฐวุฒิตั้งแต่วันแรก ๆ ส่วนตัวที่เคยทำข่าวคดีต่าง ๆ มานาน ก็ทราบดีว่า บางกรณีตำรวจก็ไม่จำเป็นต้องขอหมายค้นก็ได้ หรือแม้กระทั่งพยานต่าง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกก็ได้ เพราะทุกคนก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลกับทางตำรวจอยู่แล้ว ไปขึ้นหมายเรียกแบบนี้ทุกคนก็ตกใจกันหมด จริงๆ แค่ประสานขอความร่วมมือให้ทุกคนมาให้ปากคำทุกคน ก็พร้อมเดินทางมาอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ตามที่นำเสนอข่าวไปว่า ตอนแรกผู้พบศพแจ้งว่านายณัฐวุฒินั้นกินยาฆ่าตัวตายนั้น ตนคงตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงแจ้งไปแบบนั้น และไม่รู้แบบแผนว่าทางเจ้าหน้าที่ควรต้องทำอย่างไรบ้างหรือต้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างไร รู้แค่ว่า วันนั้นมีเจ้าหน้าที่เข้าไปบ้าง แต่ไม่ทราบว่าไปทำอะไร

ส่วนประเด็นที่ว่าตำรวจจะมีข้อมูลพยานหลักฐานทั้งกล้องวงจรปิดหรือข้อมูลอื่น ๆ แล้วหรือไม่นั้น ตนไม่มั่นใจ เพราะนี่เป็นการมาพบตำรวจเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่กันพูดคุยทางโทรศัพท์ ขณะที่ในเรื่องทางคดี ก็เป็นฝ่ายญาติดำเนินการเป็นหลักมากกว่า

สำหรับคนในวงที่รับประทานอาหารกับนายณัฐวุฒิเป็นครั้งสุดท้ายนั้น 2 คนแรกคือ น.ส.โอ และ น.ส.ออ ตนรู้จัก เพราะเป็นพนักงานของสถานีและเพื่อนร่วมงานกัน ส่วนอีก 2 คนที่เป็นเพื่อนนายณัฐวุฒิ ตนรู้จักแค่นายต้น ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายณัฐวุฒิมานานแล้ว แต่ตนไม่สนิท ส่วนนายบิ๊กไม่เคยเจอหน้าแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิเองก็มีสังคมอยู่หลายสังคม โดยเฉพาะสังคมสื่อมวลชนด้วยกันที่ทุกคนก็รู้จักนายณัฐวุฒิเป็นอย่างดีและแน่นอนว่า นายณัฐวุฒิไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนวงอื่นให้ตนฟัง

ขณะที่ประเด็นเรื่องซองสารไซยาไนด์นั้น ประเด็นนี้ตามนายพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี ซึ่งเป็นหัวหน้าของนายณัฐวุฒิอีกที เคยนำเสนอไปแล้วว่า ไม่มีใครเจอซองยาดังกล่าว ตนก็ไม่ทราบ คนที่ทำงานด้วยกันก็ไม่ทราบ แต่เป็นประเด็นที่พวกเราตั้งข้อสงสัยและไม่ได้ปล่อยผ่านในเรื่องนี้

ซึ่งไม่ว่าอย่างไร ในฐานะที่นายณัฐวุฒิเป็นพี่ชายคนหนึ่ง เราก็ไม่อยากตีความให้กระทบเกียรติของผู้ตายและความรู้สึกของครอบครัว ถือเป็นเรื่องที่ทำให้เราลำบากใจในเรื่องของการตีความและวิเคราะห์ข่าวนี้ นั่นเลยทำให้เราต้องหาข้อมูลข้อเท็จจริงออกมาก่อน จึงจะสามารถนำออกมาพูดได้ ดังนั้น พวกเราไม่ใช่กลุ่มคนที่พบซอง แต่เกิดจากการที่มีคนมาบอกว่า นายณัฐวุฒิเคยพูดถึงและเคยเอามาให้ดู เลยให้คนที่นำข้อมูลมาให้นำข้อมูลซองดังกล่าวมาให้ดู

ขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องสารไซยาไนด์ ตนก็ไม่เคยได้ยินจากปากของนายณัฐวุฒิ ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เราจะพูดถึงสาธารณะเฉพาะตอนที่ทำข่าวเท่านั้น แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีไว้ในครอบครองแต่อย่างใด

นายสารวัตรกล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ยังไม่อยากพุ่งเป้าในเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต เพราะตอนนี้พูดอะไรไป ก็กลัวว่าจะถูกนำไปตีความแบบผิด ๆ เช่นเดียวกับความรู้สึกของคนในครอบครัวที่พอรู้ว่าถูกออกหมายเรียกก็รู้สึกตกใจ แต่อย่างไรก็ตาม ตนสนิทสนมกับนายณัฐวุฒิและนั่งจัดรายการด้วยกันในวันสุดท้ายก่อนที่นายณัฐวุฒิจะเสียชีวิตไม่กี่ชั่วโมง ตนก็ไม่เห็นสัญญาณว่า จะทำร้ายตนเอง เช่นเดียวกับคนในวงนั้นที่ทุกคนล้วนแต่จะเป็นคนรู้จัก ก็ไม่มีเหตุผลที่จะตอบได้ว่าทำร้ายกันด้วยเรื่องอะไร