อาชญากรรม
“สันธนะ” เปิดปฏิบัติการทุบหม้อข้าว เอาคืนตำรวจทองหล่อ ปล่อยผับไม่มีใบอนุญาตเปิดเกินเวลา
15 พ.ย. 2568
363 views
“สันธนะ” บุก สน.ทองหล่อ เปิดปฏิบัติการทุบหม้อข้าว ขอเอาคืนผู้กำกับ - รองผู้กำกับ ละเว้นปฎิบัติหน้าที่ปล่อยให้สถานบันเทิงเปิดเกินเวลา เผยเคยมาร้องเรียนแล้วคดีไม่คืบ แต่ถูกนัดหมายให้ตัวเองมาคุยทำนองเสนอผลประโยชน์ให้ พร้อมแฉโพยส่วยสถานบันเทิง
วันนี้ (15 พ.ย.68) ที่ สน.ทองหล่อ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจ นำหลักฐานบันทึกประจำวันการเข้าแจ้งความสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ซึ่งลงวันที่ 7 สิงหาคม 2568 รูปภาพของสถานบันเทิงดังกล่าว เข้าแจ้งความกับผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ และรองผู้กำกับการฝ่ายปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ในข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่หลังพบว่าคดีไม่มีความคืบหน้า
โดยวันนี้นายสันธนะใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้เห็นกำไลอีเอ็ม ที่ติดอยู่ที่ข้อเท้าเพื่อยืนยันว่าตัวเองดำเนินการตามคำสั่งของศาล ที่อนุญาตปล่อยตัวตัวเองชั่วคราว ซึ่งการติดกำไลอีเอ็มเป็นครั้งแรก และในเบื้องต้นตัวเองได้มีการสอบถามข้อมูลกับทางเจ้าที่ศาลมาแล้วว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง และยืนยันว่าตัวเองจะไม่หลบหนีไปไหนอย่างแน่นอน
นายสันธนะ เปิดเผยว่าวันนี้เดินทางมาเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กำกับ สน.ทองหล่อ และ รองผู้กำกับฝ่ายป้องกันปราบปราม พร้อมกล่าวว่าขอเอาคืนก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยแจ้งความไว้ในวันที่ 7 สิงหาคม 2568 เนื่องจากว่ามีประชาชนมาร้องเรียนกับตนว่าได้รับความเดือดร้อนจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ระหว่างซอยเอกมัย 5 และ ซอยเอกมัย 7 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ เปิดเกินเวลาจนถึงเวลาตีสี่ ส่วนสถานบันเทิงแห่งนี้จะเป็นสถานบันเทิงที่อยู่ในโซนนิ่งให้เกินเวลาตามกฏหมายหรือไม่นั้น แต่ตัวเองตรวจสอบมาเบื้องต้นแล้วแต่อยากให้ทางตำรวจ สน.ทองหล่อ เป็นผู้ตรวจสอบอย่างละเอียด
ซึ่งทางผู้กำกับ สน.ทองหล่อ ได้พยายามมีการนัดแนะให้ตัวเองมาคุยกับบุคคลคาดว่าเป็นเจ้าของร้านที่ตัวเองร้องเรียน แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้จักเขาที่พยายามจะเสนอผลประโยชน์ให้กับตัวเอง เพื่อที่จะระงับ หรือหยุดการร้องเรียนในครั้งนี้ แต่ตัวเองไม่ได้รับ และถ้าหากรับก็คิดว่าคงจะโดนยัดข้อหากรรโชกทรัพย์ ตัวเองจึงเดินออกมาจากห้องปฏิบัติการสายตรวจทันที
พร้อมระบุว่าเรื่องนี้ตำรวจจะต้องทำหน้าที่ในการตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการจับกุมตามที่ตัวเองเคยร้องเรียน ซึ่งเรื่องที่ตัวเองร้องเรียนไม่เป็นความจริงก็ให้กลับมาดำเนินคดีกับตนเอง แต่ไม่ใช่การติดต่อผู้ประกอบการให้มาพูดคุยกับตัวเอง พร้อมตั้งคำถามว่าการทำแบบนี้มีการเรียกรับผลประโยชน์รายเดือนจากสถานบันเทิงแห่งนั้นหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดเมื่อคืนนี้สถานบันเทิงดังกล่าวก็ยังมีการเปิดเกินเวลาอยู่
พร้อมบอกที่มาแจ้งความในวันนี้เพราะมองว่าผู้กำกับ สน.ทองหล่อ และรองผู้กำกับนั้นมีเจตนาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ และจะนำเอกสารหลักฐานที่มีการแจ้งความไปยื่นต่อผู้บัญชาการตำการนครบาลในฐานะผู้บังคับบัญชา เพื่อให้มีการบังคับโทษทางปกครองและทางกฎหมาย ถ้าหากมีการเรียกรับผลประโยชน์รายเดือน พร้อมบอกว่าตัวเองจะทำหน้าที่ตรวจสอบในพื้นที่ทองหล่อ ว่ามีสถานบันเทิงแห่งไหนทำผิดกฎหมายหรือไม่
พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ตัวเองแจ้งความไว้ตั้งแต่ 7 สิงหาคมแล้วก่อนจะเกิดเรื่องดังกล่าวกับตนเอง ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำเพื่อกลั่นแกล้งเหมือนที่เขายัดเยียดกลั่นแกล้ง และยัดข้อหาให้กับตัวเอง ซึ่งเรื่องนั้นเป็นอีกวาระหนึ่งที่จะดำเนินการ
พอถามย้ำว่าเหตุการณ์ที่มันต่อเนื่องกันเช่นนี้ สังคมตั้งคำถามว่าเป็นการเอาคืนแก้แค้นหรือไม่ นายสันธนะ ระบุ ในใจต้องการอยู่แล้วแต่เหตุการณ์นี้ตัวเองเคยแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้วันนี้นำรายละเอียดการส่งส่วยของสถานบันเทิงต่างๆ ให้กับตำรวจท้องที่ และตำรวจทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมามอบให้กับผู้กำกับ สน.ทองหล่อ รวมถึงจะนำไปมอบให้กับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อดำเนินการ ส่วนใหญ่จะได้เป็นรายเดือน ตำรวจท้องที่จะได้มากหน่อยเป็นหลักแสน
นอกจากนี้ยังมีชื่อของสำนักงาน ผบช.น.อยู่ในรายละเอียดด้วยหากนำไปยื่นให้กับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว ถ้าไม่ดำเนินการก็จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ นายสันธนะ ยังกล่าวอีกว่าหากมีการดำเนินการกับหน่วยงานที่มีชื่อในส่วนนี้ การแต่งตั้งตำรวจตำแหน่งยศ พ.ต.อ. ที่จะถึงนี้อาจจะทำให้ ตำแหน่งผู้กำกับ สน.ทองหล่อว่าง และอีกหลายหลายตำแหน่งที่จะว่างเช่นกัน
เมื่อถามว่าทางตำรวจยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่และเป็นการจับนายสันธนะตามหมายจับ ระบุว่า หมายจับนั้นมาตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายนแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการติดตามตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าไปไหนบ้าง แต่ไม่ยอมจับ เพราะต้องการที่จะรอตำรวจยศ พล.ต.อ. กลับมา พอกลับมาแล้วนายตำรวจยศ พล.ต.อ. คนนั้นได้ให้ลูกน้องติดต่อมาหาคนที่ตัวเองรู้จักซึ่งเป็นนักธุรกิจ เพื่อที่จะนัดหมายให้ตัวเองไปพูดคุยกับนายตำรวจยศ พล.ต.อ. ส่วนตัวแต่ตัวเองไม่คุย เพราะไม่รู้จัก ก่อนที่ตัวเองจะมาถูกจับกุมในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568
อย่างไรก็ตามนายสันธนะ ศาลได้ยกมือไหว้ต่อหน้าหน้าศาลพระภูมิที่ สน.ทองหล่อ ว่าหากไม่มีตำรวจในกองบัญชาการตำรวจนครบาลรับส่วย รับผลประโยชน์ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเจริญๆ ยิ่งขึ้น และขอให้ได้รับความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่ง
แท็กที่เกี่ยวข้อง สันธนะ ประยูรรัตน์ ,สน.ทองหล่อ