พี่สาวเผยประโยคสุดท้าย ก่อนเชฟหนุ่มไทยเสียชีวิต ติดใจกัมพูชาปฏิเสธการรักษา

พี่สาวรอรับร่าง “เชฟหนุ่มไทย” กลับบ้านเกิด เผยประโยคสุดท้ายคุยกับน้องชาย ก่อนรู้ข่าวเสียชีวิตข้างถนนในปอยเปต ติดใจโรงพยาบาลกัมพูชาปฏิเสธรักษา

กรณีโลกโซเชียลแชร์โพสต์คนไทยป่วยหนักที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่ถูกโรงพยาบาลกัมพูชาปฏิเสธรักษา กลายเป็นคนเร่ร่อน นอนอยู่หน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง โดยทราบชื่อต่อมาคือ นายเมธาชาญ หรือ มีน อายุ 24 ปี ชาวอำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช มีอาชีพเป็นเชฟ ซึ่งญาติ ๆ ได้โพสต์ร้องขอความช่วยเหลือ ให้พาน้องมีนกลับมารักษาตัวที่เมืองไทย กระทั่งต่อมาน้องมีนได้เสียชีวิตลง

ขณะเดียวกัน คุณแทนรัก จุลเจริญ ซึ่งเป็นกลุ่มทีมงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ได้โพสต์ข้อความถามหามนุษยธรรมจากกรณีนี้ว่า “กัมพูชามนุษยธรรมอยู่ไหน? คนไทยป่วยหนัก ขยับตัวไม่ได้ ป่วยตั้งแต่เช้า นำตัวส่งโรงพยาบาลในปอยเปต แต่เจ้าหน้าที่ไม้รับรักษา 1.อ้างว่าเป็นคนไทย 2.ไม่มีเอกสารติดตัว 3.ไม่มีเงิน สุดท้ายน้องเสียชีวิต นี่หรือมนุษยธรรม คนกัมพูชาป่วยมารักษาที่โรงพยาบาลในไทย หมอไทยรักษาทุกชีวิต (ทีมงานติดต่อญาติที่จะบินไปหาน้องแต่ไม่ทัน ถ้าโรงพยาบาลปอยเปตรับรักษาตั้งแต่เช้าก่อน น้องยังรอด) ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวน้องด้วยค่ะ”

ทางครอบครัวนายเมธาชาญให้ข้อมูลว่า นายเมธาชาญ ทำงานเป็นเชฟบนเรือสำราญ เดินทางไปทั่วโลก มีสัญญาจ้างและรายได้ค่อนข้างสูง แต่ได้ขาดการติดต่อไปนานกว่า 1 ปี คาดว่าหมดสัญญาจ้างบนเรือ แล้วถูกชักชวนให้ไปทำงานต่อฝั่งกัมพูชา และอาจถูกทำร้ายร่างกาย ยึดเอกสารส่วนตัว จนต้องหนีออกมาเร่ร่อน ทำให้ไม่สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ อยากให้รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศให้เร่งพาร่างลูกชายกลับประเทศ

ขณะที่วันนี้ครอบครัวได้เดินทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อมารับศพนายเมธาชาญ ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดย น.ส.มายด์ พี่สาวได้โพสต์ข้อความ “ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆ ตอนนี้กำลังไปรับน้องกลับบ้าน มีนต้องได้กลับบ้าน”

จากนั้นโพสต์ข้อความไว้อาลัยว่า “มายด์กับมีน มึงน้องกูตลอดไป แค่นิดเดียวแล้วพรุ่งนี้กูจะพามึงกลับแล้ว แต่ไม่ใช่แบบนี้ กูไม่รู้มึงต้องพบเจออะไรบ้าง #ถ้ากลับมาได้กูกลับมาแล้ว คำนี้คือคำสุดท้าย ประโยคสุดท้ายที่ได้คุยกับมึง มึงแตกสลายมาจากไหน พ่อแม่กูพร้อมซัพพอร์ตมึงตลอด มึงก็รู้ไม่มีข้อมูลไหนที่ 100% ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมึง มึงเติบโตมากับกู 24 ปีมันสั้นไปนะ กลับบ้านกันนะมึง 7/10/68 หลับให้สบายนะน้องชายพี่”

โดยเมื่อช่วงบ่าย 2 โมงที่ผ่านมา พี่สาวเดินทางด่านคลองลึก อรัญประเทศแล้ว โดยมีรถของมูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ ได้นำโลงศพมาจัดเตรียมไว้ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อรอรับร่างน้องมีน จากรถกู้ภัยของฝั่งประเทศกัมพูชา นำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ ก่อนส่งต่อให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดต่อไป

น.ส.มายด์ เผยว่า น้องชายจบวิทยาลัยอาชีวะ และทำงานเป็นเชฟบนเรือสำราญ เดินทางไปทั่วโลก มีสัญญาจ้าง และรายได้ค่อนข้างสูง น้องออกจากบ้านไปปี 2567 แต่ก็ไม่ได้ขาดการติดต่อ แค่ไม่รู้ว่าเรือที่น้องไปอยู่ตรงส่วนไหน ซึ่งก่อนเกิดเรื่องน้องเคยโทรมาหา แล้วบอกว่าให้โอนเงินให้ 1,000 บาท แต่รอบตัวน้องเหมือนมีเสียงคนอื่นบอกให้ทำ ตนจึงไม่โอนให้ พร้อมถามว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหน น้องบอกว่าอยู่เขมร ตนก็ยังถามไปว่าแล้วไปอยู่ที่นั่นได้ไง แต่น้องไม่ตอบ แล้วยังพูดให้รีบโอนเงินมา

จนกระทั่งล่าสุด น้องโทรมาบอกว่าป่วย ตอนนี้นอนอยู่ข้างถนน ตนรู้สึกใจหาย พร้อมถามว่า ไม่รู้สถานการณ์เหรอ ทำไมไม่รีบกลับบ้าน น้องบอกว่า ถ้ากลับได้กลับไปแล้ว ก่อนจะสายหลุดไป พยายามติดต่อกลับไปก็ติดต่อไม่ได้ กระทั่งมีคนประสานงานมาว่าน้องไม่สบาย ตอนคุยกันก็ยังไม่คิดว่าน้องจะเสียชีวิตเร็วขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าน้องมีโรคประจำตัว