อาชญากรรม
“บิ๊กเต่า” พบความเสียหายหลักพันล้านบาท “อดีตพระอลงกต” ใช้เงินบริจาคทำอย่างอื่นกว่า 10 ปี
26 ส.ค. 2568
502 views
“บิ๊กเต่า” เผย “พระอลงกต” ยอมสึกด้วยความสมัครใจ พบความเสียหายมหาศาลหลักพันล้านบาท ชี้พลังศรัทธาเยอะพระเกิดกิเลส ใช้เงินบริจาคไปซื้อที่ดิน - ทำสนามฟุตบอล - ลงทุนบริษัท มากว่า 10 ปี
เมื่อเวลา 15.15 น. วันนี้ (26 ส.ค.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยหลังขึ้นไปสอบปากคำพระอลงกต ว่า วันนี้ทางกองบัญชาการตรวจสอบสวนกลาง ได้บูรณาการกับซึ่งหน่วยงานต่างๆ ในการสืบสวนเรื่องนี้ โดยได้มีการตรวจค้นทั้งหมด 17 จุด ซึ่งการตรวจค้นขณะนี้ยังไม่เสร็จสิ้น
เบื้องต้นพระอลงกตให้ความร่วมมือให้ข้อมูลหลายเรื่องที่มีข้อสงสัย ตอนนี้ทิศอลงกตได้สึกแล้ว และยินดีเข้าสู่กระบวนการ โดยยอมลาสิขาโดยไม่มีการบังคับขู่เข็ญ ท่านแยกระหว่างพระธรรมวินัย กับเรื่องกฎหมายบ้านเมือง บางสิ่งก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับพี่พี่น้องประชาชน แต่บางสิ่งเป็นการผิดกฎหมายบ้านเมืองก็รับสภาพ และยอมสึก
โดยก่อนการสึก ท่านได้มีการเทศน์ให้กับประชาชน และพระในการใช้ชีวิตในการปฏิบัติตน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการบันทึกคลิปไว้และจะให้ผู้สื่อข่าวและประชาชนได้รับทราบรับชม
สำหรับพฤติการณ์นั้นมีก้อนเงินเข้ามามากมาย ซึ่งมีการนำไปใช้จ่ายซื้อที่ดิน ทำสนามฟุตบอล ลงทุนในรูปแบบบริษัทที่มีทั้งกำไร และขาดทุน ทั้งนี้คาดว่าเงินที่ใช้กระทำความผิดมีมูลค่ามากหลักพันล้านบาท แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน และรายการที่มีผู้ศรัทธามากมาย ก็จะมีเงินเข้ามาจำนวนมาก การยับยั้งชั่งใจในการขอรับบริจาคและนำมาใช้มันไม่ตรงกับความเป็นจริง เลยทำให้พระเกิดกิเลส เอาเงินไปใช้ในทางที่ผิด โดยช่วงแรกท่านทำด้วยจิตศรัทธา แต่ในช่วงหลังเงินมันเยอะ เลยผ่านไปทำรูปแบบอื่น ซึ่งทำมา 10 กว่าปีขึ้นไป
ส่วนใบสุทธิที่ใช้บวช เราพบแล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยจะเปิดเผยทีเดียวและขอให้หลักฐานชัดเจนก่อน โดยจะตรวจสอบตั้งแต่เกิดเรื่อง จนถึงวันนี้ และยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ก็มีหนังสือสุทธิเล่มใหม่แล้ว รวมถึงเห็นใบสุทธิดังกล่าวแล้ว
ส่วนไทม์ไลน์ของตัวพระอลงกตที่หายไปประมาณห้าถึงหกปี ไม่ได้คัดเลือกทหาร ซึ่งเรื่องนี้พระอลงกตได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ขอไปตรวจสอบก่อน รวมถึงจะต้องมีการสอบปากคำญาติพี่น้อง คนใกล้ชิด หรือพยานที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลานั้นมาประกอบ ซึ่งการปลอมใบสุทธิถือเป็นความผิดทางอาญา ส่วนช่วงเวลาที่หายไปนอกจากปรากฏเรื่องของการหนีทหารแล้วยังมีคดีอาญาอื่นด้วยหรือไม่ ทางชุดทำงานได้มีการตั้งธงเอาไว้ ขอเวลาตรวจสอบก่อน
สำหรับเงินหลักพันล้านบาทเกี่ยวข้องกับหมอบีเท่าไหร่ นั้น พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม บอกว่า การดำเนินการเรื่อง “บัญชีใจฟ้า” เป็นสารตั้งต้น คือมีเงิน 300 ล้านบาทเป็นคดีหลัก หลังจากนี้ เรื่องของการที่จะต้องขยายผล เรื่องแรก คือ คนที่เกี่ยวข้องว่าบัญชีใจฟ้าว่าตามวัตถุประสงค์เพื่อบริจาคเป็นเงินของวัดพระบาทน้ำพุ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ขยายผลเกี่ยวกับทรัพย์สินที่คนใกล้ชิด ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดหรือทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดหรือไม่ก็ จัดการแจ้ง ปปง. เพื่อยึด และดำเนินการตามกฏหมาย ปปง.
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการปิดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง วันที่ 8 สิงหาคม และมีการถอนกว่า 1,000,000 กว่าบาท มีการโอนให้กับวัดหรือไม่ ข้อมูลเบื้องต้นมีการปิดบัญชีแล้ว แต่จำวันที่ไม่แน่ใจ ซึ่งตอนนี้ปิดบัญชีแล้ว เปลี่ยนบัญชีเป็นบัญชีวัดแล้ว โดยเปลี่ยนจากบัญชีของบุคคลภายนอกกลับมาเป็นบัญชีวัด ส่วนรายละเอียดว่าเปลี่ยนอย่างไรนั้น เดี๋ยวขอไปดูรายละเอียดอีกทีนึง
และจากการประเมิน มีประเด็นมีความผิดปกติ ซับซ้อนอย่างไรบ้าง ก็พบว่าด้านการทำธุรกรรม เส้นเงิน เขาโอนใช้เงินสด โอนจากบัญชีเป็นเงินสด เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายของเคสนี้ เขาใช้เงินสดเกือบทั้งหมด เราต้องทำการบ้าน และใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ไม่เหมือนเคสอื่นที่มีเส้นธุรกรรมการเงินไปเชื่อมต่อ
ส่วนยอดเงินที่หลวงพ่อพกติดตัว ขณะถูกจับกุม เบื้องต้นที่รับรายงานประมาณ 100,000 ถึง 200,000 บาท ส่วนจะทำอะไรนั้นยังไม่ทราบ
โดยทั้งคู่ยังไม่ได้มีการยื่นประกันตัว ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งตามหลักก็ต้องพิจารณาอีกทีว่าจะมีการคัดค้านการประกันตัวหรือไม่
ส่วนการไปทำธุระตอนตีหนึ่งกว่านั้น ทางผู้การกองปราบ บอกว่า เอาเป็นว่าเราได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ และมีพฤติการณ์ที่อาจจะหลบหนี จึงต้องดำเนินการจับกุมตามหมายจับ ส่วนที่อ้างว่าไปทำธุระนั้นก็เป็นข้ออ้าง
สำหรับตอนเช้าไม่ยอมสึก แล้วเจรจาอย่างไร ทางผู้การบอกว่า ก็ให้บิ๊กเต่ามา ซึ่งเรื่องนี้ บิ๊กเต่า บอกว่า เราพูดถึงคุณงามความดีของท่าน ใช้เวลาเจรจาไม่เกิน 20 นาที ประโยคที่ทำให้ยอมคือสิ่งที่ท่านสร้างมาเป็นเรื่องของการทำคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน สิ่งที่จะทำให้เป็นบุญกุศลแก่ท่าน ก็คือการดูแลรักษาพระพุทธศาสนาให้เดินต่อไป โดยการกระทำอะไรก็ได้ไม่ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียท่านจึงบอกว่าท่านจะลาสิกขา
ส่วนการทำดี แล้วเปลี่ยนมาทำไม่ดีท่านได้อธิบายหรือให้เหตุผลอย่างไร ซึ่งบิ๊กเต่าบอกว่าได้มีการอัดคลิปตอนท่านเทศน์
ส่วนวงเงิน 1,000 ล้านบาท เกี่ยวข้องกับ 17 จุด เลยไหม บิ็กเต่า บอกว่า เราพบว่ามีเงินหลายหมุนเวียนหลัก 1,000 ล้านบาทขึ้นไป แต่ขอให้ชุดสอบสวนทำงานก่อน ตอนนี้ให้รายละเอียดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่เกิดขึ้นมาร่วม 30 ปีแล้ว ตรวจย้อนหลังไป ถ้าให้ไปเดี๋ยวข้อมูลผิดพลาด และเสียหายกับหน่วยงาน
ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานแล้วจะเปิดการแถลงข่าวอีกครั้ง การไปเอาเอกสารจากทางวัดก็พบบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมากหลาย 10 คน ต้องใช้เวลา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองบัญชาการตำรวจตรวจสอบสวนกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยกันดำเนินการประคับประคองเรื่องนี้
โดยในกลุ่ม 10 คนมี สถานะอย่างไรกับหลวงพ่อนั้น ก็คือเกี่ยวพันเกี่ยวกับเรื่องเงิน การถือครองทรัพย์การบริหาร จัดการเรื่องที่ดินต่างๆ ที่เกี่ยวพันบริษัท ตอนนี้ภาพที่เราเห็นยังเป็นกลุ่มของวัดอยู่
ส่วนของ หมอบี ยังอยู่ระหว่างการให้การอยู่ แต่ว่ายังให้การเป็นประโยชน์เท่าไหร่
ด้านนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ปปท. บอกว่า ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการจนถึงวันนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เบื้องต้นที่พอจะกล่าวได้มีเข้าไปเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์เกี่ยวกับบุคคลรายบุคคล ยอดจำนวนเงินต้องใช้คำว่า “มหาศาล” ไม่ใช่หลัก 10 ล้านบาทหรือ 100 ล้านบาท แต่เป็นหลักมหาศาล ซึ่งในชั้นนี้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ และ ปปง. ได้ร่วมกันปฏิบัติดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติก่อน
สำหรับ ด้าน ปปช.จะตรวจสอบข้อเท็จจริง ค้นหาความจริงที่ประชาชนสงสัยว่าเงินบริจาค ได้ใช้ในทางที่ถูกต้องหรือไม่ หากเห็นว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็คงจะต้องมีการส่งให้ ปปช.ดำเนินการต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง หลวงพ่ออลงกต ,วัดพระบาทน้ำพุ ,บิ๊กเต่า