พระทุบหัวลูกศิษย์วัดดับคาศาลา มีประวัติเคยฆ่าคน เตรียมขับพ้นวัดหลังออกพรรษา แต่เกิดเหตุขึ้นก่อน

เร่งล่าตัว พระโหดทุบหัวลูกศิษย์วัดดับคาศาลา แฉประวัติเคยฆ่าคนมาแล้ว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเผยมีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้าจนถูกร้องเรียน เตรียมขับพ้นวัดหลังออกพรรษา แต่มาเกิดเหตุขึ้นก่อน

เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 24 ส.ค. 2568 ร.ต.ท.ภานุวัฒน์ บัวผัน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตภายในศาลาวัดศาลาทอง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่เกิดเหตุภายในศาลาพบศพนายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด มีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณศีรษะจากการถูกตีด้วยของแข็ง ใกล้กันพบขวดสุราขาวแตกกระจาย และร่องรอยการตั้งวงดื่มสุรา เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เบื้องต้นให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนอีก 2-3 คน จากนั้น พระติ๊ก ซึ่งเป็นพระที่มาจากที่อื่น และมาขอจำวัดชั่วคราว ได้เดินเข้ามาต่อว่าผู้ตายทำนองว่า ให้เด็กวัดไปซื้อเหล้าให้ทำไม ทำไมไม่ไปซื้อเอง จนเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง ก่อนที่พระติ๊กจะใช้ขวดเหล้าขาวฟาดเข้าที่ศีรษะของนายสมศักดิ์จนล้มลง และเสียชีวิตในที่สุด หลังก่อเหตุพระติ๊กได้หลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่กุฏิที่พระติ๊กจำวัดอยู่ แต่ไม่พบตัว พบเพียงพัดลมที่ยังเปิดทิ้งไว้และคราบเลือดบางส่วน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวพระติ๊กเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดบ่ายวันนี้ (24 ส.ค. 2568) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วัดศาลาลอย พบกับนายสุเวช (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ปกติแล้วพระติ๊กมักจะใช้ให้ตนเองไปซื้อเหล้าขาวให้เป็นประจำ โดยพระติ๊กนั้นมีความเกลียดชังนายสมศักดิ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในวันเกิดเหตุพระติ๊กดื่มสุราขาวหมดไป 1 ขวดใหญ่ ก่อนที่จะได้เดินเข้าไปก่อเหตุทำร้ายนายสมศักดิ์ โดยใช้ทั้งมือและเท้ากระทืบ ตนเองพยายามเข้าไปห้ามปราม แต่ก็ถูกทำร้ายจึงต้องหนีออกมา ก่อนที่พระติ๊กจะใช้ขวดสุราขาวตีที่ศีรษะของนายสมศักดิ์อย่างแรง จนนายสมศักดิ์แน่นิ่งไป และพระติ๊กลากร่างของนายสมศักดิ์ไปไว้อีกทางหนึ่ง ก่อนที่พระติ๊กจะขึ้นไปเก็บข้าวของบนกุฏิแล้วหลบหนีไป ทั้งนี้ตนเองทราบมาว่า พระติ๊กมีนิสัยดุร้าย ในอดีตเคยเป็นอันธพาล และเคยฆ่าคนมาแล้วสมัยที่เป็นทหาร ตอนนี้รู้สึกหวาดกลัวว่า พระติ๊กอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายตนเองด้วย เนื่องจากตำรวจยังจับตัวพระติ๊กไม่ได้

พระวิชัย อัคคะชัยโย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดศาลาทอง กล่าวว่า พระที่ก่อเหตุมีชื่อว่า พระมงคล เตชะธรรมโม หรือ พระติ๊ก อายุประมาณ 45 ปี เป็นพระมาจากจังหวัดสระแก้ว ก่อนหน้านี้เคยไปจำพรรษาที่สาขาวัดเขาสุกิมประมาณ 1 ปี ต่อมาได้มาขอพักกับเจ้าอาวาสรูปเดิมซึ่งได้ส่งไปจำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา แต่เนื่องจากมีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้าจนถูกโยมอุปถัมภ์ร้องเรียน คณะสงฆ์จึงตรวจสอบและให้พ้นออกจากวัดในวันนั้น เจ้าอาวาสรูปเดิมจึงให้มาพักอยู่ที่วัดศาลาทองเป็นการชั่วคราวหลังเข้าพรรษามาได้ประมาณ 3 อาทิตย์ เพราะวัดอื่นคงไม่รับในช่วงเข้าพรรษา ขณะอยู่ที่วัดศาลาทอง พระติ๊กมีพฤติกรรมไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ไม่ทำกิจวัตรของสงฆ์ ไม่ลงฉันภัตตาหารพร้อมหมู่คณะ แต่จะออกไปบิณฑบาตกับนายสุเวชซึ่งเป็นคนที่ไปซื้อเหล้าให้เป็นประจำ ทางเจ้าอาวาสได้แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วว่าหากออกพรรษาเมื่อไหร่ ก็จะให้พระติ๊กออกจากวัดไป แต่ไม่ทันออกพรรษา พระติ๊กก็มาก่อเหตุฆ่าคนตายเสียก่อน ทั้งนี้ตลอดเวลา 10 ปีที่ตนเองอยู่ที่วัดนี้ เพิ่งเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก พระในวัดไม่ได้มีพฤติกรรมเช่นนั้น แต่ผู้ก่อเหตุเป็นพระที่มาอาศัยวัดแล้วใช้ชื่อของวัดในการทำสิ่งที่ไม่ดี จึงอยากให้พุทธศาสนิกชนแยกแยะให้ออก เพื่อไม่ให้ศรัทธาในศาสนาพุทธเสื่อม