ผบช.ภ.9 ชี้โดนอาวุธหนัก M60 ก่อเหตุมากกว่า 10 คน เหตุโจมตี สภ.จะแนะ

คืบหน้าเหตุความไม่สงบ ผบช.ภาค9เผย ตรวจสอบที่เกิดเหตุโจมตี สภ.จะแนะ พบร่องรอยคนร้ายนับ 10 บุกโจมตี โดยใช้ปืนกล M60 2กระบอก และอาวุธสงครามกราดยิงเจ้าหน้าที่

ขณะที่ในช่วงเช้าวานนี้ (29 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านของของนางแวลีเม๊าะ มะกาเซ็ง ในพื้นที่ ม.2 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นมารดาของ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ที่มีการกางเต็นท์ไว้ที่บริเวณบ้านพร้อมจัดอาหารไว้ต้อนรับ ชาวบ้านที่เดินทางมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ซึ่งมี น.ส.นุชฮูดา มะกาเซ็ง ซึ่งเป็นภรรยาและเป็นพยาบาลโรงพยาบาลจะแนะ พร้อมบุตรชายและกำลังตั้งท้องอยู่ 4 เดือน มาร่วมต้อนรับแขก ซึ่งศพของ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ได้ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ ม.2 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นที่เรียบร้อนตั้งแต่ในช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา

น.ส.นุชฮูดา ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีเป็นคนดีและคอยดูแลไม่ให้ตนทำงานหนัก โดยในช่วงที่ตนทำงาน เขาก็จะมารับ-ส่งเป็นประจำ แม้บางวันจะเป็นช่วงเวลาดึกก็ยังยืนยันจะมารับ  

ทั้งนี้ ทั้งคู่มีลูกชายวัย 5 ขวบ และกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สองได้ประมาณ 4 เดือน โดยสามีเคยบอกว่าอยากได้ลูกสาว พร้อมระบุว่าเขาเป็นคนอัธยาศัยดี รู้จักผู้คนจำนวนมากแทบทั่วทั้งอำเภอแนะ

 น.ส.นุชฮูดา กล่าวทั้งน้ำตาว่า แม้ยังตั้งสติไม่ได้ แต่ก็ต้องเข้มแข็ง เพราะยังมีพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ คอยเป็นกำลังใจ และจะต้องอยู่ให้ได้เพื่อลูก

จากนั้นได้เดินทางไปยัง สภ.จะแนะ เพื่อติดตามดูจุดเกิดเหตุที่คนร้ายได้แยกกำลังออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะจุดซึ่งอยู่ระหว่างด้านหลังของร้านค้ากับด้านหลังบ้านของชาวบ้าน ซึ่งเป็นที่โล่งมีซากชิ้นส่วนของไม้แปรรูปที่ถูกรื้อออกมาวางกองสุ่มอยู่ ที่คาดว่าคนร้ายใช้อาวุธปืน เอ็ม.16 พาดกับกองซากไม้แปรรูปเป็นที่มั่น แล้วยิง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ เสียชีวิต ขณะที่อาศัยอยู่ชั้น 3 ของห้องประชุมที่ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย

และจากการประเมินพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยแยกกำลังออกเป็น 4 จุดใหญ่ ที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและ สภ.จะแนะ โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจพบรอยเท้าที่เหยียบย่ำอยู่ภายในสวนหลังร้านค้าและบ้านของชาวบ้านที่อยู่ติดกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้พบปลอกกระสุนปืนจำนวนกว่า 100 ปลอก ทั้งปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 อา.ก้า.และลูกซอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไปทำการตรวจสอบวิถีกระสุนปืนเพื่อนำไปเปรียบเทียบคดีความมั่นคง ว่าคนร้ายกลุ่มนี้คือใครบ้าง

โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง กลุ่มนายอับดุลเลาะ บูละ ที่หลบหนีหมายจับคดีความมั่นคง 10 คดี และเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่กองกำลัง ที่รับผิดชอบเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายในพื้นที่ อ.จะแนะ โยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจะหมุนเวียนก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่อำเภอจ่างๆ ของ จ.นราธิวาส

นอกจากนี้จากรายงานของเจ้าหน้าที่ ระบุว่าคนร้ายกว่า 10 คน ซุ่มยิงจากแนวป่าละเมาะบริเวณบ้านเรือนประชาชนฝั่งตรงข้ามสถานีตำรวจ โดยใช้อาวุธปืนกลหนัก 2 กระบอก คาดว่าเป็นปืน M60 และอาวุธสงครามอื่นๆ ยิงเข้ามาเป็นแนวยาวระยะประมาณ 80 เมตร ห่างจากตัวสถานีประมาณ 75 เมตร เป้าหมายคือบริเวณป้อมยามและตัวอาคารสถานีตำรวจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสารักษาดินแดนได้ทำการยิงตอบโต้เป็นเวลาประมาณ 15 นาที ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะล่าถอยไปทางเชิงเขาด้านหลังอาคาร โดยทิ้งร่องรอยกระสุนและปลอกกระสุนจำนวนมากในพื้นที่

ด้านพล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุด้วยตนเอง โดยระบุว่าการกระทำของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้เป็นการโจมตีที่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ ใช้อาวุธรุนแรง และมุ่งเป้าเพื่อสร้างความเสียหายแก่เจ้าหน้าที่รัฐอย่างชัดเจน

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวย้ำว่า เจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ แม้ถูกโจมตีด้วยอาวุธหนักก็ยังพยายามตอบโต้ตามแผนที่ได้ซักซ้อมไว้ ถือเป็นการเสียสละเพื่อประเทศอย่างแท้จริง ทั้งนี้ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำการดูแลสวัสดิการ และเตรียมการปรับแผนอาจจะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าไปยัง สภ.ในพื้นที่ๆ ห่างไกลเพิ่มมากขึ้น

https://youtu.be/nKobjPbxITc