"เบสท์" ดาราสาว ร้อง ปปง. อายัดบัญชีม้า หลังหลอกรีวิวโรงแรม สูญ1.2 ล้าน วอนอย่าด่าสวยแต่โง่

วันนี้ (14 พ.ค. 68) เวลา 10.00 น. เบสท์ ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ ดารานักแสดง เดินทางมาที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อยื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบบัญชีม้า ของขบวนการแก๊งมิจฉาชีพ หลังถูกหลอกให้โอนเงินสมัครงานรีวิวโรงแรม อ้างเป็นแคมเปญรีวิวร่วมกับ Agency ชื่อดัง สูญเงินไปกว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. แล้วก่อนหน้านี้

เบสท์ ชนิดาภา กล่าวว่า วันนี้มายื่นเรื่องร้องเรียนกับ ปปง. เพื่อให้ช่วยติดตามเส้นทางการเงินของบัญชีม้าที่มีการโอนเงินไป โดยได้เตรียมหลักฐานเอกสารที่มีการพูดคุยกับแก๊งมิจฉาชีพและหลักฐานการโอนเงินทั้งหมด รวมถึงใบแจ้งความ

โดยหลังจากที่มีข่าวออกไป มีผู้เสียหายติดต่อตนมาเยอะมาก ว่าถูกหลอกแบบเดียวกัน ถูกยิงแอดจากเพจเดียวกัน และมีขั้นตอนการหลอกลวงเหมือนกันทุกอย่าง โดยเฉพาะขบวนการหน้าม้าที่กดดันให้โอนเงิน ก็พบว่าใช้รูปภาพรูปเดียวกันกับที่ใช้แอบอ้างกับตน เช่น รูปที่บอกว่าลูกป่วยต้องใช้เงิน จึงมั่นใจว่าเป็นขบวนการเดียวกัน ซึ่งตอนนี้มีผู้เสียหายจากขบวนการเดียวกันนี้ประมาณ 10 คนแล้ว มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท

ซึ่งปัจจุบันแก๊งนี้ยังคงหลอกเหยื่ออยู่เรื่อยๆ แต่มีการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนรูปโปรไฟล์หลังจากที่มีข่าวออกไป ส่วนตนเองถูกดีดออกมาจากแชต ตั้งแต่วันที่ไหวตัวทัน แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังมีมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในรูปแบบ ของการที่จะให้ความช่วยเหลือ อ้างว่าเคยโดนเหมือนกันแล้วได้เงินคืนแล้ว ซึ่งหากหลงเชื่อก็คงโดนหลอกซ้ำอีก

ตนจึงอยากฝากเตือนว่า หากเจอลักษณะของเพจที่เด้งมาจากการยิงแอด รับสมัครงานรีวิว มีรายได้ดี โดยที่เพจจะมีคนไลค์เยอะ มีคนคอมเมนต์ว่าสนใจเยอะๆ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ ถ้าทักไปจะติดกับดักและเอาตัวเองออกมายาก

แต่ถ้าเผลอไปพูดคุย แล้วมีการให้โอนเงินไปก่อน แล้วบอกว่าจะได้คืน หรือบอกให้เล่นเกม ทำแคมเปญ อย่าหลงเชื่อ หากมีการหลวมตัวโอนเงินไปแล้ว อย่าเสียดายเงินที่เสียไป เพราะยังไงเราก็ไม่มีวันได้คืน ให้หยุดทุกอย่างทันที ก่อนจะเสียเงินจำนวนมากกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม หลังตนออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ก็ถูกต่อว่าเยอะว่าทำไมถึงเชื่อ สวยแต่โง่ ข่าวออกเยอะทำไมยังโดน ซึ่งตนอยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่า ทุกวันนี้ มิจฉาชีพเปลี่ยนกลโกงทุกวัน ตนเคยโดนมิจฉาชีพรูปแบบที่โทรศัพท์มา หรืออีเมลมา ซึ่งพวกนี้จะมีเวลาให้เราคิดไตร่ตรอง และไม่หลงเชื่อ แต่ลักษณะที่ตนเจอครั้งนี้ แม้จะไม่ใช่รูปแบบที่ใหม่มาก แต่ตนไม่เคยเจอกับตัว และมิจฉาชีพใช้วิธีการกดดัน บีบบังคับว่าด้วยเวลาว่าถ้าไม่ทำจะเสียเงินไป ทำให้เราไม่มีเวลาในการตัดสินใจ ไตร่ตรองให้ดีก่อน จึงวอนขอชาวเน็ตว่าอย่าซ้ำเติมเหยื่อ เพราะเป็นทุกข์มากพอแล้ว ไม่มีใครอยากตกเป็นเหยื่อและเสียค่าโง่แบบนี้

ด้าน นางสาวสุปราณี สถิตชัยเจริญ รองโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. ได้รับเรื่องร้องเรียน พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ ทาง ปปง. จะรับเรื่องไว้ และดำเนินการต่อตามขั้นตอน โดยลักษณะของเคสนี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ที่มีผู้เสียหายหลายคน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน หากศาลมีคำสั่งให้คืนทรัพย์ให้ผู้เสียหาย ก็จะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าปัจจุบันรูปแบบของมิจฉาชีพเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ทำให้การติดตามยึดทรัพย์ทำได้ยากขึ้น เพราะไม่ได้มีเพียงแต่บัญชีม้า บางครั้งมิจฉาชีพใช้บัญชีเหยื่อด้วยกันมาหลอกให้โอนวนไปวนมาก็มี ดังนั้น หากตกเป็นเหยื่อ วิธีการที่ดีที่สุดคือต้องรีบแจ้งธนาคารให้มีการอายัดและติดตามเส้นเงินทันที