อาชญากรรม

มือยิงฆ่าอำพราง 3 ศพพ่อแม่ลูกสารภาพแล้ว

โดย paranee_s

15 ก.พ. 2568

17.1K views

บรรยากาศที่ สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ช่วงค่ำที่ผ่านมาตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีกรายคือนายยศ หลังจากที่มีการสืบสวนสอบสวนและพบผู้ต้องสงสัยที่ร่วมฆ่า 3 พ่อแม่ลูกมีด้วยกัน 3 ราย


จากนั้นจึงได้รวบตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย รายแรกคือ นายศิวกร หรือโน๊ต ที่นำตัวมาสอบตั้งแต่ช่วงเช้า และรายล่าสุดที่เอาตัวมาที่โรงพักคือ นายนิรุธ หรือ ยศ จากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่า นายศิวกร ผู้ต้องสงสัยคนแรกที่คุมมา ทำหน้าที่เป็นคนยิง และเป็นคนส่งข้อความ sms ให้นายศิริชัย น้องผู้เสียชีวิต และนายนิรุธ หรือยศ ที่เอาตัวมาโรงพักล่าสุด เป็นคนซื้อซิมโทรศัพท์ก่อนที่นายนิรุธจะตีเนียนทำทีเป็นนายวงศกรส่งข้อความ sms บอกนายศิริชัย และคนสุดท้ายคือนายเข้ เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ให้นายศิวกรไปก่อเหตุ


ทีมข่าวพยายามสอบถามนายนิรุธ หรือยศ ว่ารู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ และอยากจะชี้แจงอะไรไหม? แต่เจ้าตัวปิดปากเงียบไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะถูกคุมตัวเข้าห้องไป


ขณะเดียวกันตำรวจยังคุมตัว น.ส.ปาลิตา และ นายชัยณรงค์ 2 แม่ลูก ที่มีรายการบันทึกการโทรเข้า-ออก กับเบอร์โทรปริศนา เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเพื่อเป็นพยานคดี เนื่องจากมีข้อพิรุธหลายส่วนที่ต้องสอบปากคำขยายผลต่อ หลังจากสืบสวนสอบสวนพบว่านายศิวกรได้ไปกบดานหลังจากที่มีชาวบ้านพบศพ 3 พ่อแม่ลูก ซึ่งนายศิวกรรู้จักกับนายชัยณรงค์ จึงไปกบดานชั่วคราว


จากนั้น ทีมข่าวพยายามสอบถามภรรยาและแม่ของนายนิรุธแต่ทั้งสองคนก็บอกว่าไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็ตอบไม่ได้ว่าลูกชายและสามีเนี่ยไปร่วมก่อเหตุในครั้งนี้หรือไม่ ตัวเองก็ยังรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจู่จู่เมื่อไม่นานมานี้ตำรวจก็เพิ่งไปควบคุมตัวลูกชายมาจากบ้านเพื่อมาสอบปากคำ พร้อมกับจะนำรถมอเตอร์ไซต์ ของลูกชายมาตรวจสอบ


ต่อมา นายเจษฎา อายุ 40 ปี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กำแพงเพชร และแอดมินเพจ “โป๊ะซ่า เกิดมาคุย” เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกตกใจมากหลังทราบว่า นายศิวกร หรือ โน๊ส ผู้ต้องสงสัยที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไปสอบปากคำ ได้รับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก และเป็นเจ้าของปืนบีบีกันดัดแปลงที่ใช้ในการก่อเหตุ


โดยในวันที่พบ 3 ศพในที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 13.00 น. นายเจษฎา ได้ขับรถยนต์เข้ามาจอดบนถนนหน้าจุดเกิดเหตุ และมีนายโน๊ต ทำทีเดินตามพร้อมทักทายพูดคุยเรื่องการทำข่าวในจุดเกิดเหตุ แถมยังพูดกับผู้สื่อข่าว ว่า มันโหด มันทำได้ยังไง และวนเวียนอยู่ในจุดเกิดเหตุแฝงตัวกับผู้คนและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก


เมื่อผู้สื่อข่าวเดินกลับไปที่รถหลังทำข่าวเสร็จ กำลังจะขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ นายโน๊ตก็เดินตามไปจนถึงรถของผู้สื่อข่าวและถามว่าจะไปไหนต่อ ซึ่งผู้สื่อข่าวตอบว่าเดี๋ยวจะไปโรงพัก ซึ่งก็ยังเอะใจว่านายโน๊ตคือใคร ทำไมถึงดูเหมือนรู้จักกับตนแบบนี้


ต่อมาในช่วงเวลา 01.40 น. ของวันที่ 14 ก.พ.68 นายโน๊ต ได้ทำทีส่งข้อความมาในไลน์ของผู้สื่อข่าว ลักษณะแจ้งบอกแสว่าได้ข้อมูลจากน้องชายเมียผู้ตาย แจ้งว่าผู้ตายนำทองคำไปจำนำในตัวเมืองกำแพงเพชร จำนวนกี่บาทไม่แน่ใจ และถามว่ารู้เบาะแสหรือไม่ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ตอบไปว่าไม่ทราบข้อมูลนี้ พร้อมแจ้งว่าพรุ่งนี้ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียงหน้ากระดานค้นหาหลักฐานที่จุดเกิดเหตุอย่างละเอียด โดยนายโน้ตได้ตอบกลับมาว่าหากตนได้ข้อมูลอะไรจะรีบแจ้งทันที


พอถึงช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.พ.68 เวลา 08.00 น. เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ยังจุดเกิดเหตุ หลังจอดรถปรากฏว่าพบนายโน้ต ยืนรออยู่และเดินตามผู้สื่อข่าวไปจนถึงทางเข้าจุดเกิดเหตุ และสอบถามว่าวันนี้จะทำอะไรกันบ้าง ซึ่งก็ได้ตอบกลับไปว่าคงจะหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียด โดยช่วงจากเสร็จภารกิจทำข่าวผู้สื่อข่าวได้เดินกลับมาที่รถปรากฏว่าในโน๊ตก็เดินตามมาและสอบถามอีกว่าได้อะไรบ้าง ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ตอบไปว่ายังไม่เจออะไรเลยและขับรถออกไป


โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ช่วยฯ ว่าชายคนดังกล่าวที่ตามเรามาคือใคร ทำไมทำทีสนิทและรู้จัก ซึ่งก็เอะใจอยู่เหมือนกันว่าเป็นใครกันแน่ จนช่วงบ่ายตำรวจได้มีการเรียกตัวนายโน๊ตมาสอบสวนอย่างละเอียดและทราบว่า นายโน๊ตเป็นเจ้าของปืนบีบีกันดัดแปลงและรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว ทำเอาผู้สื่อข่าวตกใจ เพราะนายโน้ตได้ติดตามในการทำงานของตนเองมาตลอดสองวันไม่คิดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุและส่งข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงให้กับตน ซึ่งรู้สึกไม่ปลอดภัยในขณะนี้ โดยได้แจ้งข้อมูลไปยังผู้กำกับ สภ. คลองขลุงถึงเรื่องดังกล่าวให้ทราบแล้ว


จากการกระทำดังกล่าวของนายโน๊ต ตนรู้สึกว่า ผู้ต้องสงสัยไม่มีความสะทกสะท้านสำนึกผิด กลับยังทำทีมาหยั่งเชิง ถือเป็นการคุกคามในการทำหน้าที่สื่อมวลชนและสร้างความไม่ปลอดภัยในความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้ในวันที่พบศพทั้ง 3 นายโน๊ตยังทำทีเป็นไทยมุงมาดูเหตุการณ์ และติดตามการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด และวนเวียนอยู่ในจุดเกิดเหตุ แฝงตัวกับ เจ้าหน้าที่และผู้คนจำนวนมาก


เบื้องต้นมีรายงานว่า ผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย 1.นายโน๊ต ทำหน้าที่นำปืนไปจำนำกับผู้ตาย และเป็นคนยิง รวมถึงยังเป็นคนส่งข้อความ sms ให้น้องเมียนายวงศกร ผู้เสียชีวิต 2.นายนิรุธ หรือ ยศ ทำหน้าที่ซื้อซิมจากคนงานชาวเมียนมา 3.นายเข้ ทำหน้าที่ ช่วยยกศพและขับมอเตอร์ไซค์นำทางเข้าไปในที่เกิดเหตุ 4.นายชัยณรงค์ ให้ที่พักพิง แก่ นายโน๊ต ศิวกร และเป็นคนเก็บซิมการ์ดเอาไว้ แต่ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ ซึ่งตำรวจยังสอบปากคำอย่างละเอียดคาดว่าน่าจะตลอดคืน


ซึ่งผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งคนคือ นายเข้ ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบปากคำ โดยในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะให้ทีมประดาน้ำลงค้นหาในสระหลังบ้านล้าง กว้าง 20 เมตร เพื่อหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งผู้สื่อข่าวจะรายงานเข้าไปเป็นระยะ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ