ส่อพิรุธ ด.ญ. 10 ขวบ ถูกล่วงละเมิด ใช้ไม้ทารุณ วงจรปิดไม่เจอใคร 'แม่-พ่อเลี้ยง' พูดไม่ตรงกัน

กรณีแม่ร้องสื่อ เด็กหญิงวัย 10 เรียนชั้น ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี หลังเลิกเรียน (วันที่ 11 ก.พ.68) นั่งรอแม่มารับ แต่กลับถูก 3 เดนมนุษย์หลอกไปชำเรา หลอกจะให้ขนมให้เดินมาข้างโรงเรียน ก่อนลงมือล็อกตัวแล้วกระทำชำเรา จนสำเร็จความใคร่ ต่อมาแม่เห็นเด็กมีอาการซึมเศร้า เลยถามลูกว่า เป็นอะไรหรือเปล่า น้องไม่กล้าบอกแม่ แม่จึงรีบพาไปโรงพยาบาล (วันที่ 12 ก.พ.68 ) หลังคุณหมอตรวจพบว่า ติดเชื้ออย่างรุนแรง ต้องเข้ารับการผ่าตัด ขณะนี้น้องพักฟื้นอยู่ห้อง ไอซียู

ความคืบหน้าเมื่อเช้าวานนี้ (13 ก.พ.) คุณต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง และ พ.ต.อ.กฤษ มาสุข ผู้กำกับ สภ.หนองใหญ่ , พม.ชลบุรี พาแม่เด็ก 10 ขวบ มายังจุดเกิดเหตุ เพื่อให้พ่อเลี้ยงเป็นคนชี้จุดเกิดเหตุว่า เป็นจุดที่น้องน่าจะถูกกระทำชำเรา พบที่เกิดเหตุ เป็นสวนปาล์มหลังโรงเรียน มีบ่อขุดเลี้ยงปลา

ทั้งนี้ มีภาพกล้องวงจรปิด บริเวณทางเข้าโรงเรียน จะเห็นได้ว่า วันเกิดเหตุ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่ช่วงเที่ยงถึง 5 โมงเย็น ไม่พบกลุ่มชายต้องสงสัยเข้ามาในโรงเรียน แต่ในช่วง 5 โมง 8 นาที จะเห็นว่า แม่เด็กได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ เข้ามารับน้อง แล้วขับออกไป เวลา 5 โมง 10 นาที ซึ่งน้องได้นั่งซ้อนท้ายตามปกติ

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) แม่วัย 35 ปี เปิดเผยว่า ลูกสาวอายุ 10 ขวบ อยู่ชั้น ป.4 มาบอกว่า รู้สึกเจ็บที่ท้องน้อย และบริเวณทวารหนัก แต่ความเอะใจ ตนจึงขอลูกสาวดู แต่ลูกสาวปฏิเสธ ไม่ยอมให้ดู ตนจึงคาดคั้นกับลูกสาว เพราะรู้สึกถึงความผิดปกติ และมีพิรุธ จากนั้นลูกสาวจึงตัดสินใจ ยอมเปิดกางเกงให้ตนดู เห็นว่า ทวารหนักมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ตนจึงถามกับลูกสาวว่า ไปโดนอะไรมา เธอบอกว่า เล่นกับเพื่อนแล้วหกล้มโดนไม้ แต่ตนไม่เชื่อ เพราะแผลที่เกิดจากไม้ ไม่น่าจะเป็นลักษณะแบบนี้ จึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาล

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณหมอได้ตรวจอาการและสอบถามลูกสาว จึงทราบว่า เหตุเกิด เวลา 4 โมงเย็น ขณะที่ลูกสาวกำลังนั่งเล่นอยู่บริเวณโดมของโรงเรียน ระหว่างนั้น มีผู้ชาย 3 คน กวักมือเรียกลูกสาวตน ให้ออกไปนอกโรงเรียน อ้างว่าให้ออกไปเอาขนม ที่ริมคลองข้างโรงเรียน จากนั้นหนึ่งในผู้ชาย ได้เอาไม้แหย่ที่อวัยวะเพศ และอีก 2 คน จับมือลูกสาวตนไว้แล้วนั่ง ซึ่งตอนนั้น ลูกสาวตนรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก และได้ตะโกนร้องไห้ เพื่อให้คนช่วย แต่ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น

หลังจากที่ลูกสาวตนถูกกระทำแล้ว ชายกลุ่มนี้ได้ปล่อยตัวเธอออกมา หลังทราบเรื่อง รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น รู้สึกเจ็บใจ ช้ำใจเป็นอย่างมาก อยากจะถามกับคนร้าย ว่ามาทำลูกฉันทำไม ลูกฉันไปทำอะไรให้ ถ้าถูกจับตัวได้ อยากให้ถูกประหารชีวิตไปเลย ส่วนอาการน้อง ตอนนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู พ้นขีดอันตรายแล้ว หลังผ่าตัดทางทวารหนักและลำไส้ที่ฉีกขาด

ด้าน นายบี (นามสมมติ) อายุ 31 ปี พ่อเลี้ยงเด็กหญิง 10 ขวบ กล่าวว่า ตนเองเลี้ยงดู ผู้เสียหายมาตั้งแต่ 2 ขวบ และรักเหมือนลูกคนหนึ่ง หลังทราบข่าว รีบกลับบ้าน และพบว่า ที่กางเกงของลูกสาวมีรอยเลือดหยดอยู่ จึงข้องใจ อีกทั้งลูกสาวมีอาการแปลก ดูซึมเศร้า กระทั่งต่อมา ก็มาทราบจากแม่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ

ส่วนตัวได้สอบถามกับชาวบ้านและลูกชายวัย 11 ปี (ลูกเลี้ยงติดแม่ พี่ชายของเด็กหญิง 10 ขวบ) ที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วงเวลาเดียวกัน ได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นชาย 3 คน ซึ่งคาดว่า เป็นคนตกปลา เดินเข้ามาบริเวณบ่อน้ำหลังโรงเรียน โดยทั้งหมดขี่รถมอเตอร์ไซค์มา 2 คัน จากนั้นลูกชาย ก็เห็นน้องสาวเลิกเรียนแล้ว มานั่งรอแม่และไม่ได้สังเกตเห็นว่า มีชาย 3 คนล่อลวงน้องออกไป ทั้งนี้ตนไม่สามารถยืนยันได้ว่า ชายทั้ง 3 คนนั้น เป็นคนในหมู่บ้านหรือไม่ แต่บางครั้ง ที่มีคนต่างถิ่น เข้ามาหาปลาบริเวณนี้ ยอมรับว่ารู้สึก เสียใจ และโกรธแค้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านพันตำรวจโท ปิยะวัฒน์ วงศ์ทรายทอง รองผู้กำกับ ป้องกันปราบปราม สภ.หนองใหญ่ ได้ชี้จุดเกิดเหตุที่ พ่อเลี้ยงได้ถ่ายไว้ และอ้างว่าเป็นจุดที่ น้องถูกกระทำ ซึ่งก็น่าแปลกว่า พ่อเลี้ยงรู้ได้อย่างไรว่าเป็นจุดนี้ แถมหลังเกิดเหตุไม่ได้แจ้งกับทางตำรวจและโรงเรียน  ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะต้องแจ้งเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ จึงน่าสงสัย อีกทั้งได้ไปพูดคุยกับเพื่อนบ้าน วันเกิดเหตุช่วง 8-9 โมงเช้า ยังเห็นน้องวิ่งเล่นกับพี่ชายและญาติของพ่อเลี้ยง บริเวณป่ายูคาลิปตัส ที่มีคลองน้ำ ซึ่งขัดกับคำบอกเล่าของแม่และพ่อเลี้ยงว่า น้องได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระทำ ของชาย 3 คน เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ซึ่งบาดเจ็บขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่น้องจะสามารถวิ่งเล่นเหมือนปกติ

จากนั้น ตำรวจได้ลงพื้นที่ป่ายูคาลิปตัส ตามที่เพื่อนบ้านบอก เห็นเด็กวิ่งเล่น พบต้นกระถินที่มีการตัดเป็นตอๆ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การครั้งแรก ที่น้องบอกกับพ่อและแม่ว่า วิ่งหกล้มแล้วถูกไม้แทง แต่ก็ไม่มีร่องรอยคาบเลือด

ต่อมา คุณต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้พาแม่น้องและพ่อเลี้ยงมาที่ สภ.หนองใหญ่ เพื่อแจ้งความเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาให้ได้โดยเร็ว

ด้านคุณต้นอ้อ กล่าวว่า พบพิรุธหลายอย่าง ตนมองว่า หากเกิดเหตุ หลังเลิกเรียนจริง เหตุใดผู้เป็นแม่ ไม่จับสังเกตถึงความผิดปกติของลูกสาว อีกทั้ง วงจรปิดไม่พบความผิดปกติ ขณะที่คำให้การของแม่และพ่อเลี้ยง ก็ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์กลุ่มชาย แม่บอก 1 คัน พ่อบอก 2 คัน ทั้งนี้เชื่อน่าจะจับคนร้ายได้ไม่นาน และเป็นห่วงอาการน้อง ต้องรับการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ลำไส้ใหญ่ทะลุ ต้องใช้ลำไส้เทียม ซึ่งถือได้ว่า เป็นเคสที่ตนรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก

ต่อมาตำรวจพาแม่กับพ่อเลี้ยงเด็กหญิงได้ไปตรวจค้นที่ห้องเช่า ติดกัน 16 ห้องที่ ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง โดยห้องพักของครอบครัวเด็ก อยู่ห้องที่ 15 ตำรวจได้เก็บหลักฐานนิติทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจาก แม่ให้การว่า หลังทราบว่า ลูกสาวถูกกระทำชำเรา จึงรีบพาไปที่โรงพยาบาล

ทีมข่าวได้พูดคุยกับเพื่อนบ้าน 2 คน พูดตรงกันว่า ช่วงเช้าวันเกิดเหตุ เด็กหญิงยังมาทักทาย และวิ่งเล่นกันหน้าบ้าน ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ กระทั่งช่วงเที่ยง ได้ยินแม่ตะโกนเสียงดังทำไมมีเลือดไหลออกมาเลอะกางเกง ก่อนพาส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้รู้สึกเอะใจว่า หากเหตุเกิดวันที่ 12 ทำไมทนอยู่ได้ถึงอีกวัน

ส่วนแพทย์หญิงน้ำเพชร เฉียบแหลม ผอ.โรงพยาบาลหนองใหญ่ กล่าวว่า ทางพ่อและแม่ ได้พาน้องมารักษาตัว ทีมแพทย์ได้เห็นบาดแผลของน้องทางทวารหนัก จึงได้รีเฟอร์ ต่อไปที่โรงพยาบาลชลบุรี เพื่อผ่าตัด เพราะบริเวณทวารหนักของน้อง มีแผลฉีกขาดทะลุไปถึงลำไส้ เกิดการติดเชื้อจากอุจจาระ ส่วนบริเวณอวัยวะเพศ ในเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด

ในด้านคดี พลตำรวจตรีธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ยังไม่ขอแจ้งว่าคดีมีพิรุธหรือไม่ ขอให้พนักงานสอบสวนทำงานก่อน ขอดูไทม์ไลน์ และพยานหลักฐานต่างๆ คาดว่า ไม่เกิน 2 วัน จะมีความชัดเจน ยืนยันว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/TGNIIRFmu9M