‘เสรี’ ร่ำไห้ฟูมฟาย ขอขมาศพ-ครอบครัวไรเดอร์ อ้างไม่ได้ตั้งใจชน ภรรยาลั่นไม่ให้อภัย เอาเรื่องถึงที่สุด

"บังเสรี" ร้องไห้ฟูมฟายขมาครอบครัวไรเดอร์ อ้างไม่ได้ตั้งใจ นำพานดอกไม้ ธูปเทียนขอขมาศพ ก้มจูบไหว้โลงศพร้องไห้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเข้าไปจับมือกอดลูกสาวผู้ตาย เมียผู้ตายรับคำขอโทษแต่ไม่ให้อภัย ลั่น! “จะให้เงินกี่บาทก็ไม่สามารถเทียบกับชีวิตสามีได้” ยอมรับยังโกรธแค้น ระบุ เพิ่งเห็นหน้าคนก่อเหตุครั้งแรก

กรณีหนุ่มลูกเจ้าของร้านขายผ้าตีมึนซิ่งเก๋งชนรถจักรยานยนต์ของนายฤทธิศักดิ์ ประคุปตานนท์ อายุ 48 ปี อาชีพไรเดอร์ อัดกับเสากล้องวงจรปิดเสียชีวิต หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ยอมลงมาเจรจา เหตุุเกิดบริเวณหน้าโครงการก่อสร้างเท็นท์ อเวนิว ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา

วานนี้ (23 ม.ค.) ที่วัดคลองเตยใน มีพิธีสวดพระอภิธรรมนายฤทธิศักดิ์ เป็นคืนที่ 2 บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยนางสายใจ ตามบุญ ภรรยาของผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่งานศพ จุดธูป 1 ดอก เพื่อบอกดวงวิญญาณของสามี ว่าวันนี้ตนได้ไปเดินเรื่อง เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับสามี ก่อนจะเดินไปพูดคุยกับสามีข้างโลงเย็น บอกว่า “มาหาแล้วนะ” ขณะที่น้องแพท ลูกสาวคนโตของผู้เสียชีวิต ได้นำถาดข้าวมื้อเย็นมาให้พ่อ พร้อมเคาะโลง บอกพ่อกินข้าว ซึ่งกับข้าววันนี้ เป็นผัดปลากระพง ข้าวหมูแดงหมูกรอบ น้ำอัดลม นม และเหล้าเพียวออนเดอะร็อก ซึ่งเป็นของที่พ่อชอบกินทั้งหมด

ระหว่างที่กำลังจัดเตรียมงาน นายเสรี คนก่อเหตุ พร้อมพ่อแม่ และญาติ ได้เดินทางมาร่วมงานศพ ทันทีที่นายเสรี เห็นนางสายใจ ได้เข้าไปร้องไห้ ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุกเข่าขอขมา ขอโทษภรรยา บอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ระหว่างที่นายเสรี ก้มขอโทษ ญาติ ๆ ของผู้ตายได้ตะโกนเข้ามาว่า “ไปขอโทษ พี่กูเถอะ”


จากนั้นนายเสรี เดินเข้าไปบริเวณหน้าโลงศพ ลูกสาวคนที่ 3 คนที่สนิทกับพ่อมาก นั่งร้องไห้ จุดธูปให้นายเสรี ก้มไหว้ศพนายฤทธิ์ศักดิ์  จากนั้นได้นำพานดอกไม้ ธูปเทียน ก้มขอขมาศพ และหันไปขอโทษลูกสาว ที่เป็นคนทำให้พ่อของเธอต้องเสียชีวิต ลูกสาวคนที่ 3 ก็ร้องไห้ บอกว่าไม่ต้องไหว้หนู ซึ่งภรรยาของผู้ตาย ได้ตะโกนบอกให้เดินมาบอกสามีที่โลง ก่อนจะเคาะโลง บอกสามีว่า "เขามาขอขมา พ่อจะให้อภัยไหม ก็แล้วแต่พ่อนะ" นายเสรี จึงนำพานธูปเทียน ไปวางให้คนตายที่โลงศพ พร้อมก้มจูบไหว้โลงศพ ร้องไห้ ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพ่อของนายเสรี ก็ก้มไหว้โลงศพด้วย

จากนั้นนายเสรี ได้เดินมานั่งพักที่เก้าอี้ เจ้าตัวใช้มือปิดหน้าตัวเองพร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าเสียใจมากไม่ได้ตั้งใจเป็นอุบัติเหตุ ยืนยันจะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ตาย เมื่อถามว่ารู้ใช่ไหม ครอบครัวผู้ตายเขาจะโกรธแค้นเรา นายเสรี ไม่ทันได้ตอบ ทนายความได้พูดขึ้นมาว่า นายเสรี พูดภาษาไทย และฟังภาษาไทย ไม่ค่อยออก อาจจะตอบคำถามได้ไม่มาก

จากนั้นลูกสาวคนโต จึงให้ขอโทษ น้อง ๆ ของตน ที่ต้องเสียพ่อไป และยังทำใจไม่ได้ นายเสรี ก็เข้าไปจับมือ กอดลูกสาวของผู้ตาย โดยไม่ได้อยู่รอพิธีสวดพระอภิธรรมและขอตัวเดินทางกลับไป ซึ่งจากที่ผู้สื่อข่าวสังเกต ที่ข้อขาของนายเสรี ไม่มีกำไล EM จึงไม่แน่ใจว่าใส่อยู่หรือไม่ แต่ตามเงื่อนไขประกันตัว จะต้องใส่เอาไว้ พร้อมกับห้ามออกนอกประเทศ


ภายหลังนายเสรี และครอบครัว เดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางสายใจ ภรรยาของนายฤทธิ์ ว่าให้อภัยนายเสรีหรือไม่ เธอบอกว่า รับคำขอโทษแต่ไม่ให้อภัย ส่วนดวงวิญญาณของสามีจะอโหสิกรรมให้เขาหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่เขา แต่ตนก็อยากให้สามีปล่อยวาง จะได้ไม่ต้องมีห่วง ส่วนตนและครอบครัว ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาจะรับปากว่า จะดูแลครอบครัวของตนและจะจ่ายเงินชดเชยให้ ตนมองว่าไม่ว่าจะให้เงินกี่บาท ก็ไม่สามารถเทียบกับชีวิตสามีได้

ทั้งนี้ ตนอยากได้สามีคืนมากกว่า ยอมรับว่ายังมีความโกรธแค้นนายเสรีอยู่ เพราะสิ่งที่เขาพูด กับการกระทำมันต่างกัน ในภาพกล้องวงจรปิดเห็นชัดถึงเจตนาของเขา ซึ่งวันนี้ตนได้เห็นหน้านายเสรี เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าที่เขาร้องไห้ขอโทษ เขาจะสำนึกผิดจริงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นการแกล้งทำ ก็ขอให้เวรกรรมตามทันเขาในเร็ววัน ส่วนตัวไม่ได้มองเลยว่าเขาได้ใส่กำไล EM อยู่หรือไม่ เพราะแค่หน้าตนก็ไม่อยากมอง เพราะยิ่งมองก็ยิ่งคิดถึงสามี เพราะเขาเป็นคนฆ่าสามีตาย รวมถึงตนเข้าใจหัวอกของลูกสาวที่ร้องไห้ตอนที่เขามาขอโทษ จริง ๆ แล้วลูก ๆ ไม่ได้อยากได้คำขอโทษแต่อยากได้พ่อของเขาคืนมามากกว่า

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/YcOmoYgoBME