จับ “2 โอปป้า” ถือวีซาท่องเที่ยว ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการทั่วโลก คุมเว็บพนันเกาหลีใต้

บุกจับ “2 โอปป้า” ถือวีซานักท่องเที่ยว ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการทั่วโลก คุมเว็บพนันรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ยอดเงินหมุนเวียนสะพัด 4,000 ล้านวอน หรือประมาณ 100 ล้านบาท

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 ม.ค.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ ตม.อุดรธานี และ สภ.เมืองอุดรธานี เข้าทำการตรวจค้นภายในเช่าไม่มีเลขที่ ในเขต ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งว่ามีชาวต่างชาติเข้ามามั่วสุมและทำงานในลักษณะที่ผิดกฎหมา


โดยเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงพร้อมหายค้นของศาลแขวงอุดรธานี พบชาวสัญชาติเกาหลีใต้ 2 ราย ผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้ชื่อและนามสกุล กำลังควบคุมการเล่นพนักออนไลน์และระบบเซฟเวอร์อยู่ จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวน และตรวจยึดของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวนหลายรายการ และระบบการเล่นพนักออนไลน์ซึ่งยังคงเปิดให้บริการอยู่ในในชื่อเว็ปไซต์ vinus gaming,100d-1 รวมทั้งบัญชีรายชื่อนักพนันและเอกสารทางการเงินในสกุลต่างๆ ทั่วโลก

พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ รักษาการ ผบก.ตม.4 กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งไม่ยินยอมให้เปิดเผยชื่อและนามสกุล ให้การว่าทำงานเกี่ยวกับการเล่นพนันออนไลน์ โดยทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลระบบให้กับเว็บไซต์ vinus gaming,100d-1 ซึ่งเป็นเว็บพนันรายใหญ่ของเกาหลีที่มีผู้เล่นทั่วโลก อีกทั้งผู้ต้องหายังทำหน้าที่หลังบ้านดูแลระบบให้กับเว็บอื่นๆ และนักพนันจำนวนหนึ่งในการดูแลเรื่องการเงิน และชักชวนลูกค้าทั้งชาวเกาหลี ชาวต่างชาติและคนไทยให้เข้ามาเล่นผ่านแอพพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ที่กำหนดอีกด้วย

“จากการตรวจสอบเซปเวอร์ที่ตรวจยึดมาได้นั้นพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนเกาหลีใต้ โดยจะใช้เงินวอนเป็นสกุลเงินที่เล่นพนันผ่านระบบดังกล่าวนี้เป็นหลัก โดยมียอดเงินหมุนเวียนต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านวอน หรือประมาณ 100 ล้านบาทของไทย ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 นั้นเดินทางเข้าประเทศไทยรูปแบบนักท่องเที่ยว ก่อนจะใช้พื้นที่ จ.อุดรธานี เป็นฐานหลักในการดำเนินการเล่นพนันในเว็บดังกล่าว”

ผบก.ตม.4 กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ยังให้การอีกว่าได้รับค่าจ้างให้ทำหน้าที่ควบคุมระบบดังกล่าวโดยได้เงินเดือนๆละ ประมาณ 80,000-100,000 บาท อย่างไรก็ตามภายหลังสอบปากคำแล้วเสร็จจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับประสานงานสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยตามขั้นตอนต่อไป