หญิง 70 แจ้งความถูกชาย 75 ใช้กำลังบังคับขืนใจกลางป่ายาง บอกอีก 3 วันจะมาใหม่ ซ้ำขู่ฆ่ายกครัว

ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ 9 ม.ค.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านที่อยู่อาศัยของผุ้เสียหาย ซึ่งอยู่ภายในรั้วที่ดินของวิทยาลัยในพื้นที่ หมู่ 7 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง โดยสภาพเส้นทางต้องขับเข้าไปจากรั้ววิทยาลัยฯ และขับเข้าผ่านถนนลูกรัง มีสภาพที่เปลี่ยว ไร้บ้านเรือน สองข้างทางเต็มไปด้วยป่ารกทึบและสวนยางพารา ซึ่งในระหว่างทางได้มี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของวิทยาลัยฯ อาสาที่จะขับนำพาผู้สื่อข่าวไป

จนกระทั่งได้พบนางสาวนงนุช หรือยายเอียด อายุ 70 ปี ผู้เสียหายซึ่งกำลังเดินเท้าออกมาจากบ้าน เพื่อที่จะไปรับแกงถุงที่มีคนใจบุญสั่งซื้อไว้ให้เป็นปกติในทุกวัน ที่ร้านข้าวแกงแห่งหนึ่งในตลาดลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ระยะทางเดินเท้าไปกลับจากบ้านประมาณ 7 กิโลเมตร ก่อนที่ผู้สื่อข่าวอาสารับขึ้นรถเพื่อนำพาไปรับแกงถุง ก่อนจะเดินทางกลับมาส่งที่บ้านพัก

เมื่อมาถึงพบกับสภาพบ้านเป็นบ้านพักของวิทยาลัยฯ ซึ่งไม่มีผู้อยู่อาศัยแล้ว เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว อยู่อาศัยกับทั้งหมด 4 ชีวิต มีคุณยายเอียด น้องสาวอายุ 68 ปี (ป่วยทางสมอง) น้องชายอายุ 66 ปี (ป่วยทางสมอง) และน้องชายอายุ 60 ปี (ร่างกายไม่สมบูรณ์) โดยที่คุณยายได้นำแกงถุงมาให้น้องๆ ทั้งหมดได้กินกัน

ก่อนที่นางสาวนงนุช หรือคุณยายเอียด ซึ่งยังอยู่ในอาการหวาดกลัว จะนำไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมเล่าอ้างเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังเดินถือถังเศษหรือขี้ยาง หลังจากไปเก็บมาเพื่อนำไปขาย ได้มีชายทราบชื่อเล่นว่า นายเหว่า อายุประมาณ 75 ปี ได้ขับขี่รถ จยย.สีแดง เข้ามาหาในขณะเดินอยู่ ก่อนจะชวนให้คุณยายขึ้นซ้อนท้าย โดยอ้างว่าจะขับพาไปส่งขายขี้ยาง

แต่เมื่อขับออกมาได้ถึงบริเวณสวนยางพารา นายเหว่าได้จอดรถให้คุณยายลง ทำร้ายร่างกาย ทั้งต่อยท้อง บีบคอ ตบหน้า กดศีรษะกระแทกเข้ากับรากโคนต้นยางพารา เลือดออกจมูก ก่อนจะลากคุณยายไปในป่าสวนยางพาราและลงมือข่มขืน โดยถอดเสื้อผ้า ขึ้นคร่อมยาย บีบคอไม่ให้ร้อง และบอกว่าจะต้องเอากับกูไม่งั้นจะฆ่าให้ตายอยู่ในป่านี้ จนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง

จังหวะนั้นตนก็ได้ใช้มือบีบฉีกปากนายเหว่า จนเลือดออก เพื่อต่อสู้ขัดขืน ซึ่งในระหว่างนั้นนายเหว่าจะพูดขู่ว่าหากไม่ยอมจะฆ่าให้ตายตลอดเวลา เมื่อนายเหว่าเสร็จแล้วได้บอกให้คุณยายเดินไปเอง ก่อนที่นายเหว่าขับรถหลบหนีไปภายในป่า โดยทิ้งคุณยายไว้ พร้อมทั้งบอกว่าไม่กลัวหรอกตำรวจ ไม่กลัวหรอกยาม แต่อย่าไปบอกใครไม่นั้นจะฆ่าให้ตายทั้งหมดครอบครัว และอีก 3 วันจะกลับมาข่มขืนใหม่ และครบ 3 วันจะมาฆ่าให้หมด หลังจากนั้นตนก็เดินไปรับแกงเพื่อนำมาให้น้องๆ ได้กิน ซึ่งในระหว่างเดินก็มีเลือดเต็มหน้า และได้ไปเล่าให้คนในตลาดฟัง ก่อนที่น้องชายจะโทรหา 191 ประสานกับ รปภ. และประสานงานกับตำรวจเพื่อไปแจ้งความ และตำรวจพาไปให้ตรวจที่ รพ.ก็พบมีบาดแผลที่ช่องคลอด

คุณยายจำหน้านายเหว่าได้เพราะเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา นายเหว่าเคยมามัดล็อกคอตนเพื่อข่มขืน และบอกว่าจะฆ่าตนโดยพาทิ้งสระน้ำมาแล้ว แต่ครั้งนั้นตนดิ้นหนีหลุดออกมาได้ และวิ่งไปหาคนช่วยเหลือได้ทัน ตอนนี้ก็รู้สึกหวาดกลัว เป็นห่วงน้อง ๆ รวมทั้งตนที่ต้องเดินออกไปรับแกงถุงมากินในทุกวัน เพราะนายเหว่าขู่ว่าจะกลับมาฆ่าถึงบ้าน ตอนนี้ก็มีน้องชายที่เฝ้าบ้านให้อยู่ แต่เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากให้เอานายเหว่ามาติดคุก เอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทุกอย่างก็บอกให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว

วันนั้นที่นายเหว่าข่มขืนคิดว่าคงจะต้องตายแล้ว ซึ่งก็เป็นห่วงน้อง ๆ ว่าจะอยู่กันยังไง เพราะตอนนั้นตนหายใจไม่ออก นายเหว่าข่มขืน-บีบคอเธอจนสำเร็จความใคร่ สำหรับตนที่ได้อยู่ในบ้านพักแห่งนี้เพราะคุณตาได้บริจาคที่ดินจำนวน 1 พันกว่าไร่ให้กับวิทยาลัยฯ หลังจากพ่อแม่ตายก็ต้องหาเลี้ยงน้องที่ไม่สมประกอบมาประมาณ 6-7 ปีแล้ว โดยการหาเก็บเศษขี้ยางพาราไปขาย ที่ผ่านมีชาวบ้าน มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือเรื่องสภาพความเป็นอยู่ อาหารแห้งมากแล้ว ล่าสุดก็ได้เงินหมื่นจากรัฐบาล แต่มาเกิดเหตุการณ์ถูกข่มขืนนี้

ทางด้าน ร.ต.อ.สุเมธ จิตเพ็ชร รอง สว. (สอบสวน) สภ.บ้านคลองเต็ง (เจ้าของคดี) ได้อำนวยความสะดวกในทางคดี ก่อนเดินทางมาพบและมาเยี่ยมคุณยายถึงภายในวิทยาลัยฯ พร้อมเปิดเผยว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณยายได้มาแจ้งความตั้งแต่วันเกิดเหตุ หลังจากอ้างว่านายเหว่า อายุ 75 ปี เป็นผู้ข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งในวันแรกหลังจากสอบปากคำเบื้องต้น คุณยายบอกว่านายเหว่าอยู่ในพื้นที่ ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด โดยเป็นพื้นที่ของ สภ.ห้วยยอด หลังจากนั้นก็ได้เชิญตัวยายไปให้แพทย์ตรวจร่างกายที่ รพ.ศูนย์ตรัง แต่ยายไม่สามารถไปได้ในวันนั้น เพราะกลัวว่าน้องๆ จะไม่มีอะไรกิน เพราะไม่มีคนไปเอาแกงถุงให้ ตนก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ตามที่คุณยายมาแจ้งเบื้องต้น

ต่อมาวันที่ 7 ม.ค.ก็ได้สอบสวนต่อ โดยประสานไปยังในพื้นที่ ต.ลำภูรา ว่ามีคนชื่อนายเหว่าอายุ 75 ปีหรือไม่ แต่ปรากฏว่าจากการสอบสวนไม่มีคนชื่อนายเหว่า อายุ 75 ปี ต่อมาวันที่ 8 ม.ค.ได้สอบสวนต่อจนกระทั่งทราบว่า ในพื้นที่ สภ.คลองเต็ง มีคนชื่อนายเหว่า อายุ 75 ปีจริง จึงเชื่อได้และคาดว่าคดีนี้น่าจะมีมูล จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานได้ในระดับหนึ่ง จึงได้มาเชิญตัวคุณยายอีกครั้งในเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 8 ม.ค.ไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศูนย์ตรัง เสร็จสิ้นประมาณ 01.00 น.ของวันนี้ 9 ม.ค.หลังจากนั้นได้นำตัวยายมาสอบปากคำ และดำเนินการอย่างเร่งด่วน ให้ชุดสืบสวน สภ.บ้านคลองเต็งออกสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด

ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการครบถ้วน ทั้งตรวจสถานที่เกิดเหตุ ดูสภาพแวดล้อม อยู่ระหว่างรอพยานหลักฐานซึ่งเป็นผลตรวจร่างกายจากทาง รพ.ศูนย์ตรัง หากผลออกมาพบว่ามีร่องรอยของการถูกข่มขืนกระทำชำเราจริง จะได้เชิญตัวนายเหว่า ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย เบื้องต้นคาดว่าผู้ต้องสงสัยยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่

หลังจากเกิดเหตุผู้บังคับบัญชาก็ได้กำชับมาให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายโดยเร็วและเร่งด่วน และให้เป็นไปตามหลักกระบวนการยุติธรรม ส่วนประเด็นที่ยายบอกว่าหวาดกลัวเนื่องจากมีการขู่จะฆ่านั้น ระหว่างที่คดีอยู่ในการสืบสวนสอบสวนนั้น ทางผู้บังคับบัญชาก็จะให้ตำรวจสายตรวจร้อยเวร 20 เข้าไปตรวจสอบบ้านยายอย่างถี่ เพื่อความปลอดภัยของคุณยายและครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีการโพสต์เรื่องราวไปในเฟซบุ๊ก ได้มีชาวบ้านและประชาชนผู้ใจบุญเดินทางมาเยี่ยมคุณยายและน้องๆ รวมทั้งซื้ออาหาร น้ำดื่ม ข้าวของมาให้ รวมทั้งให้กำลังใจกับคุณยาย อย่างไม่ขาดสาย ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวได้มอบเงินเพื่อให้คุณยายเก็บไว้ใช้จ่ายอีกจำนวนหนึ่ง