อาชญากรรม
เบิกตัวจำเลย 16 บอส ขึ้นศาลฟังคำฟ้องคดีดิไอคอน ด้านทนายบอสพอล ดีใจที่ "มิน-แซม" ได้ประกันตัว
โดย nutda_t
13 ชั่วโมงที่แล้ว
191 views
วันนี้ ( 9 ม.ค.68 ) ศาลอาญา นัดสอบคำให้การ คดีหมายเลขดำที่ อทย14/2568 คดีระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล หรือบอสพอล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน กับพวกรวม 17 คน ใน 5 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงฯ และข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลอื่นเข้าร่วมเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน จากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
โดยบรรยากาศบริเวณด้านหน้าศาลอาญา มีสื่อมวลชนมาปักหลักรอทำข่าว เจ้าหน้าที่ศาลได้นำแผงเหล็กมากั้นพื้นที่ กระทั่งเวลา 08:20 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ได้เบิกตัวผู้ต้องหาชาย เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา จากนั้น เวลา 08:36 น. เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ได้นำผู้ต้องขังหญิงในคดีเดินทางมาถึงศาลเช่นเดียวกัน
ก่อนที่ในเวลา 09.00 น. นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ "บอสพอล" ได้เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดาภิเษก เพื่อเข้าฟังคำสั่งฟ้อง ทนายวิฑูรย์ ระบุว่า วันนี้ศาลให้เบิกตัวจำเลยทั้ง 16 คน มาฟังคำสั่งฟ้อง หลังจากที่อัยการมีคำสั่งฟ้อง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 16 คนจะให้การปฏิเสธเพียงสั้นๆ ไปก่อน ซึ่งเหตุผลในการปฏิเสธ คือผู้ต้องหาทั้ง 16 คน จะให้การโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่งในวันที่มีการนัดสอบคำให้การ โดยในการนัดครั้งถัดไป จะต้องมีการวางแผนและต้องใช้ความละเอียด คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน 2568 โดยทีมทนายความจะมีการปรึกษากัน และจะต้องดูว่าพยานที่เหลืออยู่นั้นเหลืออยู่เท่าไหร่ ส่วนพยานที่ดีเอสไอยังไม่มีการสอบปากคำนั้น ก็จะนำมาใช้ในชั้นศาลด้วย ไม่ว่าจะเป็นพยานตัวแทนหรือคุณหมอ และเภสัชกร ที่มีการขอให้สอบเพิ่ม ในส่วนของตัวแทนอาจจะต้องมีการตัดออกไปบ้าง เพราะถ้ามีเยอะ หากไม่ได้ประกันตัวการที่มีพยานเยอะก็เป็นผลเสียกับฝั่งจำเลย ซึ่งต่อให้คัดแล้วก็ยังเหลือหลักร้อยอยู่ดี
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ระยะเวลาในการดำเนินการจนกว่าจะไปถึงศาลชั้นต้นจะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ทนายวิฑูรย์ ระบุ ในกรณีจำเลยได้รับการประกันตัว น่าจะใช้เวลานาน และจะมีการสืบพยานอีกครั้งนึงในปีหน้า แต่ถ้าหากเป็นจำเลยขังก็ไม่รู้ว่าพิจารณาเมื่อไหร่ แต่ส่วนตัวก็มีความกังวลในเรื่องของเอกสารที่ดีเอสไอส่งมาที่อัยการ 300,000 แผ่น และเอกสารของบริษัททั้งแบบดีลเลอร์เก็ทดีลเลอร์ 2 แสนแผ่น และเอกสารของการทำธุรกรรมของผู้เสียหายแต่ละคนอีกจำนวนมากนั้น คนที่รู้เอกสารทั้งหมดดีที่สุด คือพนักงานสอบสวน และตัวจำเลยเองจึงมองว่าการที่จะเบิกตัว หรือประกันตัวออกมาสู้คดีนั้นมีความจำเป็นมาก เพราะคดีอาญาในลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่คดีค้ายาบ้า หรือฆ่าคนตาย แต่เป็นคดีอาญาที่เกี่ยวกับธุรกิจ เพราะฉะนั้นการที่ประกันตัวจำเลยออกมาสู้คดีก็เป็นเหมือนกันการให้เขาออกมาสู้ คดีและนำข้อมูลนำเรียนถึงศาลด้วนตนเอง จึงจะต้องมีการวางแผนเรื่องการประกันตัวว่าจะประกันช่วงไหน แต่ส่วนใหญ่ทนายความก็มองว่าจะยื่นช่วงไหนก็ได้ พร้อมบอกว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการขอรายชื่อคนที่มาแจ้งความ เพื่อขัดแยกว่าอยู่สายบอสคนไหน เพื่อดูว่าคนที่แจ้งความแต่ละคนไปถึงตัวบอสคนไหนเท่าไหร่บ้าง
ส่วนเมื่อวานนี้ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องนายแซม ยุรนันท์ และ นางสาวมิน พิชญา ตนรู้สึกดีใจที่สองคนนี้อัยการสั่งไม่ฟ้อง พร้อมบอกว่าบริษัทของเราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ขายสินค้าที่ถูกกฎหมาย และไม่ได้ขายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ตนมองว่าการที่อัยการสั่งไม่ฟ้องทั้งสองคนนี้ เป็นความกล้าหาญของอัยการที่กล้าจะยึดถือความยุติธรรมเป็นหลัก แต่ไม่ได้ว่าท่านว่าไม่ได้ยุติธรรมกับจำเลยทั้ง 16 คน ที่สั่งฟ้อง คงจะต้องสู้ต่อไป ตนเข้าใจได้ และถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการสู้คดี โดยไม่ต้องปรับแผนการต่อสู้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าแนวทางเป็นอย่างไร และตนมองว่าหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดรวมถึงนางสาวมิน พิชญา และนายแซม ยุรนันท์ มีการคัดค้านการประกันตัวมาโดยตลอด สุดท้ายอัยการสั่งไม่ฟ้อง จึงอยากถามกลับว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นจะรับผิดชอบชีวิตสองคนนี้อย่างไร ที่จะต้องอยู่ภายในเรือนจำกว่า 2 เดือน พร้อมตั้งคำถามว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นทำงานตามกระแสสังคมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่ากังวลหรือไม่ หากพนักงานสอบสวนดีเอสไอเห็นแย้งกับอัยการในการสั่งฟ้อง นายแซม ยุรนันท์ และ นางสาวมิน พีชญา ทนายวิฑูรย์ ระบุว่า การที่อัยการไม่สั่งฟ้องสองคนนี้ เป็นเพราะหลักฐานไปไม่ถึงทั้งสองคน ต่อให้ดีเอสไอออกมาแย้ง ตนก็ไม่กังวลอะไรแทนทั้งสองคน ซึ่งทั้งสองคนมีทนายความส่วนตัวอยู่แล้ว เบื้องต้นยังไม่ได้คุยถึงแนวทางต่อไป
พร้อมบอกว่าถ้าจับขังแล้วให้สิทธิ์การประกันตัว ตนก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ที่ผ่านมามีการค้านประกันตัวมาโดยตลอด ทำให้ไม่สามารถชี้แจงอะไรได้เลย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือจับบอสทั้งหมดรวมถึงมีการอายัดทรัพย์สิน และนำไปยัดคุกและคัดค้านการประกันตัว จึงมองว่าเรื่องนี้มีความเป็นธรรมกับตัวจำเลยหรือไม่ พร้อมบอกว่าไม่ว่าจะเป็นตำรวจพนักงานสอบสวนดีเอสไอต่างก็มีอำนาจจากภาครัฐ แต่ตนเป็นทนายความเป็นภาคเอกชนไม่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ เรามีเพียงอย่างเดียว คือต้องหาสิทธิในการประกันตัวซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานให้กับลูกความ
พร้อมฝากไปถึงทนายความทุกคนในประเทศไทย การที่ลูกความไปติดคุกนั้น ไม่ได้ติดคุกเพียงคนเดียวแต่ครอบครัวเขาไปติดด้วย อย่างกรณีของนายแซม ยุวนันท์ เวลาตนเข้าไปเยี่ยม ตนก็จะเจอทั้งภรรยา และลูกของนายแซมตลอด หรือเวลาเข้าไปเยี่ยมบอสคนอื่นๆ ก็มักจะเห็นครอบครัวมาเฝ้า จนไม่ได้ทำงานทำการ เพราะฉะนั้นใครที่เป็นทนายความจะต้องยืนหยัดอยู่ข้างลูกความของตัวเอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากการเข้าไปเยี่ยมได้เจอกับนายกันต์ กันตถาวร หรือไม่ และสีหน้าท่าทางเป็นอย่างไร ทนายวิฑูรย์ ตอบว่าหลังจากที่อัยการมีคำสั่งออกมาตนยังไม่ได้เจอนายกันต์ กันตถาวร แต่คาดว่าน่าจะปกติดี แต่คงไม่ถึงขั้นยิ้มแย้ม ส่วนเรื่องภรรยาของนายกันต์ กันตถาวร เรื่องนี้ตอบไม่ได้
ส่วนกรณีที่มีผู้เสียหายอ้างว่าถูกทนาย และบอสดิไอคอน ข่มขู่บังคับให้ถอนแจ้งความนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการบังคับข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ ซึ่งผู้เสียหายที่เคยแจ้งความก็เคยให้ข่าวไปแล้วว่า เป็นการถอนแจ้งความด้วยตนเอง ส่วนการที่บอกว่าข่มขู่นั้น เป็นเพียงการข่มขู่ว่าจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายกับผู้ที่แจ้งความเท็จ ซึ่งสามารถทำได้ จึงไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่ที่มีความผิดตามกฎหมายอาญา
ส่วนกรณีที่มีผู้ไปยื่นสอบมรรยาททนายสภาทนายความตนนั้น ตนมองว่าเป็นการใช้สิทธิ์เกินสุจริตหรือไม่ หรือต้องการปิดปากตน เพื่อกลั่นแกล้ง ซึ่งตนจะให้เพื่อนที่เป็นทนายความให้ตนตรวจสอบ ดำเนินคดีกับผู้ที่ร้องเรียนทุกคน รวมทั้งเชื่อว่าสภาทนายความจะไม่นำเรื่องไร้สาระมาพิจารณา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทดิไอคอนและบรรดาบอสถูกอายัดทรัพย์สินไปแล้ว ทนายใช้เงินส่วนไหนในการนำมาต่อสู้คดี หรือมีผู้คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทนายวิฑูรย์ บอกว่าไม่มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด แต่ตนได้รับเงินว่าจ้างมาแล้วบางส่วนก่อนที่ทรัพย์สินจะถูกอายัด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ บริษัทดิไอคอนถูกสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เพิกถอนทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ไปแล้ว ยังมีความมั่นใจอยู่หรือไม่ว่าจะสามารถจำหน่ายสินค้าได้ ทนายวิฑูรย์บอกว่า การเพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าวคือ บริษัทไม่สามารถขายสินค้า ให้กับผู้บริโภคด้วยเครื่องมือที่ห่างไกลโดยระยะทาง หรือทีวีไดเร็คได้โดยตรง แต่ยังสามารถซื้อ-ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ สคบ. ได้เข้ามาสอบสวนครั้งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา(6ม.ค.) ต่อจากที่สอบค้างไว้คราวก่อน ซึ่งฝั่งตนได้ให้การไปแล้วว่าผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ได้ แต่ สคบ. มาทดลองสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ในช่วงที่ธนาคารยกเลิกการให้บริการ Payment Gateway (เทคโนโลยีที่รวบรวมและถ่ายโอนข้อมูลการชำระเงินจากลูกค้าไปยังผู้ขาย)ไปแล้ว ทำให้ชำระเงินไม่ได้ ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชี User กว่า 17,000 คนที่ไม่ได้เปิดบิลกับบริษัทเพื่อยื่นเป็นหลักฐาน แต่ สคบ.กลับมีคำสั่งออกมาก่อนจึงยังไม่ได้ยื่น โดยหลังจากนี้ตนจะยื่นอุทธรณ์ที่ สคบ.อีกครั้งภายใน 15 วัน
ทั้งนี้ บรรดาบอสดิไอคอนเริ่มอยากออกมาต่อสู้คดีกันอย่างจริงจัง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับการประกันตัวเลย ซึ่งหลังจากนี้ต้องมีการประชุมหารือว่าจะวางแผนกันอย่างไร หากไม่ได้รับการประกันตัว แต่หากได้ประกันตัวก็จะทำให้ทำงานกันได้ง่ายขึ้น เพราะขณะนี้คดีความอยู่ในชั้นศาลแล้ว จึงต้องสู้กันอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการยื่นประกันตัวในวันนัดสอบคำให้การเลย เพื่อให้ศาลได้เห็นข้อเท็จจริงทั้งสองอย่าง และให้หมดข้ออ้างเรื่องการยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
แท็กที่เกี่ยวข้อง บอสดิไอคอนกรุ๊ป ,ทนายวิฑูรย์ ,ทนายบอสพอล