อาชญากรรม
คุมตัวทำแผน “ช่างสันต์” รัวยิง “หมวดบรรรัง” หมดแม็ก อ้างป้องกันตัว ตร.จ่อออกหมายจับเพิ่ม
โดย JitrarutP
4 ม.ค. 2568
971 views
คุมตัว “ช่างสันต์” ทำแผน ควักปืนรัวยิง “หมวดบรรรัง” กระสุนหมดแม็ก อ้าง ไม่ได้ตั้งใจทำไปเพราะป้องกันตัว ด้านตำรวจจ่อออกหมายจับแก๊งช่างสันต์เพิ่ม
พนักงานสอบสวน สน.สายไหม นำตัวนายอรรณพ ศรีสืบ หรือช่างสันต์ ผู้ก่อเหตุ ไปทำแผน ประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุยิงร.ต.ท.บรรรัง เกษาพร อายุ 55 ปี รอง สวป.สน.สายไหม เสียชีวิต ที่บริเวณร้านตัดผม ริมถนนเฉลิมพงษ์ แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
ในจุดเกิดเหตุเองพบว่ามี โต๊ะ เก้าอี้ พร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางอยู่ โดยบริเวณใกล้กันมีรอยเลือด และกระดาษทิชชู่ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก โดยตำรวจได้พาตัวผู้ก่อเหตุไปชี้จุด และได้กันบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก่อนจะนำตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถคุมขังเพื่อไปฝากขังยังศาลอาญามีนบุรี ซึ่งในระหว่างคุมตัวขึ้นรถนั้นเองสื่อมวลชนพยายามสอบถาม ว่าอยากขอโทษผู้ตายหรือไม่ ผู้ก่อเหตุตอบสั้นๆ ว่า "ขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจ"
ด้านนางสมัย อายุ 60 ปี อ้างตัวว่าเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ร่ำไห้เสียใจ ว่า "ยิงน้องชายตนทำไม เรื่องมันเกินไป เพราะตนเองก็รักน้อง ที่ผ่านมาน้องไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร อยากให้ศาลลงโทษประหารชีวิตผู้ก่อเหตุ" พร้อมกับบอกว่า ทำไมถึงทำกับน้องชาย ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีญาติทางฝั่งผู้ก่อเหตุมาขอโทษเลย และที่ผ่านมาน้องชายมากินข้าวที่นี่เป็นประจำ ยืนยัน ว่าน้องเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น และอีก 5 ปีหลังจากเกษียณอายุ น้องชายจะกลับไปใช้ชีวิตที่ ลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา
ด้านเพื่อนร่วมวงเหล้าของผู้ตาย ได้ยืนยันว่า ทางผู้เสียชีวิตเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ยอมรับว่ามีการดื่มเหล้าเกือบทุกวัน ผู้ก่อเหตุรู้จักกับผู้ตาย ในตอนนั้นผู้เสียชีวิตจะไปเคลียร์ปัญหาให้กับผู้ก่อเหตุ ที่อ้างว่ามีชายใส่เสื้อสีขาวมาแจ้งความ ซึ่งเช่าบ้านอยู่ในละแวกเดียวกัน แต่ตนเองก็ไม่รู้ว่าชายเสื้อขาวกับผู้ก่อเหตุทะเลาะกันเรื่องอะไร และในตอนนั้น ผู้เสียชีวิตแต่งตัวเต็มยศ และเพิ่งจะถอดเสื้อนอกออก ตอนกินเหล้า และพกอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา
ขณะที่นายสุชิน เจ้าของร้านตัดผม ระบุว่า ตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ได้เข้ามาดูหลังจากเกิดเหตุขณะที่มีการจับตัวคนร้ายแล้ว และก็เห็นผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ กำลังมีการช่วยเหลือชีวิตอยู่ ส่วนจะเอาปืนไปซ่อนหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมายืนยันว่าทางผู้เสียชีวิตเป็นคนดี อีกทั้งสองคนไม่รู้จักกัน จึงไม่สามารถปากมีปากเสียงกันได้อย่างแน่นอน ส่วนชายเสื้อขาวที่กล่าวอ้าง ขณะนี้ก็ยังหาตัวไม่เจอ ส่วนการยิงจำนวน 7 นัด คาดว่าน่าจะเป็นการหมั่นไส้กันหรือไม่ ก่อนก่อเหตุตนเองไม่ทราบ แต่รู้เพียงว่าช่วงหลังมานี้คนก่อเหตุ เริ่มเหิมเกริม และนอกจากนี้ตนเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ พันตำรวจโทสราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.สายไหม เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำช่างสันต์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่อ้างว่า ไม่เคยพูดคุยหรือรู้จักกับ "หมวดบรรรัง" มาก่อน เพียงเคยเห็นว่า "หมวดบรรรัง" มากินข้าวและตัดผมที่ร้านฝั่งตรงข้าม ส่วนวันเกิดเหตุอ้างว่ามีปัญหาเขม่นมองหน้ากับชายเสื้อขาว ซึ่งเจ้าตัวคาดว่าน่าจะเป็นชาวเมียนมา จากนั้นเมื่อเห็น "หมวดบรรรัง" จึงเดินเข้าไปถามว่าชายคนดังกล่าวไปแจ้งความจับตนเองใช่หรือไม่ ก่อนจะมีปากเสียงและฝ่าย "หมวดบรรรัง" ชักปืนออกมาก่อน ทำให้ต้องยิงป้องกันตัว อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อ และการยิงตำรวจไปถึง 15 นัด หมดแม็ก เข้าตัวหมวดบรรรัง 7 นัด ก็เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุอยู่ดี และถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์
อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา จึงไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุในช่วงเวลาดังกล่าวหลายตัว แต่ก็ยังไม่พบชายชาวเมียนมาคนดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างให้ชุดสืบสวนตรวจสอบหาตัวชายชาวเมียนมาคนนี้มาสอบปากคำ ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นชาวเมียนมาจริงหรือไม่ หรือมีตัวตนจริงหรือไม่ ส่วนอาวุธปืน ผู้ก่อเหตุก็น่าจะพกติดตัวตลอด ไม่ใช่การกลับไปเอาที่บ้าน แต่หากพบพยานหลักฐานว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อน ก็จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ส่วนการสอบปากคำคนใกล้ชิดของช่างสันต์ ซึ่งตอนแรกไม่ยอมบอกว่าเก็บอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุไว้ จนกระทั่งตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านเช่า ซึ่งเป็นร้านซ่อมรถ และพบว่ามีปืนอยู่ เจ้าตัวจึงยอมรับว่าเก็บปืนไว้ให้ เพราะกลัวว่าช่างสันต์จะเอาไปก่อเหตุอื่นอีก ส่วนที่ไม่บอกตอนแรก เพราะหวาดกลัว หลังโดนช่างสันต์ขู่ไว้ไม่ให้บอก
ดังนั้นเบื้องต้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการขยายผลดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องและคนใกล้ชิดช่างสันต์อีกหลายคน ซึ่งมีทั้งที่เกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้นโดยตรง และกลุ่มที่ให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหา นำวัตถุพยานไปซุกซ่อน โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานให้ชัดเจนว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง และจะดำเนินคดีเป็นล็อตต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง ช่างสันต์ ,ยิงตำรวจ