รวบแล้ว 2 โจ๋เจ้าถิ่นซอยจรัญสนิทวงศ์ 45 ไล่ฟันแก๊งอริดับ 1 เจ็บ 4

เมื่อเวลา 01:18 น. วันที่ 1 มกราคม 2567 ร.ต.อ.วรธน อิ่มวิทยา รอง สว. สอบสวน สน.บางยี่ขัน รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต จุดเกิดเหตุภายในทางเดินชั้น 2 ของอะพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ ภายในซอยวัดปฐมบุตรอิศราราม ซอยจรัญสนิทวงศ์ 45 แยก 7 แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณบันไดหนีไฟ ชั้น 2 พบร่างผู้เสียชีวิตเป็น ชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายเก้านภัส หรือ นายรถถัง อายุ 17 ปี นอนจมกองเลือด พบบาดแผลกลางหน้าอก 1 แผล และต้นแขนขวา อีก 2 แผล นอกจากนี้ปากทางเข้าอะพาร์ตเมนต์ ยังพบรถยนต์ จำนวน 2 คัน มีร่องรอยการเฉี่ยวชน คันแรกเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ110i สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บังโคลนหน้าแตกหัก ส่วนอีกคันเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ125 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พบคลายเลือดและรองเท้าผู้ตาย

เบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มากัน 4 คัน ได้ขับขี่ตามกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น จนทำให้อีกฝ่ายซึ่งมีจำนวนเยอะกว่าปิดล้อม ก่อนเกิดเหตุวิวาท โดยฝั่งผู้ตาย มีผู้ได้บาดเจ็บอีก 4 ราย ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง

ต่อมา ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุหน้าวัดปฐมบุตรอิศราราม ซอยจรัญสนิทวงศ์ 45 เจอมีดพร้ายาวประมาณ 50 เซนติเมตร 2 เล่มตกอยู่บริเวณใต้กระถางต้นไม้หน้าวัด ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นจุดที่ตั้งดื่มสังสรรค์วันปีใหม่ของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จนกระทั่งเวลา 01:18 น. ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์ 4-5 คัน รวม 9 คน เข้ามาภายในบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะมีปากเสียงและรุมทำร้ายร่างกายกัน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขัน สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน ประกอบด้วย นายนราธิป อายุ 16 ปี และนายอนาวิน อายุ 17 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำโดยมีสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำด้วย ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคงเร่งขยายผลข้อมูล เนื่องจากทราบข้อมูลว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องร่วมก่อเหตุครั้งนี้อีกจำนวนหนึ่ง

ด้าน พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยทางโทรศัพท์ ยอมรับว่าลูกชายได้ออกจากบ้านไปเที่ยว โดยขี่รถไปคนเดียว ออกไปหาเพื่อนทุกคืน โดยเจ้าตัวไม่ทราบว่าลูกชายไปพื้นที่ไหน แต่อ้างว่าไปนั่งคุยกับเพื่อน และจะกลับบ้านมาราว 4-5 ทุ่ม ส่วนคืนเกิดเหตุ ไม่ทราบว่ามีการไล่ล่าติดตามกลุ่มคู่อริในที่เกิดเหตุหรือไม่ และก่อนหน้านี้ได้มีการตักเตือนลูก เนื่องจากลูกชายเพิ่งออกจากบ้านเมตตา ย่านบางนา เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ในข้อหายาเสพติด และตนเป็นห่วงลูก ทั้งนี้เชื่อว่าลูกชายน่าจะไม่ได้เป็นคนเข้ามาไล่กลุ่มผู้ก่อเหตุภายในชุมชนแน่นอน ส่วนเรื่องของคดียังไม่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ยืนยันว่าจะให้ตำรวจดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทั้งนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับเด็กชายฮาเล่ย์ อายุ 14 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ตนเองกับพวก นั่งเฉลิมฉลองปีใหม่หลังเคานต์ดาวน์อยู่ที่ย่านตลิ่งชัน มีเด็กชายวิน รุ่นน้องมาตาม ขอให้พวกตนเองไปช่วยเคลียร์กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นวัยรุ่นในซอยจรัญสนิทวงศ์ บุกไปทำลายข้าวของที่บ้านพัก เมื่อ 2 วันก่อน ตนเองกับพวกจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปทั้งหมด 3 คัน จำนวน 6 คน ตั้งใจจะไปขอเคลียร์ โดยยอมรับว่าได้พกปืนแบลงค์กันไปด้วย แต่ไม่มีกระสุน และเมื่อไปถึงก็เจอกลุ่มผู้ก่อเหตุประมาณ 30 คน ที่มีทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ถืออาวุธมีด เข้ามาไล่ฟันกลุ่มของตนเองทันที โดยยังไม่ทันได้พูดคุยอะไร ตนเองจึงขี่รถหลบหนีเข้าไปในวัด ส่วนนายรถถัง ที่เสียชีวิต ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่นายแบงค์เป็นคนขับ ก็ถูกกลุ่มคู่กรณีถีบจนรถล้ม แล้วใช้อาวุธมีดจ้วงบริเวณหน้าอก ก่อนจะหนีเข้าไปในหอพักและเสียชีวิต ทั้งนี้ตนเองยืนยันว่า ไม่รู้จักกับกลุ่มคู่กรณีมาก่อน และไม่ได้มีปัญหากันโดยตรง