อาชญากรรม
เผาศพ 'แบงค์ เลสเตอร์' ยายร่ำไห้เกาะข้างโลง – 'เอ็ม เอกชาติ' เผยหากจบคดีจะบวช แจงเงินเยียวยาให้ยาย
โดย thichaphat_d
31 ธ.ค. 2567
72 views
ฌาปนกิจ ‘แบงค์ เลสเตอร์’ ยายร่ำไห้เกาะข้างโลงศพหลานบอก “แบงค์จะรีบทิ้งยายไปไหน” เตรียมนำเถ้ากระดูกกลับ จ.อุดรธานี เชื่อวิญญาณหลานจะอยู่ดูแลตายไปตลอด แม่ปล่อยโฮ “แม่ไม่ดีเองชาติหน้าเกิดมาเป็นลูกแม่ใหม่นะ” พ่ออโหสิกรรมให้ทุกคนแล้วแต่เวรกรรรม บอกไม่ต้องห่วง จะดูแลยายและจัดการบ้านให้
วานนี้ (30 ธ.ค.) เวลา14.30 น.ที่วัดอยู่ดีบำรุงธรรม หรือวัดออเงินถนนเพิ่มสิน แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ซึ่งมีการฌาปนกิจศพนายธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี หรือ ‘แบงค์ เลสเตอร์’ อินฟลูเอนเซอร์ที่เสียชีวิตจากการบังคับให้ดื่มสุราโดยก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจ นางสาววนิดา สังข์ฤทธิ์ แม่ของแบงค์ ได้เขียนประวัติของแบงค์ ด้วยมือของตัวเอง เขียนไปน้ำตาไหลไป สะอื้นออกมาเป็นระยะๆ ประวัติที่คุณแม่เขียนระบุว่า
“แบงค์เกิดวันที่ 13 พฤษภาคม 2540 บิดาชื่อ นายประเสริฐ คันธี มารดาชื่อ นางสาววนิดา สังข์ฤทธิ์ โดยแบงค์ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัดเกาะสุวรรณาราม จาก ป.1-6 และได้ออกมาขายพวงมาลัยและดอกกุหลาบเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว พอโตเป็นหนุ่มก็เข้าวงการแร็ปเปอร์ขายพวงมาลัย มีจุดเด่นคือ ลีลาการโยกคอ ทำให้เป็นจุดเด่น ผู้คนชื่นชอบ และเป็นไอดอลของบรรดาผู้ที่นิยมชมชอบในตัวน้อง และจากนั้นได้เข้าสู่วงการมายา เป็นเน็ตไอดอล มีความสามารถในการร้องและเต้นแร็ป จนมีแมวมองติดต่อให้ร่วมงานรีวิวสินค้ามากมาย น้องแบงค์ก็ได้เงินมาจุนเจือครอบครัว เลี้ยงครอบครัวเป็นอย่างดี ถึงน้องแบงค์จะเป็นเด็กพิเศษ แต่น้องก็มีความกตัญญูและรักคุณยายมาก ความดีที่น้องทำมันยิ่งใหญ่ เกินกว่าเด็กอายุเท่านี้จะกระทำได้ จากใจของแม่และยาย”
จากนั้นเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมกันเคลื่อนร่างของแบงค์ เลสเตอร์ ออกจากศาลา 4 วัดอยู่ดีบำรุงธรรม หรือ วัดออเงิน ย่านสายไหม เข้าสู่ฌาปนสถาน โดยมีญาติของน้องแบงค์ ประกอบด้วยผู้เป็นพ่อเป็นผู้ถือกระถางธูป ส่วนน้าชายเป็นผู้ถือรูปหน้าศพ พร้อมกับแม่ที่เดินคู่มาด้วย ตามด้วยพระสงฆ์ 1 รูป และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ที่ช่วยกันแบกโลงศพของน้องแบงค์ เดินรอบเมรุ 3 รอบ ก่อนนำขึ้นสู่ฌาปนสถาน
ส่วนยายของน้องแบงค์นั่งรถเข็นมองดูอยู่ด้านข้างเมนรุ ภายในศาลา 4 ตลอดเวลา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะแม่และยายของน้องแบงค์ที่ร้องไห้ตลอดเวลา จนครอบครัวและเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ต่อมา กัน จอมพลัง ซึ่งเป็นเจ้าภาพงานศพ เดินทางเข้ามาที่วัด พร้อมกับยายของน้องแบงค์ โดยจังหวะที่ลงจากรถ เอ็ม เอกชาติ และช่างเต้ บ้านสวน ได้เดินเข้ามาพูดคุยกับกันจอมพลังเป็นการส่วนตัวถึงรายละเอียดการช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัวหลังจากนี้ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินมาหลังรถมูลนิธิร่วมกตัญญูที่ยายนั่งรออยู่ เพื่อเข้าไปไหว้และพูดคุยกับยายของน้องแบงค์อีกครั้ง โดยทั้งคู่ผู้ยืนยันว่าจะจ่ายให้ยายเดือนละหนึ่งหมื่นบาท , จ่ายให้น้าของแบงค์เดือนละแปดพันบาท และจะจ่ายค่าสร้างบ้านให้ยายที่อุดรธานีอีกหนึ่งล้านบาท รวมถึงพาไปหาหมอต่าง โดยจะทำกลุ่มรายงานความเคลื่อนไหวทั้งหมด เพื่อความชัดเจน
ก่อนถึงเวลาที่กำหนด ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดเพลงของแอ๊ด คาราบาว ที่แต่งเพลงไว้อาลัยให้กับแบงค์ เลสเตอร์ โดยเนื้อเพลงมีใจความทำนอง เด็กพิเศษคนหนึ่ง ที่รักยายและต้องการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ด้วยวิธีการขายพวงมาลัยพร้อมร้องแร็ป แต่ถูกสังคมต่ำทรามกลั่นแกล้งเพื่อเรียกยอดวิว ซึ่งเป็นเพลงซึ้งๆ ที่เล่าเรื่องรางของแบงค์ก่อนที่จะเสียชีวิต จากนั้นก็ให้ผู้ที่มาร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ และยายเป็นคนสุดท้ายที่วางดอกไม้จันทน์ก่อนจะเคลื่อนร่างเข้าสู่เตาเผา โดยช่วงก่อนนำร่างเข้าเตาเผา ยายได้ร้องไห้ก่อนลุกขึ้นยืนจับไปที่หน้าแบงค์ ก่อนบอกว่า “แบงค์ ไม่รู้จะรีบทิ้งยายไปไหน ไหนบอกปีใหม่จะพายายไปเที่ยวไง ไปอยู่อุดรฯ กับยายนะ”
ขณะที่แม่ของน้องแบงค์ ได้เดินเข้ามาแล้วร้องไห้ต่อหน้าร่างของลูกเช่นกันว่า “ชาติหน้ามาเกิดเป็นลูกแม่ใหม่นะ แม่ไม่ดีเอง เลี้ยงลูกมาไม่ดี” ส่วนพ่อของน้องแบงค์ ก็ได้เดินมาดูลากลูกเป็นคนสุดท้ายก่อนจะไปที่ร่างของลูก และร้องไห้ตลอดเวลา
ภายหลังที่เสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจ แม่ของน้องแบงค์ ได้ไปนั่งภายในศาลาและร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แม่รักน้องแบงค์มาก มันไม่สามารถที่จะพูดได้ ส่วนประวัติและคำอำลาที่แม่เขียน ก็มาจากความรู้สึกในใจของแม่ที่มีต่อน้องแบงค์ แม่มีลูกคนเดียวแต่ไม่สามารถดูแลลูกได้ ถ้าแม่มีเงินพอคงไม่ให้น้องไปทำแบบนั้น โดยตอนที่อยู่บนเมรุ ตนบอกกับลูกชายว่าชาติหน้าขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก
ด้านพ่อของน้องแบงค์ เปิดเผยความรู้สึกในวันนี้ด้วยว่า “อยากให้ลูกชายไปดี ไม่ต้องห่วงอะไร ตัวเองเชื่อว่าแบงค์รักยายมาก และยายก็รักแบงค์มาก เขาผูกพันกัน หากเสร็จงานทั้งหมด ตัวเองจะรับยายไปอยู่ที่อุดรธานี ไปสร้างบ้านที่นั่นเลย ส่วนเหตุการณ์ที่ผ่านมาอยากจะบอกแค่ว่าคนที่มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ตัวเองไม่อยากพูดอะไรมากแล้ว เพราะทำใจยาก และที่ผ่านมาพวกเขาก็มาขอโทษมาอโหสิกรรมมาขอขมาแล้ว ตัวเองก็อโหสิกรรมให้กับทุกคน แต่ขออย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกเลย ขอให้ลูกเราเป็นคนสุดท้าย วันนี้ตัวเองไม่โกรธอะไรแล้ว พร้อมยกโทษให้ทั้งหมดทุกคน แล้วแต่เวรแต่กรรม
ด้านนางพรทิพย์ ยายของแบงค์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะกลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดอุดรธานีกับลูกเขย โดยจะนำเถ้ากระดูกของแบงค์กลับไปด้วย ซึ่งก่อนเผาตนได้มีการบอกกล่าวกับแบงค์ว่า “แบงค์ไม่น่าจากไปก่อนยายเลย เดี๋ยวเราไปอยู่ด้วยกันที่อุดรนะ เพราะว่าแบงค์เคยบอกว่าจะดูแลยายเอง” ซึ่งขณะนี้ตนยังคงกังวลเรื่อง หนี้สินที่แบงค์ติดค่าพวงมาลัยอยู่ ซึ่งยายจะเป็นผู้รับผิดชอบให้ทั้งหมด ขอให้เจ้าหนี้ออกมาแสดงตัว ทั้งนี้เชื่อว่าดวงวิญญาณของแบงค์จะยังอยู่กับตน เวลาที่กินข้าวตนก็จะเรียกแบงค์มากินข้าวด้วย ซึ่งตนก็ยังกินข้าวไปน้ำตาไหลไป และหลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจ ยายได้นั่งรถเข็นวีลแชร์อยู่ด้านหน้าศาลาแล้วมองขึ้นไปบนเมรุ โดยยายได้นั่งถือกรอบรูปของหลานชายและร้องไห้ ก่อนที่ทางกู้ภัยและทีมงานของ ‘กัน จอมพลัง’ จะพายายไปพักผ่อน
กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตอนนี้ยายยังติดใจกับคนที่ชื่อกิวที่กดออกจากไลน์กลุ่มไป ส่วนคนอื่นได้มีการมางานศพแล้ว ซึ่งตนไม่ขอขอบคุณที่มาร่วมงาน แต่ขอบคุณที่มารับผิดชอบ เพราะบางคนมีการให้เงินรายเดือนแก่ครอบครัวแบงค์ และมีการให้เงินสร้างบ้านในจังหวัดอุดร วันนี้ถือว่าแบงค์สามารถทำตามความฝันและคำสัญญาที่ให้ไว้กับยายได้หมดแล้ว คืออยากมีบ้านให้ยาย 1 หลังอยากมีคนดูแลยายไปจนตาย ถึงแม้ว่าในตอนจบจะไม่สำเร็จ 100% แต่ตนขอยกเครดิตทั้งหมดให้แบงค์
อย่างไรก็ตามตนได้ขอให้กลุ่มอินฟลูเอ็นเซอร์มีการตั้งไลน์กลุ่มขึ้นมา และส่งรูปภาพสลิปโอนเงินเข้าไปในกลุ่มเพื่อเป็นหลักฐาน และหลังจากนี้จะมีการไปเซ็นสัญญาทำข้อตกลงให้เป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนตัวคิดว่ากลุ่มนี้ไม่กล้าทำผิดสัญญา เนื่องจากหากผิดสัญญาจะทำให้ไม่สามารถใช้เป็นการลดหย่อนโทษได้ โดยมีตัวอย่างให้เห็นเช่นกรณีของนายเอ็ม เอกชาติ ที่มีการปิดยอดค่าบ้านให้กับยายของแบงค์ ทำให้ศาลมีคำสั่งให้ประกันตัวชั่วคราวได้
ด้าน เอ็ม เอกชาติ ติดกำไล EM ได้เดินทางมาร่วมงานศของแบงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังศาลเมตตาอนุญาตให้ประกันตัวมา ตัวเองก็ขอศาลเดินทางขึ้นมากรุงเทพฯ เลย เพื่อมาส่งน้องแบงค์เป็นครั้งสุดท้าย โดยยืนยันว่าหากจบคดีก็จะบวชให้น้องแบงค์ แต่เบื้องต้นได้ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวไปแล้ว ทั้งปิดบ้านให้ยอดสองแสนกว่าบาท , ช่วยค่าทำศพหนึ่งแสนบาท และวันนี้จะช่วยอีก 100,000 บาท พร้อมอยากบอกน้องแบงค์ว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไร อยากให้หมดห่วง ตัวเองเป็นลูกผู้ชาย คำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำ ตัวเองสัญญาว่าจะดูแลยายให้เหมือนยายของตัวเอง
ทั้งนี้ ตนจะดูแลยายเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งนอกจากตนเองแล้วยังมีของนายเต้ บ้านสวนอีกเดือนละ 3,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 13,000 บาท นอกจากนี้จะจ้างน้าให้ดูแลยายด้วยเดือนละ 8,000 บาท รวมถึงจะสร้างบ้านให้ยายที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งงบประมาณในการสร้างตั้งไว้ 1 ล้านบาท เป็นเงินที่พวกตนเองรวมกันหลายคนนำมาช่วยเหลือกัน ส่วนที่ตนเองถูกดำเนินคดีก็เป็นไปตามกฏหมาย ตำรวจทำตามหน้าที่ และกระแสข่าวที่จะมีคดีอื่นเช่นเว็บพนันนั้น ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ยืนยันว่าตนเองไม่เคยทำเว็บพนัน ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องเก่าเมื่อสองสามปีที่แล้ว ตัวเองเคยไปเช่าบ้านของคนทำเว็บพนัน จึงโดนไปด้วย
ส่วนกระแสสังคมที่ออกมานายเอ็มรู้สึกอย่างไร นายเอ็ม กล่าวว่า ตนเองยังเด็ก ไม่ทราบว่าการดื่มสุราจะทำให้เสียชีวิตได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ส่วนตัวเชื่อว่าหากแบงค์ยังมีชีวิตอยู่ก็คงมาช่วยตัวเองแล้ว ตนเองอยากให้ดูกรณีนี้เป็นตัวอย่าง เรื่องของการดื่มสุราหากไปจ้างเด็กเอ็นฯ แล้วยื่นเงินพันแก้วสุรา เราก็ผิดด้วย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/X1OD7l8Ln60