อาชญากรรม

เมียยัน ‘สจ.โต้ง’ ไปตัวเปล่าเข้าเคลียร์ใจ ‘โกทร’ ถามกลับ “ถ้าเลี้ยงหมาจะกล้าฆ่าไหม นอกจากไม่รักกันแล้ว”

โดย thichaphat_d

13 ธ.ค. 2567

158 views

เปิดใจภรรยา สจ.โต้ง ไม่ขอตอบปมเสียชีวิตของสามีวางแผนไว้ก่อนหรือไม่ ถามกลับ “ถ้าเลี้ยงหมา กล้าฆ่าหมาตายหรือไม่นอกจากพี่ไม่รักกันแล้ว?” ยอมรับยังหวาดกลัว อยากให้สอบสวนกลางทำคดีเพราะคู่กรณีเป็นคนการเมือง

วานนี้ (12 ธ.ค.2567) ภายหลังจากที่ น.ส.ณภาภัช  อัญชสาณิชมน ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี หรือ สจ.จอย ภรรยา พร้อมญาติเดินทางมารับศพนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ

ต่อมาเวลา 14.40 น. ร่างของ สจ.โต้ง มาถึงที่วัดมะกอกสีมาราม ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลศพ โดยมีกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ 5 คืน และจะฌาปนกิจศพ วันที่ 17 ธันวาคมนี้ โดยมีครอบครัว ญาติๆ และคนที่รัก สจ.โต้ง มารอร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก

เมื่อร่างมาถึงตัวแทนญาติๆ แบกร่างของ สจ.โต้งขึ้นมาบนศาลา โดยมีพี่ชายของ สจ.โต้ง เป็นคนจุดธูป บอกลาน้องชาย ก่อนจะเริ่มพิธีรดน้ำศพ ในเวลา 16.00 น. ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า  

นอกจากนี้ยังพบตัวแทนนำพวงหรีดบุคคลสำคัญ 2 คน คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส. เขต 1 จ.พะเยา ส่งมาแสดงความเสียใจอีกด้วย

น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ จอย ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ภรรยาของ สจ.โต้ง เปิดใจกับสื่อมวลชน ระบุว่า ค่ำวันเกิดเหตุตนกับสามี กำลังขับรถเข้ากรุงเทพเพื่อไปหาลูก ระหว่างนั้นสามีโทรศัพท์พูดคุยโกทรตลอดเวลา แต่ปรากฏว่าพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง พอขับรถถึงองครักษ์ จึงได้ตัดสินใจวนรถกลับมาหาโกทรที่บ้านเพื่อจะคุยกัน แต่ได้แวะส่งตนที่บ้านก่อน แต่ปกติแล้วสามีไม่ได้ไปบ้านโกทรนานแล้ว แค่ครั้งนี้อยากวนรถกลับเพื่อเคลียร์ใจให้รู้เรื่อง พอส่งคนเสร็จก็ไปต่อ โดยมีลูกน้องไปด้วย แต่ลูกน้องรออยู่หน้าบ้าน ส่วนสามีเข้าไปภายในบ้านคนเดียว เข้าไปตัวเปล่าโดยไม่มีอะไรเลย

จากนั้นพอเข้าไปสักพักลูกน้องเล่าว่าได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากภายในบ้าน เมื่อได้ยินเสียงปืนจึงเป็นข้อสังเกตได้ว่าคนของเราอาจถูกยิง ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ซึ่งลูกน้องได้ยินเสียงปืนดังออกมาเยอะมากเรียกว่าเสียงปืนแบบรัวๆ และยิงมาใส่ลูกน้องเราด้านนอกด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมากๆ จนอธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้เลย

ขณะเดียวกันสามีเป็นคนระวังตัวมากเพราะคิดว่าพื้นที่ที่ไปสามารถไว้ใจเชื่อใจได้ แต่ก็ไม่คิดว่าสุดท้ายมันจะเป็นแบบนี้

เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่าเป็นการวางแผนหรือไม่ สจ.จอย บอกว่า ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก เรื่องนี้ตนขอให้การกับทางตำรวจก่อน ยังไม่อยากคิดอะไรนอกจากการจัดการงานศพ และเรื่องคดี

สจ.จอย ยอมรับว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองเพราะเหลือแค่ตนกับลูกเท่านั้น และอีกประเด็นที่เป็นห่วงคือเป็นห่วงเรื่องความเป็นธรรมของคดี เพราะรู้ว่าสามีเป็นคนไม่คิดร้ายกับใครเลย ด้วยบุคลิกเป็นคนที่ปากร้ายแต่ยืนยันว่าไม่เคยคิดร้ายกับใคร อีกอย่างที่กังวลเรื่องความเป็นธรรมเพราะคู่คดีเป็นนักการเมือง อยากให้โอนคดีไปยังสอบสวนกลาง แต่เบื้องต้นก็พอใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนฝั่งคู่กรณียังไม่มีการโทรศัพท์หรือติดต่อมาหาฝั่งตนเลย

เมื่อถามถึงประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าช่วงเกิดเหตุโกทรอยู่ในห้องและได้ยินเสียงปืนแต่ไม่ออกมาเพราะกลัว ส่วนตัวในฐานะภรรยาสจ.โต้งเชื่อหรือไม่ คุณจอย บอกว่า โกทรน่าจะรู้ว่า สจ.โต้ง เข้าไปด้วยมือเปล่า แล้วการที่ได้ยินเสียงปืนมันจะเป็นไปได้? มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเพราะสามีตนไม่มีปืนเข้าไป อีกทั้งมองว่าตามสัญชาตญาณ หากได้ยินเสียงปืนต้องออกมาแล้วหรือไม่ ทำไมปล่อยให้เป็นแบบนี้

สจ.จอย กล่าวต่อว่า สามีเป็นคนที่ห่วงลูกมาก สามีตั้งใจอยากให้ลูกชายเป็นตำรวจ ทั้ง 3 คน ( 1 คน คือลูกด้วยกัน อีก 2 คนลูกติดคุณจอย) อยากให้ลูกทำมาหากินอาชีพที่มั่นคงไม่อยากให้ลูกเป็นนักการเมือง

เมื่อถามถึงประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าเป็นพ่อลูกกันทำไมไม่ปกป้องลูก สจ.จอยถามกลับว่า “พี่เลี้ยงหมา กล้าฆ่าหมาตายไหมล่ะ? พี่เลี้ยงหมาอยู่ตัวนึงพี่กล้าเอายาเบื่อหมาที่พี่รักให้มันกินไหม พี่ทำได้ไหมนอกจากว่าพี่ไม่รักกันแล้ว?“

สจ.จอย ยังกล่าวถึงประเด็นลงสมัครนายก อบจ. ว่า สามีตั้งใจให้ตนสมัครนายก อบจ. ซึ่งพอรู้ เราก็เตรียมตัวแล้วเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่สามีสนับสนุนตนเพราะสามีเองรักทางด้านนี้อยู่แล้ว แต่ยังมีหลายปัจจัยที่ยังลงไม่ได้จึงอยากให้ภรรยาลงแทน

เมื่อถามถึงเส้นทางการเมืองว่าจะลงสมัครนายกอบจ. ต่อหรือไม่ สจ.จอย บอกว่า ตอนนี้คงไม่แล้ว เพราะคนที่อยากให้เป็น อยากให้ทำ ไม่อยู่แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไปทำไม แต่ยืนยันว่าจะยังคงลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ขณะเดียวกัน ภรรยา สจ.โต้ง ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า บ้านหลังใหญ่โตขนาดนั้นทำไมไม่มีวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุ

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายเล็ก อายุ 57 ปี หนึ่งในเซียนมวยที่เป็นรุ่นพี่เพื่อนสนิทของ สจ.โต้ง เล่าว่า ปกติพูดคุยกันตลอด ไลน์คุยกันแทบทุกวัน หลังจากที่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้และเกิดขึ้นในบ้านของโกทรที่เป็นพ่อบุญธรรมของ สจ.โต้ง ก็รู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้

นายเล็ก ยังเล่าถึงนิสัยของ สจ.โต้งว่าเป็นคนที่รับครอบครัว รักเพื่อน รักบริวาร เป็นคนกว้างขวาง มีแต่คนรัก เพราะชอบช่วยเหลือคนอื่น

นายเล็ก ยังเล่าว่า เรื่องส่งภรรยาลงสมัครตนรู้มาเดือนกว่าแล้ว เพราะ สจ.โต้ง เป็นคนชวนให้ไปช่วยหาเสียง บอกว่าปีนี้จะส่งภรรยา และล่าสุดก็ส่งภาพ ภรรยา หรือ สจ.จอย ที่มีรูปคู่กับท่านทักษิณ ตนยังส่งกำลังใจให้อยู่เลย จึงไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องนี้ ได้แต่เสียใจ และพูดไม่ออก

ส่วนคดีตนมั่นใจตำรวจให้ความเป็นธรรม เชื่อจากกระแสสังคม การขุดคุ้ยต่าง ๆ ทุกคนต้องรู้อะไรดีชั่ว ไม่มีทางรอดแน่นอน จึงจอย้ำถึงตำรวจว่าเรื่องนี้ใครทำให้เอาคนทำผิดมาลงโทษ

คุณอาจสนใจ

Related News