อาชญากรรม

เร่งคลี่คดี 'สจ.โต้ง' ผลชันสูตรถูกยิง 22 นัด คลิปเสียงโผล่โต้เถียงเดือด 'โกทร' ปมการเมืองท้องถิ่น

โดย passamon_a

13 ธ.ค. 2567

178 views

สจ.โต้ง ถูกยิงดับคาบ้านใหญ่ปราจีนบุรี เปิดผัง 7 ผู้ต้องหา ขณะที่ เลขา โกทร รุดเยี่ยม ก่อนยอมรับคลิปเสียงทะเลาะกันจริง แต่เคลียร์จบแล้ว เผย โกทร บอก สจ.โต้ง กราบเท้าขอโทษโกทรแล้ว ก่อน สจ.โต้ง ประคองขึ้นห้องนอน ส่วนช่วงเกิดเหตุ โกทรอยู่ในห้องนอน ได้ยินเสียงปืน แต่ไม่กล้าออกมาดูเพราะกลัว ไม่รู้เสียงปืนจากฝั่งไหน


กรณีเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 20.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ สจ.โต้ง อายุ 48 ปี อดีต ส.อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ และเป็นบุตรบุญธรรมของ นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งพบว่า สจ.โต้ง ถูกยิงหลายนัดก่อนเสียชีวิตที่บันไดบ้านวิลาวัลย์ โดยอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก และปืนลูกซอง 1 กระบอก นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุ ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุกว่า 10 นัด


โดยขณะนั้น มีรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา 19.30 น. สจ.โต้ง เดินทางมาที่บ้านนายสุนทร และขึ้นไปพูดคุยกับนายสุนทร ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน เรื่องการเตรียมลงสมัครสมาชิกสภา อบจ.ปราจีนบุรี แต่สมัยที่แล้ว สจ.โต้ง ไม่ได้ลงสมัครและไปเป็นโปรโมเตอร์มวย ดังนั้นเมื่อจะกลับมาสมัคร ส.อบจ.ปราจีนบุรีอีกครั้งในสมัยนี้  จึงต้องมีการเจรจาเรื่องการจัดสรรผู้ลงสมัคร แต่คาดว่าน่าจะจัดสรรผู้สมัครไม่ลงตัว และตกลงกันไม่ได้ จึงมีปากเสียงและยิงกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวนายสุนทร พร้อมคนที่อยู่ในบ้านรวม 7 คน คุมไปสอบเข้มที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี


สำหรับ 7 คนที่อยู่ภายในบ้านขณะเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง เสียชีวิต ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปทำการสอบปากคำดำเนินคดีที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบด้วย


1. นายสุนทร วิลาวัลย์ อายุ 85 ปี (เจ้าของบ้าน)

2. นายธนศรัณย์กรณ์ อายุ 32 ปี ( ผู้ติดตามของโกทร และเป็นผู้ก่อเหตุ โดยใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.)

3. นายศักดิ์สิทธิ์ อายุ 34 ปี (ผู้ติดตามของโกทร และเป็นผู้ก่อเหตุ โดยใช้อาวุธปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12)


จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายศักดิ์สิทธิ์ มีประวัติคดีอาญาท้องที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี เมื่อปี 2555 เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1, ปี 2558 ทำอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยมิได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ จากนั้นปี 2558 เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และในปีเดียวกันยังก่อเหตุ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน


4. นายอภิสิทธิ์ อายุ 34 ปี ผู้ติดตามโกทร มีประวัติคดีอาญา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ท้องที่ สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี เมื่อปี 2556

5. นายภัทรนนท์ อายุ 38 ปี ผู้ติดตามโกทร จากการตรวจสอบประวัติพบมีคดีอาญาเกี่ยวกับการค้าดอกไม้เพลิงเมื่อปี 2565 ท้องที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี

6. นายสิทธิชัย อายุ 41 ปี ผู้ติดตามโกทร

7. นายธนภัทร อายุ 18 ปี ผู้ติดตามโกทร


ความคืบหน้าวันที่ 12 ธ.ค.67 พบว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า พลตำรวจตรีธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พลตำรวจตรีภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม


โดยขณะนั้นตำรวจได้เก็บคราบเขม่าดินปืนและตรวจร่างกายของทั้ง 7 คนไว้แล้ว และได้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 7 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากเชื่อว่าทั้งหมดมีส่วนรู้เห็นด้วยกัน อยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกัน และเชื่อว่าต้องมีคนสั่งการ โดยมูลเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทกัน มีทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องอื่น แต่ปมขัดแย้งหลัก ตำรวจพุ่งไปที่ปัญหาการวางตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น


ด้าน พลตำรวจตรีภูมินทร์ กล่าวว่า เป็นการเข้าเก็บพยานหลักฐานทั้งหมด รวมถึงการตรวจสอบวิถีกระสุน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้าน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณภายในบ้านมีการนำโพลิสไลน์มากั้นจุดเกิดเหตุตรงตึกใหญ่ไว้ ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่มายังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าตรงกระจกของห้องรับแขก มีร่องรอยกระสุนยิงทะลุกระจกประมาณ 6 รู พร้อมมีสัญลักษณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุไว้เป็นหลักฐาน ถัดมาไม่ไกลจากห้องรับแขก มีกระจกถูกยิงได้รับความเสียหาย แตกกระจายเกือบทั้งแผ่น ทั้งนี้ ยังพบรอยกระจกแตก กระจกร้าวที่ชั้น 2 ด้วยเล็กน้อย


พร้อมกันนี้ มีรายงานว่าเหตุการณ์นี้ นอกจากเสียงปืนที่ดังจากภายในตัวบ้านแล้ว อาจจะเป็นการยิงปืนจากนอกตัวบ้านเข้าไปอีกด้วย หลังมีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ สจ.โต้ง เดินทางมาพร้อมกับลูกน้องคนสนิทจำนวนหนึ่ง แต่ สจ.โต้ง เข้าไปในบ้านเพียงคนเดียว จึงทำให้หลังจากที่มีเสียงปืนดังขึ้นภายในตัวบ้าน อาจทำให้ลูกน้องของ สจ.โต้ง ที่รออยู่ด้านนอก ยิงปืนเข้าไปด้วย


ขณะเดียวกันพบว่า นางอุทัยวดี หนึ่งในคนที่เคยทำงานร่วมกับนายสุนทร วิลาวัลย์ เดินทางมาติดตามดูเหตุการณ์ที่บ้านนายสุนทร ขณะที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง


โดย นางอุทัยวดี เล่าให้ฟังว่า คืนเกิดเหตุตนเองมาดูที่เกิดเหตุแล้ว แต่อยู่ด้านนอกเพราะไม่อยากไปรบกวนการทำงานของตำรวจ ซึ่งส่วนตัวสนิทกับโกทร เพราะเคยช่วยงานการเมือง ไปออกงานด้วยกัน และส่วนตัวเท่าที่รู้จักโกทร เป็นคนนิสัยดี ใจดี ใจเย็น เป็นที่รักของชาวบ้าน และเป็นสายบุญ ซึ่งส่วนตัวไม่เชื่อว่า โกทร จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิง สจ.โต้ง เพราะแกรักของแก เท่าที่ตนเองได้สัมผัส โกทรรัก สจ.โต้ง เป็นลูก ส่งเสริมทุกอย่าง ไม่เห็นมีปัญหาหรือมีปากเสียงอะไรกัน  


ส่วน สจ.โต้ง ตนเองไม่ได้สัมผัสมาก เลยไม่ทราบว่าใจร้อนหรือไม่ แต่เท่าที่รู้เขาเป็นคนใจนักเลงแต่เป็นคนใจดี ชาวบ้านก็รักเขา ทั้ง สจ.โต้ง ทั้งโกทร เพราะ สจ.โต้ง เป็นลูกบุญธรรม และโกทรก็เมตตา สจ.โต้ง มาก ไปไหนก็จะบอกว่า สจ.โต้ง เป็นลูกตลอด


พร้อมยอมรับว่า ส่วนตัวรู้ว่า โกทร จะวางมือทางการเมือง เพราะโกทร เคยมาพูดให้ฟังว่า “โกจะลงอีกที เดี๋ยวโกก็วางแล้ว ให้เขา” ก็คือให้ สจ.โต้ง หนุน สจ.โต้ง ขึ้นมาแทนตำแหน่ง และจะช่วยหาเสียงด้วย แต่ตนเองไม่แน่ใจว่าจะวางมือทางการเมืองสมัยนี้หรือสมัยหน้า แต่วางมือแน่นอน เพราะโกทรเต็มที่แล้วจะให้เด็กขึ้นมา


ส่วนความเคลื่อนไหวที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ในส่วนของ 7 ผู้ต้องหา ตำรวจคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองปราจีนบุรีตั้งแต่คืนเกิดเหตุ ระหว่างสอบปากคำโกทร จากที่สวมเสื้อเชิ้ตลายทาง ได้เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีฟ้าแล้ว และขณะสอบปากคำ มีทนายความ และนางบังอร วิลาวัลย์ น้องสาวของโกทร และเป็นอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย


นางบังอร ให้สัมภาษณ์ว่า การสอบปากคำเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พี่ชายมีความกังวลอยู่บ้าง แต่ตนก็ให้กำลังใจไป ยอมรับว่าขณะนี้ทางครอบครัวกังวลเรื่องของสุขภาพของพี่ชาย เพราะที่ผ่านมาต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นทางครอบครัวไม่ทราบรายละเอียดเชิงลึก รู้เพียงว่าเป็นเรื่องทะเลาะกันของลูกน้องโกทรกับ สจ.โต้ง แต่คงไม่เกี่ยวกับโกทร เพราะเหมือนเป็นพ่อลูกกัน โกทรรัก สจ.โต้ง เหมือนเป็นบุตรบุญธรรม


ขณะที่บริเวณหน้า สภ.เมืองปราจีนบุรี มีกลุ่มคนใกล้ชิดของนายสุนทร และลูกน้องหลายคน เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีตั้งแต่คืนเกิดเหตุ ก่อนที่ช่วงเช้าได้ทยอยกลับไปอาบน้ำ โดยหนึ่งในคนใกล้ชิด เล่าให้ฟังว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายสุนทร ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้มีความเครียดและไม่ได้ฝากหรือห่วงอะไรมาเป็นพิเศษ ซึ่งครอบครัวเตรียมจะยื่นประกันตัวในขั้นศาล หลังจากพนักงานสอบสวนคุมตัวไปฝากขัง


คนใกล้ชิด บอกด้วยว่า นายสุนทรได้เล่าเหตุการณ์คืนเกิดเหตุให้ฟังว่า สาเหตุที่มีการยิงกันไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นความขัดแย้งส่วนตัวของ สจ.โต้ง กับลูกน้องของนายสุนทร ที่เคยมีปัญหากับ สจ.โต้ง มาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งอ้างว่า สจ.โต้ง เคยไปตบหัวลูกน้องของนายสุนทร จนเกิดความไม่พอใจอยู่แล้ว คืนเกิดเหตุ สจ.โต้ง ได้เข้ามาพูดคุยกับนายสุนทร เรื่องการเลือกตั้ง นายก อบต.จริง ถึง 2 ครั้ง แต่ได้มีการพูดคุยกันลงตัว นายสุนทรก็เปิดทางให้ และมีการสวมกอดกัน และ สจ.โต้ง ยังก้มกราบเท้านายสุนทรเพื่อขอบคุณ


หลังจากนั้น สจ.โต้ง จะเดินทางกลับ แต่ตอนที่เดินลงบันไดมา ก็มาเจอกับลูกน้องของนายสุนทร ที่เคยมีเรื่องกัน ซึ่งพอ สจ.โต้ง เจอ ก็ตบหัวลูกน้องคนดังกล่าวอีกครั้ง ทำให้ลูกน้องไม่พอใจ จนใช้อาวุธปืนยิง สจ.โต้ง จนเสียชีวิต


ต่อมาเวลา 15.30 น. นายพงศกร เลขาของโกทร มาเยี่ยมโกทรที่โรงพัก ก่อนเปิดเผยภายหลังได้เข้าเยี่ยมโกทรว่า ปกติแล้ว สจ.โต้งจะเข้ามาหาโกทรเป็นปกติ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เท่าที่ตนได้พูดคุยกับโกทร โกทรก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น


โดยก่อนเกิดเหตุ สจ.โต้ง ได้ไปส่งโกทรเข้านอนที่ห้องชั้น 2 แล้ว จึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ตนก็ไม่กล้าไปถามละลาบละล้วงว่าได้คุยกับลูกน้องหรือไม่ แค่ถามว่าโกทรเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม


โกทร เล่าว่า จังหวะที่เกิดเหตุ โกทรอยู่ในห้องนอนแล้ว  ได้ยินเสียงปืน แต่ไม่กล้าออกมาดูเพราะกลัว ไม่รู้ว่าเป็นเสียงปืนจากฝั่งไหน ซึ่งโกทรบอกว่าไม่รู้ว่าลูกน้อยมีสาเหตุโกรธเคืองอะไรกับ สจ.โต้ง


แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ยืนยันว่าได้เคลียร์ใจกันแล้ว สจ.โต้ง ก็ประคองขึ้นห้อง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โกทรประกาศมาตลอดว่าจะไม่ลงเลือกตั้งแล้ว จะสนับสนุนให้ภรรยาของ สจ.โต้ง ลงแทน ซึ่งไม่มีการแข่งกันอยู่แล้วเพราะเป็นพ่อลูกกัน


ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โกทรก็เสียใจ เพราะมีความผูกพันกันมา ไม่มีใครอยากให้เกิดความสูญเสีย ตอนนี้ปราจีนบุรีก็กำลังพัฒนา กำลังจะมีการเลือกตั้ง แต่ก็ต้องมาเกิดเหตุแบบนี้ และตอนนี้โกทร มีอาการเครียดนิดหน่อย เพราะวันก่อนเกิดเหตุ ก็เพิ่งกลับจากหาหมอด้วย โกทรมีโรคประจำตัวหลายโรค ส่วนตนกับ สจ.โต้ง ปกติจะไม่ได้คุยกันมาก เพราะแต่ละคนจะมีหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง แต่จะคอยแวะเวียนไปหาโกทรบ้าง


สำหรับโกทรเป็นเจ้านายตน เป็นคนใจดี อยู่ด้วยมานาน หากถามว่าเชื่อไหมว่าโกทรเป็นคนบงการ ตนพูดไม่ได้ ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า แต่ยืนยันว่าโกทรเป็นผูัใหญ่ใจดี คนในปราจีนบุรีรัก ลงเลือกตั้งก็ได้ตลอด ไม่เคยรังแกข่มเหงใคร


กรณีคลิปเสียงที่ปรากฏออกมาตามสื่อนั้น ยอมรับว่าก็เป็นเหตุการณ์ที่มีการโต้เถียงกันจริง แต่เป็นช่วงที่ สจ.โต้ง มาถึงแรก ๆ ก็พูดกันแรง อารมณ์เสีย แต่หลังจากนั้นก็คุยจบแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งการพูดรุนแรงตนไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อน เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ยืนยันได้ว่ามันจบแล้ว โกทรบอกว่า สจ.โต้ง ยังกราบเท้าโกทร ขอโทษที่ก้าวร้าว และพาขึ้นห้องนอน


ทั้งนี้ มีรายงานว่าผลชันสูตรของ สจ.โต้ง พบกระสุนปืนมากกว่า 10 นัด เจาะเข้าที่กะโหลกและหน้าอกและบริเวณร่างกาย ในลักษณะถูกยิงระยะประชิด เป็นเหตุให้กระสุนปืนทำลายอวัยวะเป็นเหตุให้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าผลชันสูตรศพ สจ.โต้ง เจอกระสุนลูกปรายจากปืนลูกซองเข้าที่ลำตัว 17 นัด กระสุนลูกโดดเข้าที่ใบหน้า 2 นัด หลัง 1 นัด ก้น 2 นัด รวม 22 นัด สาเหตุการเสียชีวิตเพราะกระสุนเข้าที่ปอดและทำลายอวัยวะช่องท้อง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MKm641VJnJc

คุณอาจสนใจ

Related News