อาชญากรรม

6 ปีหนีไม่รอด! รวบสองสามีภรรยาคาห้องเช่า หมายจับฉ้อโกง

27 พ.ย. 2567

1.2K views

วันที่ 27 พ.ย.67 ตำรวจชุดสิบสวนตำรวจภูธรภาค3 ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.พลับพลาชัย อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าจับกุมนายภาคภูมิ อายุ 46 ปี อ.เมืองนครราชสีมา จ. นครราชสีมา และนางปรียาภรณ์ อายุ 38 ปี จ.สระแก้ว ได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา สองสามีภรรยาหลังหลบหนีคดีฉ้อโกงมานานกว่า 6 ปี



การจับกุมดังกล่าวสร้างความมึนงง ไม่รู้ตัวเองว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่อ่านหมายจับให้ฟังถึงคิดได้ว่าเคยไปก่อเหตุฉ้อโกงอดีตครูที่ อ.พลับพลาชชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2561 หรือประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา



นายภาคภูมิ เล่าว่าตอนนั้นได้เอาสินค้าไปติดต่อส่งให้กับครูท่านหนึ่ง ที่จะเปิดเป็นร้านขายของชำในหมู่บ้าน แต่ทำด้วยกัน 3 คน หลังจากก่อเหตุเอาเงินมาแบ่งกันได้คนละไม่ถึง 20,000 บาทเท่านั้น และไม่คิดว่าครูจะไปแจ้งความ ที่สำคัญไม่คิดว่าตำรวจจะตามถึงขนาดนี้เพราะเป็นคดีเล็กน้อย



ขณะที่นางปรียาภรณ์ ภรรยา บอกเช่นเดียวกันว่าหลังจากวันนั้น ได้ออกไปทำงานต่างจังหวัดกับสามี เห็นตำรวจมาถึงบ้านงงไปหมด ส่วนตัวไม่รู้เรื่องกับสามีว่าเขาทำอะไร ยอมรับว่าเอาของไปส่งเท่านั้น หลังสอบสวนนำตัวส่ง ร.ต.อ.วัฒนา อาจสาลี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงเพื่อดำเนินคดีต่อไป



สอบถามวราณี อายุ 66 ปี จ.บุรีรัมย์ อาชีพครู ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เล่าว่า ตอนนั้นตนใกล้จะเกษียณอายุราชการกะว่าจะเปิดร้านขายของชำเล่นๆอยู่หน้าบ้าน จึงจ้างช่างมาปรับปรุงหน้าบ้านให้เป็นร้านขายของ



ต่อมาได้มีช่างที่มาปรับปรุงบ้านบอกว่ามีคนมาติดต่อจะเอาสินค้ามาส่งให้ในราคาถูก ช่างบอกด้วยว่า”เขาเป็นคนใจดี”มา 2 ครั้งซื้อขนมให้ถึง 2 ครั้งถ้าจะลงของให้เลือกเอาเจ้านี้



กระทั่งมีชายกับหญิงคือสองสามีภรรยาคู่นี้เข้ามาติดต่อ บอกว่าจะเอาของมาลงพร้อมชั้นวางของให้ฟรี ตนสนใจจึงเลือกสั่งซื้อสินค้าแบบครบวงจร รวมเป็นเงิน 120,000 บาท



วันมาส่งสองสามีภรรยา ได้เลือกมาช่วงเย็บพลบค่ำจากนั้นมีคนเอาของมาลงตนไม่ได้สนใจมากนักเพราะต้องดูแลหลาน ก่อนจะจ่ายเงินให้ไป 120,000 บาท หลังจากเงินเสร็จกลุ่มนี้ได้ขับรถออกไปพอมาดูสินค้าพบว่ามีไม่ถึงแน่นอนจึงโทรศัพท์กลับไปปรากฎว่าไม่รับสายจึงคิดว่าโดนหลอก จึงเข้าแจ้งความไว้ ไม่คิดว่าตำรวจจะตามถึงขนาดนี้



สอบถาม พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ทราบว่าได้สั่งการให้ทุก สภ.ในจังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบคดีค้างเก่า หรือหมายจับแล้วทำการสืบสวนหาตัวคนก่อเหตุทุกคดีมาดำเนินคดีทุกราย คดีนี้ถึงแม้จะเป็นคดีที่มีค่าความเสียหายไม่มาก และเป็นคดีโทษไม่สูงก็ตาม ส่วนหนึ่งก็อยากจะให้ประชาชนอุ่นใจ และมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต้องการดัดหลังกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ที่คิดว่าจะรอด ยังจะมีการสืบในเชิงลึกอีกว่าไปก่อเหตุในพื้นที่ไหนอีก หากพบก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก




แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,ฉ้อโกง ,บุรีรัมย์

คุณอาจสนใจ

Related News