อาชญากรรม
"ทนายวิฑูรย์" เผย "บอสปัน-บอสพอล" เหม็นขี้หน้า ไม่อยากเจอ หลังรู้ว่า "กฤษอนงค์" เข้าคุก
โดย nutda_t
19 พ.ย. 2567
122 views
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่ บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมบอสพอล ว่า วันนี้ตนจะเข้าไปคุยกับบอสพอล 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.กรณีที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีช่วงกลางวัน หรือช่วงเย็นวันนี้ เพราะได้มีการเอาหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้บอสพอล เซ็นเรียบร้อยแล้ว และตนจะคุยรายละเอียดเรื่องที่ต้องแจ้งความช่วงเย็นวันนี้ ถ้าวันนี้สามารถได้หนังสือมอบอำนาจทัน และ 2.กรณีที่ดีเอสไอจะเข้ามาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย.) เป็นการเข้าไปสอบปากคำจากกรณีที่ตำรวจสอบสวนกลางได้สอบสวนไว้ ซึ่งตนยังไม่แน่ชัดว่าดีเอสไอจะสอบปากคำประเด็นใด แต่น่าจะเป็นประเด็นพฤติการณ์ทางคดีโดยละเอียด เช่น บุคคลใดแจ้งความอะไรไว้ บอกพฤติการณ์ว่าโดนฉ้อโกงอย่างไร พรุ่งนี้คงจะได้เห็นกันและจะได้ตอบคำถามเพิ่มเติมกันไป
ส่วนกรณีการเตรียมเเจ้งความดำเนินคดี น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช ประเด็นเรียกเงิน 20 ล้านบาท อ้างเป็นค่าแผนงานรายการดังนั้น ทนายวิฑูรย์ เผยว่า หากวันนี้ได้รับหนังสือมอบอำนาจจากบอสพอล เสร็จสิ้น ช่วงเย็นวันนี้ตนจะได้เดินทางไปที่กองบังคับการปราบปราม เพราะได้คุยกับตำรวจไว้แล้ว ส่วนข้อกล่าวหาที่จะพิจารณาแจ้งดำเนินคดีนั้น ตนยังพูดคุยกันอยู่ว่าจะเป็นข้อหาใด เนื่องจากมันมีพยายามกรรโชกทรัพย์ กับ พยายามฉ้อโกง ซึ่งทีมทนายความเห็นว่าควรเป็นพยายามฉ้อโกง เพราะมันชัดกว่า เเจ้งไปแล้วได้แน่นอน แต่ทางตำรวจก็มองว่าเนื้อหาโดยละเอียดมันเป็นพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะในคลิปเสียงมันมีการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา รวมถึงกล่าวอ้างว่าทางคุณกรรชัย กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม จะมีการโจมตีดิไอคอนฯ เป็นต้น จึงต้องดูว่าจะเป็นข้อหาใด แต่ทั้ง 2 ข้อหาจะแจ้งอะไรไปก็ปรับใช้ได้อยู่แล้ว
ทนายวิฑูรย์ เผยต่อว่า สำหรับคลิปเสียงเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท ทางบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือเป็นผู้เสียหายในคดี เพราะบอสปัน ไปคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนามของบริษัท ดิไอคอนฯ อีกทั้งบอสปัน ก็เป็นภรรยาของบอสพอล เนื้อหาในคลิปเสียงมีการกล่าวอ้างถึงการจะให้นายกรรชัย พยายามช่วย โหนกระแส จะเข้าก็ต้องวิ่งไปหาโหนกระแส จะปล่อยให้นายกรรชัย มาเล่นทั้งสัปดาห์เลยหรือ หรือมี 100 ก็จ่าย 20 เป็นต้น นี่คือถ้อยคำในคลิปเสียง ดังนั้น ตำรวจจึงมองว่าเป็นการพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะถ้าเราไม่ทำ ก็มีขู่จะทำให้เสียชื่อเสียง หรือนายกรรชัย จะทำให้เสียชื่อเสียงถ้าเราไม่ยอมจ่าย อย่างไรก็ตาม กรณีที่นายกรรชัย ได้ไปแจ้งดำเนินคดีพวกเขาในฐานหมิ่นประมาทฯ นั้น คดีนี้เป็นของนายกรรชัย ก็เป็นอีกเรื่อง ส่วนของบอสดิไอคอน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่พยานจะใช้ชุดเดียวกัน กล่าวคือฝั่งตนจะเป็นพยานให้นายกรรชัย และนายกรรชัย ก็จะเป็นพยานให้ฝั่งตนเช่นกัน
ทนายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับอัตราโทษความผิดพยายามฉ้อโกงนั้น ๆ จริง ๆ ความผิดฉ้อโกงประชาชน มีอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี ส่วนกรรโชกทรัพย์ อัตราโทษไม่เกิน 5 ปี ส่วน “พยายาม” ก็คือ 2 ใน 3 ของโทษ สมมติ 3 ปี ก็คือ 2 ปี ส่วนถ้า 5 ปีก็คือ 3 ปีกว่า ทั้งนี้ กรณีขั้นตอนว่าตำรวจจะออกหมายเรียกหรือหมายจับนั้น ตนคาดว่าคงต้องออกหมายเรียกก่อน แต่ก็แล้วแต่ทางตำรวจ เพราะถ้าอัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปีก็มีสิทธิ์ขอออกหมายจับได้ แต่ถ้าอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีก็ต้องออกหมายเรียก แต่ก็มีบ้างที่อัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปี แต่ก็มีการออกหมายเรียก จึงแล้วแต่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ นอกจากนี้ พฤติกรรมดังกล่าวคงไม่เข้าความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เพราะเป็นการอัดเสียงต่อหน้า ไม่ได้มีการเผยแพร่เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่กรณีของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ เอกภพ สายไหมต้องรอด อันนี้เข้าข่าย พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ซึ่งในกรณีนี้ได้มีการแจ้งความและให้ปากคำไปครบถ้วนหมดแล้ว เหลือเพียงตำรวจพิจารณาว่าจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาหรือขอศาลออกหมายจับ ในฐานความผิด หมิ่นประมาทฯ , พ.ร.บ.คอมพ์ฯ , ร่วมกันให้การเท็จ
ส่วนกรณีที่ น.ส.จิราพร สินธุไพร หรือ สส.น้ำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการมอบหมายให้ทนายความประจำตัว เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนักร้องเรียนหญิงที่มีการกล่าวอ้างถึงการจ่ายเงินนั้น ทนายวิฑูรย์ แจงว่า กรณีดังกล่าวต้องแยกไปเป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะเป็นคลิปเสียงสนทนาที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 30 มิ.ย. - เดือน ก.ค. ซึ่งเป็นคนละเหตุการณ์กับการกล่าวอ้างถึงรายการโหนกระแส เพราะคลิปเสียงเกี่ยวกับรายการโหนกระแสเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเดือน ต.ค. โดยเป็นการอัดเสียงระหว่างวันที่ 9 ต.ค. ต่อเนื่องวันที่ 10 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ รมต.น้ำ ทางเราก็จะต้องไปเป็นพยานให้เช่นเดียวกัน เพราะจริง ๆ แล้วไฟล์เสียงสนทนามันมีความยาว 6 ชม. แต่ได้มีการตัดเป็นตอน ๆ และคลิปเสียง 6 ชม.นี้ เราเป็นคนอัด เราก็ต้องไปเป็นพยานให้เขาเพื่อยืนยันไฟล์เสียง
ทนายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า หากวันนี้บอสพอล มีการมอบอำนาจให้ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องมีการสอบปากคำบอสพอลในฐานะผู้กล่าวหา และสอบปากคำบอสปันในฐานะพยาน และยังมีเลขาอีก 2 ราย ที่จะต้องเข้าไปให้ปากคำกับตำรวจ ทำให้ขั้นตอนที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคคลที่มีการเรียกรับเงินนั้น จะต้องรอการสอบสวนปากคำบุคคลในคลิปเสียงให้แล้วเสร็จก่อน เลยมองว่าอาจใช้เวลาไม่เกิน 10 วัน คาดว่าจะมีการออกหมายแน่นอน
ทนายวิฑูรย์ กล่าวถึงการยื่นประกันตัวชั่วคราวบอสดิไอคอนฯ ว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. ตนได้แอบไปยื่นประกันตัวชั่วคราวบอสวิน ต่อศาลอาญา โดยได้มีการแนบใบรับรองแพทย์จำนวนมาก และได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอประกันตัวด้วย เนื่องจากบอสวิน ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ระยะ 3 มีความสุ่มเสี่ยงเป็นอย่างมาก ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ตลอดเวลาและจะต้องเป็นแพทย์ที่ดูแลรักษาเขามาแต่แรก ปรากฏว่าศาลได้เอาคำร้องไปพิจารณาและได้มีคำสั่งโดยไม่ถามเลยว่าใบรับรองแพทย์เป็นมาอย่างไร เพราะศาลมีคำสั่งยกคำร้องไม่ให้ประกันตัวชั่วคราวบอสวิน ทำให้ในส่วนบรรดาบอสอื่นที่เหลือ จึงยังไม่มีแนวความคิดที่จะยื่นขอศาลประกันตัวชั่วคราวเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ศาลได้ให้เหตุผลของการยกคำร้องการประกันตัวชั่วคราวบอสวิน เหมือนกับที่เคยให้เหตุผลไว้กับบอสแซม บอสกันต์ บอสมิน เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายสูง กลัวว่าจะมีการหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายได้มีการคัดค้านการประกันตัว อย่างไรก็ตาม ทั้ง 18 บอสไม่ขวัญเสีย เพราะแต่ละคนไม่ได้คิดว่าจะได้ประกันตัวชั่วคราวอยู่แล้ว แต่ตนอยากให้บอสวิน ได้ประกันตัว เพราะเขาป่วยหนัก ห่วงสุขภาพของเขา ส่วนหากจะมีการยื่นประกันตัวบอสวิน ในครั้งถัดไปหรือไม่ คงรอความเห็นของแพทย์จากราชทัณฑ์เพื่อพิจารณาการยื่นอีกครั้ง ส่วนบอสรายอื่น คงรอให้ถึงฝากขังผัด 7 จึงค่อยยื่นคำร้องปล่อยตัวต่อศาล นอกจากนี้ หากช่วงระหว่างการฝากขังผัด 5-7 แล้วดีเอสไอไม่คัดค้านการประกันตัวชั่วคราว เราก็จะยื่นในช่วงนั้น
เมื่อถามว่าทางทนายความมีแนวคิดจะขออนุญาตนำตัวบอสวิน ไปรักษาตัวภายนอกเรือนจำแทนหรือไม่ ทนายวิฑูรย์ ยอมรับว่า มีแนวคิดเช่นนั้น เพราะเน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ปัจจุบันนี้บอสวินอยู่แดนหนึ่ง มีออกมาหาแพทย์บ้างเพราะมีใบรับรองแพทย์ ส่วนอาการยังคงเกล็ดเลือดต่ำ ส่วนรายละเอียดของสุขภาพตนไม่สามารถระบุได้ เป็นความลับทางทางการแพทย์ และที่ผ่านมา ทางเรือนจำฯ ได้มีการส่งบอสวินเข้าไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ บ้างเป็นครั้ง ๆ ส่วนอาการบอสวิน ค่อนข้างมีความสวิง ก็น่าเป็นห่วง แต่ไม่เชิงหนัก อาการดีขึ้นก็กลับมาในเรือนจำฯ
ทนายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่ในวันพรุ่งนี้ ที่ดีเอสไอจะเข้าสอบสวนปากคำเพิ่มเติมในคดีแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯ ทางเราก็ยินดีให้คำให้การ และก็จะทำคำให้การเป็นหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ดังเดิม ทั้งนี้ สิ่งที่ดีเอสไอดำเนินการอยู่นั้น เป็นการรับโอนทั้งสำนวนจากตำรวจสอบส่วนกลาง ทำให้ดีเอสไอเป็นหลักในการทำคดีในปัจจุบันแทน ส่วนผู้เสียหายที่มีความประสงค์จะขอเพิกถอนคำสั่งอายัดบัญชีธนาคาร เนื่องจากทำให้ไม่สามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้นั้น เนื่องจากในหมายอายัดมาจาก พ.ต.ท.ราเชน แสงหมี ทางผู้เสียหายจึงไปพบบุคคลดังกล่าวเพื่อที่จะขอปลดอายัด คงไม่ได้มาดีเอสไอ ส่วนกรณีที่สอบสวนส่วนกลางระบุว่าหากมีความประสงค์จะปลดอายัดบัญชีธนาคาร จะต้องไปประสานดีเอสไอนั้น เดี๋ยวตนจะแจ้งกับทางตัวแทนให้ไปที่ดีเอสไอด้วย
ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนทราบด้วยว่าตัวแทนที่ถูกอายัดบัญชีธนาคารไม่ได้มีเพียง 40 คน แล้วตนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ของพวกเขา เพราะว่าหลายคนก็พูดกันว่าต้องส่งลูกเรียน บางคนต้องใช้ชีวิต บางคนต้องรักษาพยาบาล แต่ละคนเป็นเรื่องใหญ่หมด ไม่น่าจะมีการอายัดหว่านแห่เช่นนี้ ตนก็ไม่เข้าใจเช่นกัน โดยรวมทราบว่าน่าจะมีเป็นร้อยรายที่ถูกอายัดบัญชีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทนายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นที่ น.ส.กฤษอนงค์ ถูกคุมขังเข้าทัณฑสถานหญิงกลางนั้น ทางบอสปันและบอสพอล ทั้งคู่ได้ทราบเรื่องตั้งแต่คืนวานนี้ และก็ไม่ได้มีท่าทีใด ๆ และไม่ได้มีฝากข้อความอะไรเป็นพิเศษ แล้วตนมองว่าเขาคงไม่ได้สะใจอะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้นอาจต้องกังวลด้วยซ้ำ เพราะพอเข้าไปอยู่ภายในทัณฑสถานหญิงกลางด้วยกัน แม้จะมีการแยกเรือนนอนคนละตึก แต่เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน การอาบน้ำ การกินข้าวก็ต้องมีการเจอกัน ย้ำว่าไม่ใช่ความสะใจ แต่เป็นความกังวลใจ เพราะบอสปันก็ไม่ได้อยากเจอเขา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นลักษณะของการเหม็นขี้หน้าเลยหรือไม่นั้น ทนายวิฑูรย์ ขำเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า ก็คงทำนองนั้น
เมื่อถามว่าบอสปันมองหรือไม่ว่าเป็นเพราะ น.ส.กฤษอนงค์ หรือไม่ จึงทำให้ดิไอคอนแตกพังขนาดนี้ จนทำให้มีอาการเหม็นขี้หน้า หรือไม่อยากเจอหน้ากัน ทนายวิฑูรย์ แจงว่า เขาก็คิดแบบที่บอสฝั่งชายคิดว่าเป็นต้นเหตุหรือไม่ ส่วนเรื่องคลิปวิดีโอที่มีการไปกราบเท้า น.ส.กฤษอนงค์ ที่บ้านนั้น ตนยืนยันว่า ตนไม่มีคลิปดังกล่าว และตนถามทางเลขาฯแล้วทราบว่าไม่มีการกราบเกิดขึ้น ส่วนที่ น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวว่าตัวเองก็มีคลิปเด็ดเหมือนกันนั้น ตนไม่กังวล เพราะตนก็มีคลิปเด็ดพอสมควรเหมือนกัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทนายวิฑูรย์ ,ทนายบอสพอล ,บอสพอล ,บอสปัน ,กฤษอนงค์ เจ๊พัช