หนี 6 ปีไม่รอด ก่อเหตุวิ่งราวทองร้านทองที่กระบี่ ตามรวบคาโรงพยาบาล

หนี 6 ปีไม่รอด ก่อเหตุวิ่งราวทองร้านทองที่กระบี่ ตามรวบคาโรงพยาบาล ขณะรอพบแพทย์

วันที่ 14 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง พ.ต.ท.ชวนินณ์ วิทยเจษฎาธนภัต รอง ผกก.สส.สภ.เหนือคลอง นำชุดสืบสวนพร้อมหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ที่ จ.591/2561 คดีอาญาที่ 325/2561 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2561 เข้าจับกุมตัวนายณภัทรสพล อายุ 32 ปี เลขที่ 23 ตำบลคูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง ในความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ได้ที่รพ.ในจ.พัทลุงขณะรอพบแพทย์

โดยคนร้ายก่อเหตุที่ห้างทองโกหวน 5 เลขที่ 185 ม.2 ถ.เพชรเกษม ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เมื่อเวลา 16.40 น.วันที่ 7 ธ.ค.61 ขณะเกิดเหตุคนร้ายได้สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้นหลบหนีไป หลังเกิดเหตุตำรวจออกติดตามไล่ล่า แต่คนร้ายหลบหนีไปได้ ขณะเกิดเหตุมีเพียงหลักฐานจากกล้องวงจรปิดภายในร้านทองเกิดเหตุ และได้มีการออกหมายจับคนร้าย จนผ่านมาถึงวันนี้ 6 ปี ซึ่งต่อมา พ.ต.ท.ชวนินณ์ วิทยเจษฎาธนภัต รอง ผกก.สส.สภ.เหนือคลอง ย้ายมาช่วยราชการเพียง 10 วัน รื้อคดีค้างเก่า "ใช้เทคนิคจากการอบรม สืบสวนก้าวหน้า มาใช้คัดหน้า"

ในคดีนี้จนเจอเบาะแส จึงประสานชุดสืบสวนในพื้นที่จ.พัทลุง จนจับกุมตัวได้ดังกล่าวคุมต่อมาสอบสวนที่สภ.เหนือคลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยมีนายนายสมเกียรติ ชอายุ 62 ปี เจ้าของร้านทองที่เกิดเหตุมาชี้ตัว ด้านผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุจริง พร้อมกล่าวขอโทษผู้เสียหาย และอ้อนวอนยอมรับผิดจะชดใช้เงินตามจำนวนราคาทอง และอ้างที่ทำไปเพราะถูกบังคับ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาวิ่งราวทรัพย์ นำส่งพงสฯสภ.เหนือคลองดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

นายณภัทรสพล ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ขณะนั้นตนตกงานเมียก็ทิ้ง ลูกก็ยังเล็ก และมีภาระต้องเลี้ยงลูก จึงหางานทำโดยได้รู้จักกับคน ชื่อแก๊ค ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ชักชวนมากระบี่บอกว่าจะหางานให้ทำ จึงนั่งรถจากพัทลุงมาที่อำเภอเหนือคลอง แต่เมื่อมาถึงนายแก๊คให้ตนส่งยา ตนปฏิเสธ นายแก๊คจึงบังคับตนให้วิ่งราวร้านทอง พร้อมชี้เป้าร้านที่จะต้องลงมือก่อเหตุ หลังวิ่งราวทองได้แล้วตนได้วิ่งหนีการจับกุมของตำรวจเข้าไปหลบอยู่ในชุมชนหลังตลาด หลังจากนั้นก็ส่งพิกัดให้นายแก๊คมารับ นายแก๊คให้เงินตน 2,000 บาท เป็นค่าเดินทางกลับพัทลุง แล้วบอกว่าส่วนแบ่งขายทองจะโอนตามไปให้ทีหลัง จนป่านนี้ตนยังไม่ได้สักบาท หลังจากนั้นจึงโบกรถบัสกลับพัทลุง จนมาถูกจับกุมดังกล่าว

ด้านนายสมเกียรติ เจ้าของร้านทอง เล่าว่า วันเกิดเหตุหลังคนร้ายก่อเหตุตนพยายามวิ่งไล่ตามแต่ไม่ทันคนร้าย จึงแจ้งตำรวจช่วยสกัดจับแต่ไม่พบตัว จนวันนี้รับแจ้งจากทางตำรวจว่าจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว จึงเดินทางมาดูตัว พร้อมกล่าวขอบคุณตำรวจชุดจับกุม ไม่นึกว่าคดีผ่านมาครบ 6 ปีตำรวจยังตามคดีจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้สำเร็จ ยอมรับว่านานมากจนแทบลืมไปแล้ว

พ.ต.ท.ชวนินณ์ วิทยเจษฎาธนภัต รอง ผกก.สส.สภ.เหนือคลอง เปิดใจว่า จริงๆคดีนี้ตำรวจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เป็นใคร ในหมายจับระบุเพียงว่าชายไทยไม่ทราบชื่อ และภาพใบหน้าจากกล้องวงจรปิดเท่านั้น หลังจากตนย้ายมาช่วยราชการได้ 10 วัน จึงรื้อคดีค้างเก่ามาทำ และได้นำเทคนิคจากการอบรมสืบสวนก้าวหน้ามาใช้ในการสืบสวนคดีนี้ จนสามารถรู้ตัวคนร้ายและสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

ส่วนคนร้ายรายนี้ที่ผ่านมาได้เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสกุล แต่จากการสืบสวนพบว่า ตัวคนร้ายมีประวัติรักษาตัวและต้องพบแพทย์อยู่หลายครั้ง ตร.จึงแกะรอยจนทราบวันหมอนัด และเข้ารวบตัว ตอนแรกผตห.ปฏิเสธแต่เมื่อเอาภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดูจึงจำนนด้วยหลักฐาน

ในโอกาสนี้อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของจนท.พร้อมฝากคำกล่าวของผู้บังคับบัญชาที่ว่า "ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข คนกระทำความผิดอยู่นอนร้อนทุกข์