อาชญากรรม

ผัวหึงโหด ซ่อนตัวในกระโปรงรถ รัวแทงเมีย 20 แผล ดับคารถ หลังจับได้แอบมีกิ๊ก

โดย petchpawee_k

9 ต.ค. 2567

1.1K views

เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (8 ต.ค.) ตำรวจ สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตบริเวณท้ายซอยพุทธมณฑลสาย 2 ซอย 27 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ  


ที่เกิดเหตุอยู่เกือบสุดซอย ข้างร้านอาหารแอบอร่อย พบรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนด์ทอง จอดสตาร์ทรถ เปิดเครื่องเสียงดังกระหึ่ม ประตูหน้าเปิดทั้ง 2 บาน เบาะปรับเอนนอนทั้ง 2 ฝั่ง ภายในรถบนเบาะคนขับพบร่างของ นายณัฐพล อายุ 42 ปี ชาวจ.นครปฐม นอนเอาขาก่ายไปบนศพของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเบาะด้านซ้าย ในสภาพหมดสติ มีบาดแผลเป็นรูที่หน้าผากจากการถูกยิงด้วยลูกเหล็กของปืนหน้าไม้ เลือดอาบใบหน้า บนลำตัวพบปืนหน้าไม้ 1 กระบอกและที่ข้อมือขวาพบมีดพกเปื้อนเลือดคล้องยางยืดติดกับข้อมือกันหลุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


ส่วนศพหญิงสาวทราบชื่อ น.ส.ชลธิชา อายุ 36 ปี ภรรยา นอนหงาย จมกองเลือด แขนซ้ายห้อยมานอกรถ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดตามร่างกายกว่า 20 แผล เจ้าหน้าที่ทำการปฐมพยาบาลนายณัฐพล เบื้องต้นจนรู้สึกตัวก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลราชพิพัฒน์


ทั้งนี้ มีกล้องวงจรปิดจับภาพรถคันเกิดเหตุขับเข้ามาในซอย โดยจะเห็นจังหวะรถเคลื่อนผ่านพ้นกล้องวงจรปิดไป และได้ยินเสียงบีบแตรดัง จากนั้นในวงจรปิดเห็นรถคันดังกล่าว ขับถอยหลัง-เดินหน้า ชนกำแพงบ้านในระแวกนั้น พร้อมได้ยินเสียงแตรดัง และเสียงร้องโหยหวน ขณะที่ชาวบ้านเริ่มออกมาดู แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย กระทั่งเห็นตัวสามี ซึ่งคร่อมร่างภรรยาอยู่ในฝั่งคนขับ เปิดประตูออกมาจากประตูฝั่งคนนั่ง  


และมีคลิปที่ชาวบ้านถ่ายไว้ได้ขณะเกิดเหตุ ในภาพจะเห็นรถคันเกิดเหตุจอดกลางซอย จากนั้นจะเห็นฝ่ายสามีจ้วงแทงภรรยาอย่างไม่ยั้ง ขณะที่ชาวบ้านพยายามห้ามปราม พร้อมโทรแจ้งเจ้าหน้าที่

จากการสอบสวน เบื้องต้นนายณัฐพล พอให้การได้ว่า ตนระแวงว่าภรรยาแอบมีชู้ จึงเปิดกระโปรงหลังรถเข้าไปแอบซ่อนตัว ภรรยาขับรถออกมาจากบ้านพักย่านหนองแขม โดยภรรยาทำงานเป็นคนขับรถประจำทางสาย 12 วิ่งระหว่างสนามไชย-ศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งอู่อยู่ปากซอยที่เกิดเหตุ จากนั้นภรรยานัดกับชายชู้ไว้ที่ร้านอาหารตามสั่งใกล้เคียงกับอู่จอดรถ ตนจึงเปิดประโปรงท้ายออกมา แล้วออกมาขับรถเข้าไปในซอย เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนก่อเหตุบานปลายดังกล่าว

ส่วน น.ส.รัชนี อายุ 35 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถคันดังกล่าวขับเข้ามาในซอย เหมือนไม่ชินทาง เปิดเครื่องเสียงดังลั่นรถ ขับเข้าไปสุดซอย ซึ่งเป็นซอยตัน แล้วกลับรถออกมา ขับส่ายไปมาชนกำแพงทั้งซ้าย ขวา จนกระทั่งมาจอดอยู่กลางถนน ประตูด้านซ้ายถูกเปิดออก มีเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ โดยมีผู้ชายคล่อมร่างแล้วใช้มีดแทงไม่ยั้ง เสียงร้องโหยหวน ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะผู้ชายตะโกนว่า เรื่องในครอบครัว แล้วบอกอีกว่ามันมากินข้าวกับชู้ แบบนี้ต้องฆ่าให้ตาย และอีกอย่างคือ ห่างจากจุดเกิดเหตุไปเพียงแค่ไม่ถึง 20 เมตร มีกองถ่ายมาถ่ายหนัง จึงสับสนว่าเป็นการถ่ายหนังหรือเรื่องจริง จนกระทั่งเหตุการณ์สงบลง จึงเดินไปดูก็พบว่าเป็นเรื่องจริง

สักพักก็มีบุรุษไปรษณีย์นำกระเป๋าถือของผู้หญิงคนตายมาส่งให้ตน บอกว่า ร้านอาหารตามสั่งกลางซอยเก็บได้ เพราะฝ่ายชายโยนลงจากรถไว้หน้าร้าน แล้วเห็นว่ารถคันดังกล่าวขับเข้ามาในซอย ซึ่งเป็นซอยตัน จึงเอามาฝากไว้กับตน ที่บ้านอยู่สุดซอย ฝากให้หญิงคนดังกล่าวด้วย

ขณะที่แม่ของ น.ส.ชลธิชา มาถึงที่เกิดเหตุเมื่อเห็นร่างลูกสาวร่ำไห้แทบขาดใจ พร้อมเล่าว่า ขณะเกิดเหตุลูกสาวโทรหา และได้ยินเหตุการณ์บนรถ และลูกสาวบอกว่า "ช่วยด้วยๆ" พร้อมเล่าว่า ทั้งคู่เป็นสามีภรรยา มีลูกด้วยกัน 2 คน ส่วนปมเหตุไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร แต่ที่ผ่านมาเคยทะเลาะกันและได้มีการทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งไปแจ้งความมาแล้ว โดยฝ่ายชายยังพูดข่มขู่ในลักษณะว่า อย่าให้กูหมดความอดทนนะ

โดยก่อนเกิดเหตุลูกสาวโทรหาตน และตนอยู่ในสายตลอด โดยตนยังได้ยินลูกสาวพูดกับผู้ก่อเหตุว่า "โอนเงินไปให้แม่ ไม่ได้โอนให้คนอื่น" ซึ่งลูกสาวได้โอนเงินให้ตนจริง 1700 บาท  และยังได้ยินลูกสาวร้องขอชีวิต ว่าอย่าทำร้าย และให้พาไปโรงพยาบาล ตนพยายามเรียกลูกในสายก็ไม่ตอบ จึงให้หลานชายซึ่งเป็นลูกผู้ตายมาคุย ก็ไม่มีใครตอบ จนได้ยินเสียงสุดท้ายดังลั่นของลูกสาวบอกว่า "ช่วยด้วยๆ" ก่อนจะเงียบหายไป ส่วนลูกสาวนั้นมีใครมาติดพัน หรือชอบพอหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ในสายตอนเกิดเหตุนั้น ทางผู้ก่อเหตุ พูดว่า “มึงสวมเขาให้กูๆ” ส่วนลูกสาวก็ปฏิเสธ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวบอกกับแม่ว่า ผู้ก่อเหตุ ยังมีชีวิตอยู่ ทางแม่ผู้ตายบอกว่า “หากรอดก็ขอให้ติดคุกไปเลย เพราะทำลูกฉัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงหลานเอง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่สอบสวนพยานแวดล้อมทั้งหมด ทราบว่าผู้ตายได้พาชายหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาว มากินอาหารตามสั่งใกล้เคียงกับอู่รถประจำทางอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดคือช่วงเที่ยงของ วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่านายณัฐพล อาจระแคะระคายมานานแล้วจึงแอบมาท้ายรถ แล้วแสดงตัวจนกิ๊กของผู้ตายเห็นและหลบหนีไปได้ทัน จึงรอดตายหวุดหวิด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และรอสอบสวนนายณัฐพล ภายหลังอาการดีขึ้น เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการก่อเหตุครั้งนี้ต่อไป



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/dUTjc_yzWNY

คุณอาจสนใจ

Related News