อาชญากรรม
ตำรวจปิดถนนล้อมจับคนร้าย เมียยิงต่อสู้-จี้ตำรวจเป็นตัวประกัน ซอยอิทามระ 29
โดย gamonthip_s
4 ต.ค. 2567
3.3K views
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 4 ต.ค. 67 จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายพร้อมอาวุธปืน บุกเข้าบ้านประชาชน ซ.อินทามระ 29 โดยเหตุการณ์เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ได้นำกำลังจับกุม นายสันติ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ระหว่างนั้นผู้ต้องหาได้ยิงใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อเปิดทางหนี พร้อมทั้งปีนรั้วเข้าไปในบ้าน ซ.อินทามระ 29 แยก 3 เขตพญาไท กรุงเทพฯ พร้อมทั้งทำลายกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกันการติดตามตัว
ต่อมา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ สน.เตาปูน ได้ประสานขอกำลังเสริมจากชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบปราม เข้าปิดล้อมพื้นที่ พร้อมทั้งนำโดรนของชุดเครื่องมือพิเศษ สนับสนุนภารกิจ บินตรวจตราความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหา ระหว่างนั้นได้พยายามเจรจาให้มอบตัว เเต่ผู้ต้องหาไม่ยอมเจรจาด้วย
เบื้องต้นทราบว่า นายสันติ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ สน.เตาปูน คดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ได้แกะรอยติดตามเพื่อจับกุมตัว แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทัน ยิงเปิดทางวิ่งหนีเข้าไปในซอยที่เกิดเหตุ ก่อนจะปีนกำแพงเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว นอกจากนี้ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องเคยเป็นอดีตนักมวยไทย นิสัยส่วนตัวชอบพกปืน และใส่เสื้อเกราะป้องกันตัว
ล่าสุด 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด ก่อนที่คนร้ายจะเปิดประตูวิ่งหนีลงไปในป่าหญ้าริมวงแหวนรอบนอกธัญบุรี-วังน้อย มุ่งหน้าวังน้อย ต.ข้าวงาม อ.วังน้อย จ.อยุธยา ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดภ.จว.ปทุมธานี, ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา อยู่ระหว่างปิดล้อมโดยใช้ไฟหน้ารถส่องเข้าไปในป่าหญ้า และนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมพื้นที่ไว้เพื่อรอตรวจค้นหา โดยมีการปิดกั้นการจราจรฝั่งมุ่งหน้า อ.วังน้อย ให้รถยนต์วิ่งสวนทางเพื่อให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสะดวก โดยในที่เกิดเหตุลักษณะเป็นท้องนาที่เกี่ยวข้าวไปไม่นานเนื้อที่กว้างนับ 100 ไร่ มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมพื้นที่ไว้ และขอสนับสนุนอุปกรณ์แสงสว่าง จากเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ รวมทั้งใช้โดรนถ่ายภาพมุมสูงในการตรวจค้นหาคนร้ายแต่ยังไร้วี่แวว
หลังสถานการณ์ภายในซอยอินทามระ 29 แยก 1 คลี่คลาย ปรากฏเกิดเหตุการณ์ซ้อนขึ้น เมื่อภรรยาของนายสันติ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ที่หลบหนีการจับกุมของตำรวจ สน.บางซื่อ ก่อนไปก่อเหตุบุกบ้านของพลเรือน ได้ใช้อาวุธปืนขู่ว่าจะทำร้ายตัวเองภายในอาคารร้าง ริมถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุซอยอินทามระ 29 ไม่ไกลมาก โดยมีรายงานว่าภรรยานายสันติมีอาการเครียดจากการที่สามีตนเองถูกตำรวจล้อมจับ ทำให้ทางตำรวจต้องเข้าไปเจรจาเกลี้ยกล่อม เพื่อให้สงบสติอารมณ์
หลังใช้เวลาเกลี้ยกล่อมประมาณ 2 ชั่วโมง ภรรยานายสันติได้ยินยอมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทว่าได้จี้เอาตำรวจนายดังกล่าวเป็นตัวประกันอีก 1 นาย ก่อนจะนำตัวขึ้นรถตำรวจ 191 แล้วบังคับให้ขับรถหลบหนีไป โดยเบื้องต้นมีรายงานข่าวว่าได้ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางคลอง 7 จ.นครนายก
ต่อมาในเวลา 03.45 ภรรยานายสันติได้ขับหลบหนีไปยังพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะจอดรถทิ้งไว้บนถนนธัญบุรี แล้วหลบหนีเข้าพงหญ้าข้างทาง ซึ่งตำรวจ สภ.วังน้อย และตำรวจภูธรภาค 1 ได้ประสานกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่ และขอไฟสว่างในการส่องพื้นที่ ขณะที่ตำรวจที่จี้มาด้วยนั้น มีรายงานว่าพบตัวแล้ว และอยู่ในภาวะปลอดภัย
หลังจากใช้เวลาปิดล้อมพื้นที่นานกว่า 2 ชั่วโม เวลาประมาณ 05.40 น. เมียของนายสันติได้ตัดสินใจปรากฏตัวต่อหน้าตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้เมียนายสันติวางอาวุธปืน ซึ่งเมียนายสันติยังไม่มีท่าทีที่จะวางอาวุธปืน ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องพยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมอย่างต่อเนื่อง โดยได้ประสานให้อดีตนายจ้างของนายสันติพูดจาเกลี้ยกล่อม
ผ่านไปประมาณ 10 นาที จนเมื่อเวลา 05.50 น. เมียนายสันติยอมวางอาวุธปืน และเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยเมียนายสันตินั้นยังมีอาการร้องไห้ฟูมฟายไม่ได้สติ อดีตนายจ้างนายสันติจึงต้องพูดคุยเพื่อปลอบ โดยพบว่า เมียนายสันตินั้นมีบาดแผลที่ส้นเท้าซ้ายจากการถูกเศษแก้วบาด ตั้งแต่ตึกร้างแยกสุทธิสารเมื่อคืน โดยได้มีการประสานรถพยาบาลจากโรงพยาบาลตำรวจมารับตัว เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและฟื้นฟูจิตใจต่อไป
ทั้งนี้ ทราบชื่อภายหลังว่า เมียนายสันติชื่อว่า น.ส.พจนีย์ ยังไม่ทราบอายุ โดยหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นพื้นที่ เพื่อให้พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาอาวุธปืน และร่องรอยที่หลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุต่อไป หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง