รวบชายหลอกจ้างงานสาวเมียนมาวัย 19 อ้างให้ไปทำงานบ้าน สุดท้ายลวงไปข่มขืน ก่อนปล่อยทิ้งข้างทาง

จากกรณีมีตัวแทนผู้เสียหาย ร้องเรียนมายังดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า วันที่ 25 ก.ย.67 ที่ผ่านมา นางสาวมีนา (นามสมมุติ) ถูกนายจ้างคนไทย หลอกจ้างให้ไปเป็นแม่บ้านทำความสะอาด แต่ล่อลวงไปทำร้ายร่างกาย แล้วข่มขืน ก่อนเอาตัวไปปล่อยทิ้งไว้ข้างทาง จนต้องโพสต์ตามหาตัวในเฟซบุ๊ก พอเจอตัวนางสาวมีนา ก็ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด จึงพาตัวมาแจ้งความที่ บก.ปคม.เมื่อวานนี้ จนกระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับ และควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในพื้นที่อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี


ล่าสุดวันนี้ (27ก.ย.67) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ บุกเข้าจับกุมนายปัญญา อายุ 36 ปี ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยหลังจับกุมนายปัญญาได้ ตำรวจก็นำตัวกลับมาสอบปากคำที่ บก.ปคม. โดยมี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และพันตำรวจเอกพัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผู้กำกับการ 2 บก.ปคม. ร่วมสอบปากคำ


ซึ่งเบื้องต้นนายปัญญายังให้การแค่บางประเด็น โดยอ้างว่า ได้ติดต่อผู้เสียหายจริง แต่ต้องการติดต่อจ้างผู้เสียหาย มาร่วมหลับนอน ในราคา 2,000 บาท ไม่ได้หลอกล่อมาทำงานเพื่อหวังข่มขืน แต่เมื่อตำรวจซักถามว่า มีการทำลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้วใช่หรือไม่ นายปัญญา ผู้ต้องหา ก็พยักหน้ายอมรับ โดยบอกว่า ก่อครั้งแรกก่อเหตุที่บ้านในอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ส่วนครั้งที่ 2 ก่อเหตุในพื้นที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ส่วนครั้งที่ 3 คือครั้งนี้ เมื่อตำรวจถามว่าเคยก่อเหตุรุมโทรมผู้เสียหายหรือไม่ ผู้ต้องหายังคงปฏิเสธ


ส่วนโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายที่เอาไป ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้ขโมย และตั้งใจจะนำไปคืนผู้เสียหาย แต่ไม่รู้จะคืนอย่างไร ซึ่งคดีข่มขืนสาวลาวที่อำเภอสีคิ้วนั้น คดีก็ยังไม่จบ ยังอยู่ระหว่างรอนำตัวส่งฟ้องต่ออัยการต้นเดือนหน้า แต่มาก่อเหตุซ้ำอีก


ด้าน ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากการ กันจอมพลัง ว่ามีผู้หญิง ชาวเมียนมา ถูกชายไทยข่มขืนแล้วไปปล่อยทิ้งกลางทาง จึงได้มีการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่ามีคนไทยที่รู้จักกับผู้เสียหาย ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย อยากได้งานทำ จึงมีการโพสต์ช่วยหางานแม่บ้านให้ จนกระทั่งไปเจอนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ อ้างว่าเป็นนายจ้างหลอกล่อให้ไปทำงานที่บ้าน


จากนั้นมีการนัดแนะ โดยให้นางสาวมีนา (นามสมมุติ) ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ทำให้เกิดความสับสน ก่อนจะพาเขาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ทำการล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนที่จะพาผู้เสียหายไปปล่อยทิ้งข้างทาง


โดยกระบวนการหลังจากนี้จะให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย พร้อมกับให้ยื่นหนังสือ คำร้องขอเงินเยียวยาของผู้ถูกกระทำ จากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะไม่มีการผลักดันผู้เสียหายออกจากประเทศจนกว่ากระบวนการทางกฎหมายจะสิ้นสุด


ด้านพันตำรวจเอกพัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผู้กำกับการ บก.ปคม.2 เผยว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหา ยังให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐาน ทางกล้องวงจรปิด และการสอบปากคำของผู้เสียหาย จึงเชื่อได้ว่านายปัญญา ผู้ก่อเหตุจริง จึงมีการขออำนาจศาลเพื่ออนุมัติออกหมายจับ จนกระทั่ง สามารถจับกุมตัวนายปัญญาได้ในพื้นที่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี


โดยจากการตรวจสอบประวัติทางอาชญากรรม นายปัญญา ผู้ก่อเหตุ เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนมากอยู่ในพื้นที่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ส่วนอีกคดีอยู่ที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของชั้นศาล และเชื่อได้ว่าน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมข่มขืนต่อเนื่อง โดยเลือกเหยื่อจาก แรงงานต่างด้าวที่พูดภาษาไทยไม่ได้ และหลบหนีเข้าประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย เพื่อหวังว่าหากเกิดเหตุจะได้ไม่กล้าแจ้งความ


ขณะที่นางสาวมิ้น คนรู้จักผู้เสียหาย เปิดเผยว่า มีคนขอให้ตนเองช่วยหางาน แม่บ้าน ให้นางสาวมีนา ซึ่งตอนแรกมีนายจ้างคนอื่นทักมา แต่เป็นชาวพุทธ และก็มีในส่วนของผู้ก่อเหตุทักข้อความมา ซึ่งเป็นชาวมุสลิม และอาศัยอยู่ในพื้นที่บางบัวทอง ซึ่งนางสาวมีนา ผู้เสียหายยินดีที่จะทำงานร่วมกับชาวมุสลิม เพราะจะได้ใช้ชีวิตได้ง่าย เพราะเป็นอิสลามเหมือนกัน


จากนั้นมีการติดต่อส่งโลเคชันให้กับทางพี่สาวของผู้เสียหาย ให้พาไปส่งตัว แต่ปรากฏว่ามีการไปนัดเจอกันที่โลตัสบางบัวทอง ไม่ได้ไปเจอตามที่ปักหมุด โดยเรียกแท็กซี่ ให้พี่สาวผู้เสียหายเดินทางกลับไปก่อน ก่อนที่จะพาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปลงมือก่อเหตุ


หลังจากพี่สาวส่งนางสาวมีนา ผู้เสียหาย เสร็จสิ้น ตนเองจะทักข้อความเฟซบุ๊กนายปัญญา ผู้ก่อเหตุเพื่อไปขอบคุณ แต่ถูกบล็อก จึงรู้สึกผิดปกติ รีบให้พี่สาวตามหา โดยชาวบ้านแถวนั้นใจดีให้ดูภาพกล้องวงจรปิด จึงรู้ว่าถูกลักพาตัวไป


หลังจากเกิดเหตุ ตนเองมีการโพสต์ตามหา ในกลุ่มหางานแม่บ้าน ซึ่งมีคนมาแสดงความเห็น ว่าโดน นายปัญญา ผู้ก่อเหตุ แบบนี้เหมือนกัน ซึ่งโชคดีมาก มีแท็กซี่ใจดีพาตัวนางสาวมีนา มาส่งที่มัสยิด โดยแท็กซี่พาเข้าไปคุยกับชาวเมียนมาด้วยกันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง จึงสื่อสารกับพี่สาวผู้เสียหายได้


หลังเกิดเหตุตนเองรู้สึกเครียดมากและโทษตัวเองที่เป็นต้นเรื่อง โทษว่าไม่ได้คัดกรองลูกค้าให้ดี เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และตนเองรู้สึกสงสารนางสาวมีนา ผู้เสียหายมาก เพราะยังเด็กและไม่รู้เรื่องอะไร และอยากให้ตำรวจขังคุกนานๆ อย่าให้ออกมาอีก


ขณะที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำ และจะพาตัวผู้ก่อเหตุไปชี้ตัวผู้เสียหาย ทีมข่าวได้พยายามสอบถามนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ ถึงปมสาเหตุในการลงมือก่อเหตุ โดยนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ ปัดไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน ได้แต่ก้มหน้าก้มตาหลบกล้อง ปิดปากเงียบไม่ยอมพูดจาอะไร


ขณะที่ภาพกล้องวงจรปิด หน้าซอยบิ๊กซีบางบัวทอง จ.นนทบุรี วันที่ 25 ก.ย.67 คลิปแรกช่วงเวลาประมาณ 11.29 น. เห็นว่าผู้ก่อเหตุ มีการเดินออกมาส่งพี่สาวผู้เสียหายขึ้นรถแท็กซี่สีเขียว


จากนั้น คลิปต่อมา ช่วงเวลาประมาณ 11.31 น. จับภาพ นายปัญญา อายุ 36 ปี ขับรถจักรยานยนต์ โดยมีนางสาวมีนา (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี แรงงานเมียนมา นั่งซ้อนท้ายลวงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งต่อยท้องแล้วข่มขืน ก่อนไปปล่อยตัวทิ้งไว้ข้างทาง