อาชญากรรม

ฆ่าชิงทรัพย์ยายวัย 73 คนร้ายเพิ่งพ้นคุกไม่นาน ชาวบ้านแค้นฮือหวังรุมประชาทัณฑ์

โดย passamon_a

24 ก.ย. 2567

387 views

เหตุสะเทือนขวัญ ฆ่าชิงทรัพย์ยายวัย 73 คนร้ายเพิ่งพ้นคุกไม่นาน หนีลอยคอหลบซ่อนในคลอง ตำรวจตามจับได้ ชาวบ้านแค้นฮือหวังรุมประชาทัณฑ์


เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 23 ก.ย.67 ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมีหญิงชราถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ที่บ้านพัก ม.4 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยภายในบ้านพบศพ นางสาวจิระ อายุ 73 ปี สวมใส่ชุดนอนสีแดง มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณตาข้างซ้าย จมูก ศีรษะ ท้ายทอย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-5 ชั่วโมง และยังพบร่องรอยการต่อสู้ มีคราบเลือดติดอยู่ที่ผ้าม่าน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ


จนกระทั่งได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่าพบเจอ นายโอฬาร หรือ ยาร์ด อายุ 44 ปี ผู้ต้องสงสัย ลอยคอหลบซ่อนตัวอยู่ภายในคลองตะเคียน ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 300 เมตร จึงพากำลังเจ้าหน้าที่ไปล้อมจับ จึงสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนจะรีบนำตัวพาขึ้นรถ เนื่องจากกลัวว่าชาวบ้านและญาติจะรุมประชาทัณฑ์ พร้อมรีบนำตัวไปที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา


ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาคือ นายโอฬาร หรือ ยาร์ด อายุ 44 ปี ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาไม่ได้หนีไปไหนไกล ไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในคลองตะเคียน ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตั้งใจจะเข้าไปชิงทรัพย์ โดยใช้หมัดต่อยไปที่เบ้าตาของผู้ตายจำนวนสี่ครั้ง ทำให้ผู้ตายร้องส่งเสียงดัง ผู้ต้องหากลัวคนจะได้ยิน จึงใช้หมอนอุดไปที่จมูกของผู้ตายจนขาดอากาศหายใจ


ส่วนประเด็นที่ญาติติดใจว่าอาจจะถูกข่มขืนนั้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์ยืนยัน ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไปคือ กระเป๋าหนึ่งใบในนั้นมีเงินสดจำนวน 1,400 บาท และโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และชิงทรัพย์ผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต


จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายโอฬารเคยถูกจับในคดีลักทรัพย์ 2 ครั้ง และเมื่อปี 2561 ถูกข้อหาครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาได้เพียงสองปี กระทั่งกลับมาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ซ้ำ


สอบถาม นางสาวอริสา อายุ 47 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า บ้านที่เกิดเหตุมีแม่พักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ตนเองพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี มาทราบข่าวว่าแม่ถูกทำร้ายเสียชีวิตจากเพื่อนบ้าน จึงรีบเดินทางมา เพื่อนบ้านบอกว่า ช่วงเวลาประมาณตีสองได้ยินเสียงเหมือนมีคนเคาะกระดานพื้นบ้าน ขอความช่วยเหลือ ดิ้นรน พอช่วงเวลาประมาณตีห้า เพื่อนบ้านมาเรียกชวนแม่ไปละหมาด แต่พบว่าบ้านล็อกใส่กุญแจจากด้านนอก จึงเกิดความสงสัย เพราะได้ยินเสียงเคาะพื้นบ้านตั้งแต่กลางดึก จึงไปตามญาติ ๆ กันมางัดประตูบ้าน เข้าไปพบว่าแม่ถูกตีที่ใบหน้าและศีรษะจนเสียชีวิต มีทรัพย์สินของแม่ โทรศัพท์ ทองรูปพรรณ เงินสดจำนวนมาก ไม่ทราบจำนวน ซึ่งเป็นค่าสินสอดของลูกชายที่เพิ่งจะแต่งงานได้ประมาณ 1 สัปดาห์ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ


นางสาวอริสา เล่าอีกว่า ก่อนที่แม่จะเสียชีวิต ยังได้โทรศัพท์คุยกันทุกวัน แม่เป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร แม้แต่จะด่าใครยังไม่เคยเลย อายุแม่มากแล้วจะไปมีพิษมีภัยอะไรกับใคร ทำไมต้องมาทำร้ายคนแก่แบบนี้ ตนสงสัยคนในชุมชน เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนในชุมชน และเพิ่งจะพ้นโทษออกมา


ขณะที่ นายสุนทร ซึ่งเป็นลูกชายผู้ตาย บอกว่า ปกติทุกเย็นจะซื้อกับข้าวมาให้แม่ที่บ้านเป็นประจำ ช่วงตอนเช้ามีเพื่อนบ้านโทรไปบอกว่าแม่ตนเองเสียชีวิตอยู่ในบ้าน แล้วก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำร้าย และยังพบว่ามีแหวนทอง น้ำหนักหนึ่งเฟืองหายไป รวมทั้งโทรศัพท์หนึ่งเครื่องและกระเป๋าเงินหายไป ซึ่งมีเงินอยู่ในกระเป๋าจำนวนหนึ่งด้วย


ทางด้าน นายสมคิด อายุ 42 ปี ลูกเลี้ยง ได้พาผู้สื่อข่าวเดินขึ้นไปดูบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่บนบ้าน พร้อมทั้งบอกว่า ปกติแม่จะอยู่บ้านเพียงคนเดียว และลูก ๆ ก็จะไปทำมาหากินที่จังหวัดนนทบุรี พอมาทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าก็เดินทางมาที่บ้าน ก็มาพบว่าแม่ถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว ส่วนคนที่ก่อเหตุก็ไม่ใช่คนที่ไหน เป็นคนในละแวกหมู่บ้านเดียวกันเพิ่งจะออกจากคุกมา ก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุกับแม่ของตนเอง


สอบถาม นายสมมาท อายุ 64 ปี พลเมืองดี เล่าว่า ตนเองออกไปหลังบ้านซึ่งติดกับคลอง พอเห็นตัวผู้ต้องสงสัยก็รีบแจ้งตำรวจทันที ลักษณะที่เห็นกำลังแหวกน้ำ จึงถามว่าใคร บอกหนีเมียมา ตนคิดว่าไม่ใช่ เพราะเมื่อเช้าเพิ่งไปที่เกิดเหตุมาด้วย เพราะตนเป็น ตชต.เก่า รู้จักตำรวจ เลยรีบโทรบอกให้เขามาดู


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/aoKc2Tz5IzQ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ฆ่าชิงทรัพย์ยาย ,อยุธยา

คุณอาจสนใจ

Related News