อาชญากรรม

หนุ่มถอดจีวรออกมาฆ่า บุกยิงหัวหน้าเมีย แค้นยุให้เลิก ก่อนฉุดเมียขึ้นรถ ยิงดับเป็นศพที่ 2

โดย nattachat_c

19 ส.ค. 2567

514 views

มอบตัวแล้วมือปืนโหดฆ่า 2 ศพ หลังถอดผ้าเหลืองมาตามง้อแฟนกลับบ้าน ก่อนเจอแฟนอยู่กับเพื่อนบนรถแต่คุยไม่ลงตัว ชักปืนยิงใส่เพื่อนสาว ดับคารถต่อหน้าลูกวัยขวบเศษ ก่อนใช้ปืนตบหน้าแฟนสาวลากตัวขึ้นรถหลบหนีไป สุดท้ายลงมือฆ่าแฟนสาวดับคาวัดดัง เจ้าตัวสารภาพ ตอนก่อเหตุยังไม่ได้สึก แต่ปลดผ้าเหลืองเองเพื่อออกมาฆ่า เหตุแค้นแฟนสาวตีตัวออกห่าง ซ้ำนายจ้างยุให้เลิก จึงยิงเพื่อสางแค้น ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา


วานนี้ (18 ส.ค. 67) ช่วงเช้า ตำรวจ สภ.เพ จ.ระยอง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิงผู้หญิงเสียชีวิตคารถ ขณะมีเด็กน้อยนั่งร้องไห้อยู่เบาะหลังรถ เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง จึงนำกำลังไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต ชื่อ น.ส.เมธาวี อาจรักษา อายุ 30 ปี พนักงานขายตั๋วเรือข้ามเกาะเสม็ด เสียชีวิตในสภาพร่างหล่นลงมาที่ถนน โดยที่ประตูฝั่งคนขับเปิดอยู่ มีรอยกระสุนปืนที่กระจกประตูฝั่งคนขับ ส่วนที่เบาะหลังคนขับ พบเด็กชายอายุ 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของผู้ตาย นั่งร้องไห้อยู่ในรถ


สอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นผู้ตายกับผู้หญิงอีกคน ขับรถออกจากบ้านมาจอดที่หน้าบ้าน ในลักษณะคล้ายกับกำลังจะออกไปข้างนอกกัน โดยขณะที่ผู้ตายขับรถไปจอดรอหน้าบ้าน ก็มีหญิงอีกคนลงจากรถมาปิดประตูรั้ว


จากนั้น คนร้ายเป็นชาย ขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน ก่อนจะลงจากรถ แล้วชักปืนจ่อยิงผู้ตาย ที่กำลังนั่งอยู่ในรถ เพื่อนบ้านเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงรีบหาที่หลบ แต่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้อง เสียงผู้ชายตะโกนว่า มึงมานี่ แล้วคนร้ายก็ขับรถออกไป พอตนออกมาดูหน้าบ้าน เห็นผู้ตายนอนอยู่ที่พื้นถนน จึงรีบแจ้งตำรวจ


เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า สามารถบันทึกภาพขณะที่คนร้ายก่อเหตุไว้ได้ โดยก่อนเกิดเหตุ  น.ส.เมธาวี นั่งอยู่ภายในรถเก๋งสีขาวที่จอดอยู่หน้าบ้าน สักพัก มีหญิงอีกคน สวมเสื้อสีดำ ลงจากประตูหลังฝั่งซ้าย เดินอ้อมรถไปปิดประตูรั้วบ้าน ก่อนจะกลับไปขึ้นรถ แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นรถ ก็มีรถเก๋งอีกคัน สีบรอนซ์เงิน ขับมาด้วยความเร็ว แล้วมาจอดต่อท้าย โดยที่คนขับเป็นชายสวมเสื้อสีแดง กางเกงยีนส์ขายาว ลงจากรถ แล้วชักปืนจ่อยิงใส่กระจกฝั่งคนขับ 2 นัด แล้วก็วิ่งไปทุบกระจกประตูหลัง ตะโกนให้ผู้หญิงคนดังกล่าวออกมาจากรถ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมเปิดประตู


คนร้ายจึงใช้ปืนเคาะกระจก พร้อมกับได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 3 นัด และเสียงคนร้ายตะโกนว่า “มึงออกมานี่” ผู้หญิงเสื้อดำจึงเปิดประตูออกมา แล้วถูกคนร้ายฉุดขึ้นรถไป ก่อนจะขับรถออกไปทันที


มีรายงานข่าวว่า หญิงเสื้อสีดำ ชื่อ น.ส.กิ๊ก เป็นลูกน้องคนสนิทของผู้ตาย ก่อนหน้านี้ นางสาวกิ๊กมีปัญหากับสามีที่ชื่อ นายเอ็ม โดยฝ่ายหญิงต้องการหย่า แต่ฝ่ายชายไม่ยอม และตามง้อ ฝ่ายหญิงจึงมาปรึกษา และขอความช่วยเหลือจาก น.ส.เมธาวี ที่เป็นหัวหน้า ทำให้นายเอ็มเกิดความแค้น  


ก่อนเกิดเหตุ น.ส.เมธาวี ผู้ตาย พร้อมกับ นางสาวกิ๊ก ลูกน้อง กำลังจะขับรถไปทำงาน โดยพาลูกวัย 2 ขวบไปด้วย แต่เมื่อขับออกจากบ้านแล้ว นึกได้ว่าลืมปิดประตูรั้ว จึงให้ลูกน้องลงไปปิดประตู จนกระทั่งคนร้าย ซึ่งคาดว่าเป็นนายเอ็ม สามีของนางสาวกิ๊ก ขับรถมาก่อเหตุกระหน่ำยิงผู้ตาย และฉุดนางสาวกิ๊กขึ้นรถหนีไป

-------------

หลังเกิดเหตุ ตำรวจกระจายกำลังเร่งติดตามคนร้าย และช่วยเหลือนางสาวกิ๊ก ที่ถูกฉุดขึ้นรถไป พร้อมกับเชิญตัวสามีของ น.ส.เมธาวี ไปสอบปากคำ โดยสามีของ น.ส.เมธาวี ให้การว่า น.ส.กิ๊ก เป็นลูกน้องของภรรยา ก่อนหน้านี้ น.ส.กิ๊ก ถูกนายเอ็ม สามี ทำร้ายร่างกาย และมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันตลอด จึงมาขอความช่วยเหลือ ภรรยาตนสงสารจึงให้ น.ส.กิ๊ก มาอาศัยอยู่ที่บ้าน นานประมาณ 2 เดือนแล้ว  


ส่วนนายเอ็ม ทราบว่า ไปบวชที่วัดชากพง อ.แกลง  แต่ระหว่างนั้น ก็โทรมาข่มขู่อยู่ตลอด จนกระทั่ง วันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา นายเอ็มก็โทรมาขู่ภรรยาตนว่า จะมายิงทิ้ง เพราะไม่พอใจที่ภรรยาของตนไปยุ่งเรื่องผัวเมีย ตน และญาติๆ ก็เตือน น.ส.เมธาวี ว่าให้ระวังตัว แต่เจ้าตัวไม่กลัว และคิดว่านายเอ็มคงไม่กล้าทำจริง กระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น  


หลังเกิดเหตุฆาตกรรมรายแรก จากนั้น ประมาณ 3 ชั่วโมงต่อมา ช่วงเที่ยง มีคนแจ้งว่า พบศพหญิงคนหนึ่ง เสียชีวิตอยู่ในรถเก๋ง ที่จอดทิ้งอยู่ริมถนนในซอยเปลี่ยว ห่างจากจุดเกิดเหตุแรกประมาณ 11 กิโลเมตร ตำรวจไปตรวจสอบพบว่า เป็นศพ น.ส.แพรวมณี ภูมิพันธุ์ หรือ กิ๊ก อายุ 29 ปี หญิงสาวที่ถูกฉุดขึ้นรถ สภาพศพถูกยิงที่ท้ายทอย เสียชีวิตอยู่ที่เบาะหลัง  


ต่อมา พ.ต.อ.ปรีดิ์ภาวัต ชัยเพ็ชรโยธิน ผกก.สภ.เพ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว คือ นายสุเมธ นารถมณี หรือนายเอ็ม อายุ 36 ปี สามีของ น.ส.กิ๊ก ก่อนหน้านี้ บวชช่วงเข้าพรรษาที่วัดชากพง แต่แหกพรรษา ปลดผ้าเหลืองด้วยตัวเอง แล้วมาก่อเหตุ  


หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่พยายามติดต่อเกลี้ยกล่อมเพื่อให้มอบตัว นายเอ็มจึงนัดเจ้าหน้าที่ไปรับตัวที่วัดแห่งหนึ่ง แล้วคุมตัวไปสึก ก่อนจะนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.เพ


จากการสอบสวน นายเอ็มรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง สาเหตุเพราะโมโหที่ภรรยาตีตัวออกห่าง แล้วมาขอความช่วยเหลือจาก น.ส.เมธาวี ที่เป็นหัวหน้า จึงแค้นที่ น.ส.เมธาวี ยุยงให้ น.ส.กิ๊ก เลิกกับตน


จึงสืบดูความเคลื่อนไหวของ น.ส.เมธาวี ว่าใช้รถคันไหน มักออกจากบ้านกี่โมง แล้วจึงไปยืมรถที่อู่ของเพื่อน เพื่อเอามาก่อเหตุ ยิง น.ส.เมธาวี เป็นศพแรก แล้วฉุดภรรยาตัวเองขึ้นรถ ยิงทิ้งอีกราย ก่อนจะเอาศพกับรถไปทิ้งไว้


ขณะที่ แม่ของ น.ส.กิ๊ก เล่าว่า นายเอ็ม สามีของลูกสาว มักจะข่มขู่ทำร้ายร่างกายตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ขู่ว่าจะฆ่าจนลูกสาวตนทนไม่ไหว ต้องหนีไปอาศัยนอนที่บ้านหัวหน้า แต่ก็ยังตามคุกคามตลอดเวลา แต่ที่ลูกสาวชะล่าใจ เพราะนายเอ็มไปบวช จึงคิดว่าคงไม่ออกมาก่อเหตุ แต่นายเอ็มก็มาก่อเหตุจนได้ ทั้งที่ยังเป็นพระ ตนยืนยันว่า จะไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ด้าน นางวันดี แม่ของเพื่อนสนิทนายเอ็ม บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ประมาณตีหนึ่งของวันที่ 18 ส.ค. นายเอ็มที่ยังบวชเป็นพระอยู่ โทรมาหาลูกสาวของตน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายเอ็ม เพื่อปรับทุกข์เรื่องครอบครัว เพราะนายเอ็มชอบทำร้ายร่างกายภรรยา ทำให้ภรรยาขอเลิก  ทำให้เพื่อนต้องเตือนสตินายเอ็มว่าให้ใจเย็นๆ อะไรที่ตัดใจได้ก็ตัด อะไรที่ให้อภัยได้ก็ให้อภัย และให้ลองเดินจงกรมดู จากนั้นก็วางหูไป ไม่คิดว่านายเอ็มจะทำจริง ซึ่งปกติแล้ว นายเอ็มก็ดูเป็นคนนิสัยดี แต่ตนก็ไม่ได้รู้จักสนิทสนม หรือรู้เรื่องครอบครัว ส่วนที่ตนมาที่โรงพักก็เพื่อมาดูว่านายเอ็มได้กินอะไรหรือยัง ตามประสาคนที่รู้จักกัน


ด้าน นายปริญญา จาดเลน อายุ 47 ปี  ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองระยอง เปิดเผยว่า หลังจากนายเอ็มยิงศพแรก ตนพยายามติดต่อเพื่อให้มอบตัว แต่ติดต่อไม่ได้ จนกระทั่ง นายเอ็มยิงภรรยาเป็นศพที่สอง นายเอ็มจึงติดต่อกลับมาที่ตน ตนพยายามเกลี้ยกล่อมจนนายเอ็มยอมมอบตัว และบอกสถานที่หลบซ่อน แต่ก็เปลี่ยนใจอยู่หลายรอบ เพราะกลัวตำรวจ กระทั่งยอมบอกที่ซ่อนจริง ๆ  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่คุมตัวนายเอ็มไปชี้จุดที่ก่อเหตุ แต่นั่งชี้อยู่บนรถของตำรวจ ไม่ยอมลงจากรถ เนื่องจากมีกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย มารอดูด้วยอารมณ์โกรธแค้นไม่พอใจ จึงเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ หลังจากชี้จุดแล้ว จึงนำตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

--------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/o9C-5nR5Qgo








คุณอาจสนใจ

Related News