อาชญากรรม
มาเฟียวงการสักยันต์เกือบ 10 คนรุมทำร้ายกรรมการตัดสินประกวดลายสักจนสาหัส
โดย kanyapak_w
27 ก.ค. 2567
303 views
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 27 ก.ค. 67 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายวสันต์อายุ 45 ปี และนายสกาย อายุ 33 ปี ทั้งสองมีอาชีพเป็นช่างสักลาย จึงเดินทางเข้าติดตามความคืบหน้าคดีทำร้ายร่างกาย ที่สภ.บางใหญ่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 67 เวลา 16.40 น. ที่บริเวณตลาดบางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ผ่านมา 3 เดือนคดีไม่มีความคืบหน้า หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุยังได้ไปใช้อาวุธมีดข่มขู่ช่างสักรุ่นน้องที่ห้างดังย่านรัชโยธิน ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 11 พ.ค.67 เวลา 00.40 น.มีภาพจากกล้อฃวงจรปิดเป็นหลักฐานเช่นกัน โดยทั้งสองมีความหวาดกลัวเกรงว่าผู้ก่อเหตุที่ลอยนวลจะก่อเหตุในลักษณะเดิมซ้ำอีก
สืบเนื่องจากวันที่ 28 เม.ย. 2567 นายวสันต์ อายุ 45 ปี ได้เดินทางมาร่วมงานแข่งขันสักลาย ที่ตลาดบางใหญ่ซิตี้ โดยมาในฐานะคณะกรรมการตัดสินการประกวดลายสัก จากนั้นช่วงเวลา 16.30 น.
นายวสันต์ เสร็จจากงานและกำลังจะเดินทางกลับ โดยขณะเดินไปที่รถยนต์และกำลังจะสตาร์จรถกลับ หลังจากเลิกงานประกวดรอยสัก ได้มีนายพนิษฐ์นันท์ พร้อมพวกอีก 5 คน เดินมาหาผู้เสียหายที่รถยนต์ นายพนิษฐ์นันท์ ได้มาเปิดประตูรถและทำร้ายร่างกายโดยชกไฟที่ใบหน้าถูกบริเวณดั้งจมูก ต่อมากลุ่มของผู้ต้องหาได้เดินไปเปิดประตูรถอีกฝั่งรุ่มทำร้ายผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า เบ้าตาเขียวช้ำ ปากแตก จากนั้นได้ชักปืนขึ้นมาขู่พร้อมกับพูดจาข่มขู่ ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันไป ผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความ ที่สภ.บางใหญ่ พร้อมตรวจร่างกายพบว่ากระดูกดั้งจมูกแตก มีแผลฉีกขาดที่ปาก และเบ้าตาช้ำ
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะเกิดเหตุได้ โดยในภาพจะเห็นผู้เสียหายสวมเสื้อแขนยาวสีขาว สวมหมวกแก๊ปสีขาวกำลังเดินไปขึ้นรถยนต์ และได้ปิดประตู ระหว่างนั้นจะเห็นกลุ่มผู้ด่อเหตุเป็นชายฉกรรจ์จำนวนประมาณ 7 คนเดินตามมาที่รถยนต์ของผู้เสียหาย โดยชายเสื้อแดงได้เดินไปเปิดประตูรถและก้มไปทำร้ายร่างกาย ก่อนที่ชายเสื้อดำอีกคนจะเดินอ้อมไปที่ประตูรถอีกฝั่งแล้วเปิดเข้าไปทำร้าย ผ้านไปสักครู่มีชายคนที่ 8 เดินตามมายืนดูอยู่ห่างๆ ซึ่งกลุ่มชายดังกล่าวล้อมรถอยู่ประมาณ 5 นาทีก่อนที่จะเดินออกไป
ภาพจากกล้องมือถือพลเมืองดีบันทึกเหตุการณ์ได้ เป็นภาพกลุ่มชายดังกล่าวยืนอยู่ที่บริเวณท้ายรถ โดยมีชายเสื้อแดงและชายเสื้อดำเปิดประตูรถผู้เสียหายยืนพูดคุยอะไรบางอย่าง ซึ่งพลเมืองดีได้หยุดถ่ายไปก่อนหน้าเพราะเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะเข้ามาทำร้าย
จากการสอบถามนายวสันต์ ทราบว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน ทางจังหวัดนนทบุรีได้เชิญตน มาเป็นกรรมการตัดสินการประกวดลายสักที่ตลาดบางใหญ่ ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ลูกตนป่วย ตนจึงขอมาได้ไม่นาน หลังจากมาร่วมงานจนกระทั่ง 4 โมงเย็น จึงรีบกลับไปดูลูกทึ่ รพ.สุขุมวิท ขณะที่ตนเดินมาที่รถ และเก็บของอยู่ ทางกลุ่มคู่กรณีได้เดินมาเปิดประตูรถ และทำร้ายตนตามภาพวงจรปิด ส่วนสาเหตุตนคิดว่าน่าจะเรื่องจากที่ตนจะเปิดร้านสักที่ห้วยขวาง และสุขุมวิท ตนได้ลงประกาศหาสถานที่ ซึ่งก็มีน้องสกายที่โดนข่มขู่ เขาคอมเมนต์แต่ตนว่ามาใกล้บ้านเขา เดี๋ยวเขาช่วยหา ซึ่งน้องก็ได้รับข้อความจากคนที่ทำร้ายตนว่ามายุ่ง มาเ-ือกอะไร สำหรับในวันเกิดเหตุตนไม่ทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาทำอะไรที่งาน แต่กลุ่มเขาก็เป็นช่างสักเหมือนกัน ระหว่างที่เขาเปิดประตูกรถตนได้ยินเขาพูดว่าไอ้สั- เท่านั้นจากนั้นก็ชกมาที่ตนทันที โดยมีชายสองคนเข้ามารุมชกต่อยตน
จนตนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ขอบตา จมูก และศีรษะ ที่เจ็บหนักสุดคือจมูกกระดูกยุบลงไป ในกลุ่มที่เข้ามาทำร้ายตนทั้ง 7 คน ตนรู้จักแค่ 3 คนเคยเห็นหน้า ผ่านมา 3 เดือนเจ้ากน้าที่ตำรวจแจ้งว่ารอส่งอัยการ พร้อมกับประสานชุดสืบสวนไปแล้ว
นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ที่ตนมาร้องเพจกล้าที่จะก้าววันนี้เพราะคดีไม่ค่อยคืบหน้า คนร้ายยังออกงานอยู่ และตนต้องบินไปต่างประเทศบ่อยครั้งทำให้ตนเสียโอกาสหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาสอบสวน นอกจากนี้เขายังลอยนวลไปข่มขู่รุ่นน้องในวงการสัก ปล่อยคดีนานไปจะไม่ปลอดภัย เพราะตนอาศัยอยู่กับลูก 2 คน และตนต้องเดินทางคนเดียวตลอดทำให้เกิดความระแวง ซึ่งคนก่อเหตุยังพูดว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้ บุคลิกเขาในแวดวงการสักเหมือนเป็นมาเฟีย มีการพกอาวุธเข้าไปในห้างประจำ นอกจากนี้เขายังมีประวัติเคยก่อเหตุที่ สน.สุทธิสาร น้องคนที่จะเปิดร้านสักถูกทำร้ายจนเลิกทำร้านไป คดีที่สี่แยกบ้านแขก คดีทำร้ายตน คดีข่มขู่น้องสกายที่ห้าง และคดีที่ จ.กาญจนบุรี ทางสมาคมช่างสักก็เป็นห่วงเรื่องนี้สอบถามตนมา เขาทำตัวเหมือนเป็นผู้มีอิทธิพลต้องฟังเขา
นายสกาย กล่าวว่า วันที่ 11 พ.ค.67 ตนไปดูหนังกับพี่ชาย ซึ่งผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในพื้นที่โรงหนีงดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว จากนั่นได้มีการมาพูดคุยกันโดยบอกตนว่าไปยุ่งกับเรื่องนายวสันต์ ทำไม ก็มีการปัดมือตน แล้วบอกกว่าทำไมไม่จบ จนเขามีการชักมีดออกมา ตนก็พยายามจะไม่มีเรื่อง แต่เขาได้โทรเข้ามาหาตนให้ไปเจอกับเขาที่ลานจอดรถ พร้อมกับพูดกับตนว่าไม่ใช้มีดกับปืนก็ได้ แต่ตนไม่ได้ไปเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย หลังจากดูหนังเสร็จพี่ชายได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ซึ่งตำรวจได้มารับตนไปแจ้งความไว้แล้วในข้อหา ข่มขู่ด้วยอาวุธมีด
นายอธิวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาติดตามคดีที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามาว่าถูกทำร้ายร่างกายและข่มขู่ด้วยอาวุธปืน ซึ่งบุคคลดังกล่าวก่อเหตุมาหลายพื้นที่ เป็นบุคคลอันตรายนอกจากนี้ยังออกรายการทีวีเพื่อเพิ่มช่องทางให้ตน ซึ่งตนกำลังรวบรวมผู้เสียหายจากหลายๆพื้นที่ เพื่อนำเรื่องร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการ และถ้าใครที่ได้รับควสมเดือดร้อนจากบุคคลนี้ให้แจ้งเข้ามรที่ตนได้ ตนจะได้รวบรวมส่งดำเนินคดีไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติทำร้ายร่างกายผู้อื่นในพื้นที่ สน.บุปผาราม ซึ่งมีการเคลีย์กันไปเรียบร้อยแล้ว มีคดีทำร้ายร่างกายที่ สน.สุทธิสาร สน.พหลโยธิน สภ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งผู้เสียหายยังได้รับแจ้งจากคนในวงการช่างสักว่าผู้ก่อเหตุเคยทำร้ายร่างกายช่างสักที่ จ.ภูเก็ต แต่ผู้เสียหายหวาดกลัวไม่กล้าแจ้งความ แต่ได้ส่งภาพมาให้ผู้เสียหายเป็นหลักฐานยืนยัน
เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ พบว่าพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ จ.615/2567 ,616 และ 617 ลงวันที่ 16 ก.ค 67 ให้จับกุมนาย พนิษฐ์นันท์ , นาย ณัฐพงศ์ , นาย วิรัชย์พล และพวก โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ, ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส, มี ใช้ อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืน ติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง อาชญากรรม ,ช่างสัก ,นนทบุรี