รวบ "ไวท์ ตาคลี" ปลอมเป็น "สารวัตรแจ๊ะ" หลอกขายเสื้อให้แฟนคลับ

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ สืบสวนติดตามจับกุมตัว นายณรงค์ฤทธิ์ หรือ ไวท์ หรือ ไวท์ ตาคลี อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ ในข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" และข้อหา "ร่วมกันพยายามฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด"

สืบเนื่องจาก "ไวท์ ตาคลี" ปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ ตระเวนก่อเหตุหลอกลวงในโลกออนไลน์มาเป็นเวลาหลายปี จนมีทักษะแพรวพราวตามเทรนด์สังคมได้อย่างแนบเนียน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.1 จับกุมตัวไปเมื่อ 26 ก.พ. 65 ตามหมายจับ 2 หมายจับ หลังก่อเหตุแอบอ้างปลอมตัวเป็นฝ่ายไอทีของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แล้วลวงโกงเงินค่าฉีดวัคซีนไปหลายราย ก่อนจะได้ประกันตัวออกมา และอยู่ระหว่างสู้คดี แต่ยังไม่สำนึก ยังคงเดินสายหลอกลวงต่อมาเรื่อยๆ พัฒนารูปแบบจนเรียกได้ว่าไร้รูปแบบ เช่น ปลอมเป็นเภสัชเข้าไปในกลุ่มขายยาหลอกขายฟ้าทะลายโจร , หลอกขายหวยกองสลากพลัส จนในปัจจุบันมีหมายจับเพิ่มมาอีก 2 หมายจับ

ซึ่งเจ้าตัวยังก่อวีรกรรมแสบต้มตุ๋นเจ้าหน้าที่ เลียนแบบหนัง Catch me if you can ซึ่งเคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนึ่ง เข้าไปที่บ้านเพื่อจับกุมตัวนายไวท์ แต่โวยวายอ้างว่าถูกจับกุมไปแล้ว สร้างความไขว้เขวกับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะใช้จังหวะทีเผลอหลบหนีออกจากบ้านไป

จนล่าสุด วันที่ 23 ก.ค. 67 ชุดสืบนครบาลบุกไปถึงที่พักในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยขณะจับกุม เจ้าตัวยังคงใช้มุกเดิมโดยพยายามตุ๋นเจ้าหน้าที่ว่าตนถูกจับกุมไปแล้ว แต่ชุดสืบนครบาลไม่หลงกล ทำการจับกุมตัวทันที และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ พบว่ามีการปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ แล้วกำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหยื่อ

ในชั้นจับกุม นายไวท์ ให้การว่า เรื่องการขายโควตาวัคซีนนั้น ยอมรับว่าเป็นผู้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่ และประกาศหาคนที่ต้องการฉีดวัคซีนให้มาลงกับตน แต่ภายหลังไม่ได้การรับวัคซีน จึงเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไปฟ้อง ซึ่งในส่วนนี้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ต่อมาหลอกขายสมุนไพรฟ้าทลายโจร ได้สร้างเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่ ในช่วงเวลาเดียวกับเคสวัคซีน และไม่ได้มีการจัดส่งสมุนไพรให้ผู้สั่งซื้อ และล่าสุด ตนเองแอบอ้างเป็นสารวัตรแจ๊ะ กำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหล่าแฟนคลับ แต่มาถูกจับได้เสียก่อน

จากการตรวจสอบประวัติ พบเคยถูกดำเนินคดีอาญา 2 คดี

1. สน.ทุ่งสองห้อง ข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ใช้ตราสัญลักษณ์ปลอมของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นภาพของผู้ใช้โดยผิดกฎหมาย”

2. สภ.เมืองระยอง ข้อหา “ฉ้อโกง”