อาชญากรรม
เปิดใจผู้เสียหาย ผวาภัยสังคมโดนชายเร่ร่อนชก ทำร้ายร่างกายใต้รถไฟฟ้า
โดย jeeraphat_d
9 ก.ค. 2567
162 views
จากกรณีที่มีหญิงสาว 2 รายโพสต์เฟซบุ๊กว่า ถูกคนเร่ร่อนชกต่อยทำร้ายร่างกาย ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกันและห่างกันเพียงแค่ไม่ถึงสัปดาห์ โดยหญิงรายแรก ถูกชกต่อยบริเวณปากซอยสุขุมวิท 62 ใต้ BTS บางจาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน อีกรายนึงถูกชกต่อยบริเวณปากซอยสุขุมวิท 50 ใต้ BTS อ่อนนุช เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยที่ 2 จุดเกิดเหตุนั้นห่างกันเพียงแค่ประมาณ 1.2 กิโลเมตร
ทีมข่าวช่อง 3 ได้พูดคุยกับคุณบิ๋ม ผู้เสียหายรายแรกที่ถูกชกต่อย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน เธอเล่าว่า ในคืนนั้นประมาณ 22:00 เธอลงจาก BTS บางจาก มุ่งหน้ามาทางซอยสุขุมวิท 62 ก่อนจะข้ามถนนไปอีกฟากหนึ่งเพื่อกลับบ้าน โดยในระหว่างที่กำลังรอสัญญาณไฟแดงเพื่อข้ามถนนทางม้าลายนั้น บริเวณหางตาด้านขวาเธอก็สังเกตเห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีดำ ท่าทางปกติ ซึ่งเธอคิดว่า คงเป็นคนออกจากคอนโด เลยไม่ได้คิดอะไร
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็รู้สึกว่าเหมือนมีของแข็งบางอย่างกระทบบริเวณหน้าใต้จมูกฝั่งขวาอย่างรุนแรง แต่ไม่ถึงกับล้ม เมื่อเธอหันไป ก็เห็นว่าชายคนดังกล่าว มองจ้องหน้าเธอ แต่ไม่ได้มีการพูดจาต่อว่าด่าอะไร แล้วเดินจากไปตรงไปทางถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าเมือง ตอนนั้นเธอยืนมึนงงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อตั้งสติได้ เธอจึงรีบที่จะคว้าโทรศัพท์แล้วเดินตามด้วยความโมโห เพราะหวังจะจับผู้ก่อเหตุคนนี้ โดยเธอมาสังเกตภายหลังว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใส่รองเท้า จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนเร่ร่อน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะรู้ตัว เลยก้มหยิบก้อนหินข้างถนนแล้วทำท่าจะปาใส่เธอ ทำให้เธอหยุดชะงักและไม่เดินตาม ทิ้งระยะห่างสักประมาณหลายเมตร ก่อนที่เธอจะเดินไปขอความช่วยเหลือกับปั๊มน้ำมันที่อยู่ใต้รถไฟฟ้า
ปรากฏว่า เกิดการสื่อสารไม่เข้าใจกัน เลยทำให้เด็กปั๊ม ไม่ได้ออกมาให้การช่วยเหลือเธอ บอกแต่เพียงแค่ว่าคนติดยา แล้วเพิกเฉย ไม่ช่วยโทรหาตำรวจใด ๆ ตอนนั้นเธอรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก เพราะเธออยู่ตรงนั้นคนเดียว ไม่รู้จะทำอย่างไร โชคดีที่ มีวินมอเตอร์ไซค์ขับผ่านมาส่งผู้โดยสารตรงนั้นพอดี เลยขอความช่วยเหลือและทางวินมอเตอร์ไซค์ก็พาเธอไปส่งสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความ ตอนแรกมีการสอดส่องหาตัวคนเร่ร่อนคนนี้เผื่อจับตัวได้ แต่ก็ไม่พบตัวแล้ว คาดว่าน่าจะหลบเข้าซอยใดซอยหนึ่งไป
คุณบิ๋มเล่าอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นเธอได้รับบาดเจ็บบริเวณที่ปากแตก บวมช้ำและฟันกรามบิ่นแตก 2 ซี่ หลังเกิดเหตุสภาพจิตใจเธอย่ำแย่อย่างมากและกลายเป็นคนหวาดระแวง เวลาเดินกลับบ้านก็คอยต้องมองหน้ามองหลังหรือทางที่ดีที่สุด เมื่อลงจาก BTS ก็นั่งวินเข้าบ้านเลยเพื่อความปลอดภัย เพราะเธอไม่ทราบว่าคนเร่ร่อนที่ก่อเหตุกับเธอนั้นจะยังอยู่บริเวณแถวนี้อีกหรือไม่ แม้เธอจะทราบข่าวแล้วว่าตำรวจสามารถจับคนเร่ร่อนผู้ก่อเหตุคนนี้ได้ แต่เธอก็กังวลว่า หากได้รับการปล่อยตัว คนเร่ร่อนจะยังกลับมานอนในบริเวณแถวนี้อีกหรือไม่ แต่เธอยืนยันว่า เธอพอจะจำหน้าผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งจะสามารถทำให้เธอระมัดระวังได้มากขึ้น ส่วนปั๊มน้ำมันดังกล่าวเธอไม่ติดใจและเข้าใจในสถานการณ์วันนั้นของเด็กปั๊ม เพียงแค่ว่าเธอรู้สึกเสียใจและทำตัวไม่ถูกในเหตุการณ์วันนั้น
โดยหลังเกิดเหตุ ตนได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ไปยังทุกคนที่ต้องเดินทางกลับบ้านดึก ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงตัวคนเดียวว่า ให้ระมัดระวัง มองซ้ายมองขวามองหน้ามองหลังให้ดี โดยเฉพาะพื้นที่เปลี่ยว พยายามมีสติให้มาก อย่าเล่นโทรศัพท์มือถือ โฟกัสกับตัวเอง ให้รีบเดินเพื่อกลับถึงบ้าน มิฉะนั้นวันหนึ่ง อาจจะเกิดอันตรายเฉกเช่นเดียวกับเธอก็เป็นได้
ทีมข่าวช่อง 3 ได้พูดคุยกับคุณหมิง ผู้เสียหายรายที่ 2 ที่ถูกคนเร่ร่อนรายเดียวกันชกต่อยบริเวณปากซอยสุขุมวิท 50 ใต้ BTS อ่อนนุช เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยคุณหมิงเล่าว่า ในคืนนั้นประมาณ 21:30 ตนเดินลงมาจาก BTS อ่อนนุช มุ่งหน้าไปทางซอยสุขุมวิท 50 เพื่อเดินกลับเข้าบ้านภายในซอย เมื่อลงถึงพื้นเธอได้ยินเสียงคนตะโกนด่า ประมาณว่า "มึงมองหน้ากูหรอ มึงจะมาทำร้ายกูหรอ" โหวกเหวกโวยวายใหญ่โต แต่ตนไม่ได้สนใจและเดินมุ่งหน้าเพื่อจะกลับคอนโดตามปกติ
หลังจากนั้นไม่นาน ตนเห็นจากหางตาว่า มีชายคนหนึ่งวิ่งเข็นรถเข็นไล่หลังมาอย่างรวดเร็ว จนเห็นท่าไม่ดีเลยรีบก้าวเท้าอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทัน ถูกชายคนนี้ต่อยเข้าที่บริเวณแก้มข้างขวา พร้อมมีการมองหน้าตนด้วยความอาฆาตและยังด่าว่ามึงจะมาทำร้ายกู ก่อนที่เข็นรถเข็นมุ่งไปทางซอยสุขุมวิท 50
ตอนนั้น ตนทำอะไรไม่ถูก เลยวิ่งไปขอความช่วยเหลือกับวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่บริเวณนั้น กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์จึงพากันมาล้อมจนสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ โดยตอนนั้นผู้ก่อเหตุมีท่าทีที่สงบ แต่ยังคงมองจ้องหน้าตนอย่างต่อเนื่องเหมือนอาฆาตแค้นตน ทั้ง ๆ ที่ตนไม่รู้จักและไม่เคยเจอคนเร่ร่อนคนนี้มาก่อน
หลังเกิดเหตุ ตนได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.พระโขนง และทางตำรวจก็มาควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีเบื้องต้นแล้ว โดยตนเองได้รับบาดเจ็บฟกช้ำบริเวณกกหูและแก้มฝั่งขวา รวมทั้งมีแผลบริเวณริมฝีปากล่าง
คุณหมิงเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า หลังเกิดเหตุตนรู้สึกหวาดระแวงและกลัวไปเลย เพราะที่ผ่านมา ตนก็เจอคนเร่ร่อนในบริเวณนี้ แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวว่ามีการทำร้ายร่างกายคนอื่นมาก่อน จนมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก คนเร่ร่อนคนนี้ตนก็ไม่เคยเจอหน้ามาก่อนในบริเวณดังกล่าว และก็ยังกังวลกลัวว่าคนเร่ร่อนคนนี้หากได้รับการปล่อยตัว ก็จะกลับมาอยู่บริเวณพื้นที่ตรงนี้อีก เชื่อว่าคนร้ายอาจจะก่อเหตุมากกว่าตนและผู้เสียหายที่บางจาก
จึงอยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องเดินในที่เปลี่ยวว่า ให้หมั่นสังเกตตัวเองและบริเวณรอบข้างดูหน้าดูหลังให้ดี เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับที่ตนได้ประสบเจอ
ด้านตำรวจ สน.พระโขนง ให้ข้อมูลกับทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ถึงกรณีที่คนเร่ร่อนไล่ทำร้ายร่างกายหญิงสาว 2 ราย ในเวลาไล่เลี่ยกันตลอดแนวถนนสุขุมวิทว่า เตรียมจะนำตัวส่งฟ้องที่ศาลอาญาพระโขนงภายในวันนี้โดยเร็วที่สุด โดยจะดำเนินคดีกับทุกข้อหากับตัวผู้ก่อเหตุ ไม่ว่าจะเข้าหาใดก็ตามที่พบเจอ เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตรายแก่สังคมอย่างมาก หากถูกปล่อยตัวไปจะเกิดอันตรายแก่สังคมได้ โดยยืนยันว่า ตอนนี้ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจ ยังไม่มีการปล่อยตัวแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องของความปลอดภัยนั้น ทางตำรวจ สน.พระโขนง กวดขันอย่างเต็มที่ในการเฝ้าระวังความปลอดภัยอยู่แล้วและจะเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้นหลังจากนี้ เพราะยอมรับว่า ปัญหาคนเร่ร่อนถือเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก จะพยายามควบคุม จับตาและกวาดล้างให้มากที่สุด ส่วนเรื่องปัญหาไฟส่องสว่างที่ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชน จะดำเนินการประสานกับทางกรุงเทพมหานครในการติดตั้งไฟส่องสว่างต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง