อาชญากรรม

รวบเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเป็นตำรวจหลอกคุณปู่วัย 81 สูญเงินกว่า 22 ล้าน

โดย nutda_t

25 มิ.ย. 2567

4.7K views

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 67 มีคุณปู่วัย 81 ปี อดีตหัวหน้างานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตกเป็นเหยื่อถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงิน 19 ล้านบาท จำนองบ้านอีก 3 ล้าน หมดเงิน 22 ล้าน สูญทั้งเงินเสียทั้งบ้าน จนอยากปลิดชีพตัวเอง และได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท.

โดยคดีนี้ ผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพแต่งกายปลอมเป็นตำรวจวิดีโอคอลมาหลอกว่า บัญชีธนาคารของผู้เสียหายได้พัวพันกับการทุจริตในหน่วยงานราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีผู้ร่วมทุจริตเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่-ผู้น้อยกว่า 100 คน โดยอ้างว่ามีการนำเงินจากการทุจริต มาฝากผ่านบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย โดยมิจฉาชีพแจ้งว่าเงินที่อยู่ในบัญชีของผู้เสียหายต้องตกเป็นของกลางในคดีอาญา แต่หากต้องไปสอบสวนที่โรงพักจะลำบาก จึงแนะนำให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอน โดยติดต่อกันผ่านทางแอป Line

จากนั้น มิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ได้ส่งรูปภาพที่อ้างว่าเป็นคำสั่งจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งหมด รวมทั้งส่งภาพที่อ้างว่าเป็นคำสั่งของ สำนักงาน ป.ป.ช. ให้ผู้เสียหายโอนเงิน หากผู้เสียหายไม่ทำตามขั้นตอนจะถูกดำเนินคดี หรือ อายัดทรัพย์ ผู้เสียหายเกิดความกลัว จึงหลงเชื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพจำนวน 19 ล้านบาท



หลังจากนั้นมิจฉาชีพยังหลอกให้ผู้เสียหายจำนองขายฝากบ้านอีก 3 ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยอีก 450,000 บาท โดยให้ผ่อนชำระดอกเบี้ยเดือนละ 37,000 บาท และให้คืนเงินต้น 3 ล้านบาท ที่เอาบ้านไปจำนองขายฝากไว้ภายในระยะเวลา 1 ปี หลังได้เงินจากจำนองขายฝากบ้านอีก 3 ล้านบาท ก็ได้โอนเงินให้แก่มิจฉาชีพไป รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 22,095,000 บาท นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังแจ้งให้โอนเงินเป็นค่าค้ำประกันทรัพย์สินที่โอนไปให้มิจฉาชีพอีกจำนวน 2.2 ล้านบาท แต่ไม่มีเงิน จึงปรึกษาลูกชายที่อยู่ต่างประเทศ จึงได้รู้ว่าพ่อน่าจะถูกมิจฉาชีพหลอก จึงรีบกลับประเทศไทย พาพ่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ บช.สอท. ในเวลาต่อมา

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ดำเนินการสืบสวนกรณีดังกล่าวจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้แล้วหลายราย

ต่อมา ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ จนทราบว่ามีหนึ่งในเจ้าของบัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนเงินไป ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.หนองคาย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนเข้าจับกุม

จนสามารถเข้าจับกุม นางอัจฉรา อายุ 54 ปี ชาวหนองคาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน , เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,มิจฉาชีพ

คุณอาจสนใจ

Related News