อาชญากรรม
"บิ๊กเต่า" ยอมรับ น้ำมันเถื่อนเหลือแค่พอขับเรือได้ เร่งสอบลูกเรือ 8 คนโยงคนสั่งการ
17 มิ.ย. 2567
297 views
พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยหลังจากตำรวจมีการขึ้นไปตรวจสอบบนเรือ ของกลาง 3 ลำ เบื้องต้น พบว่าบนเรือแต่ละลำเหลือน้ำมันเล็กน้อย ซึ่งเพียงพอสำหรับแค่การขับเคลื่อนเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถยืนยันเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ โดยขนาดความลึกของถังอยู่ที่ 3.8 เมตร แต่เหลือเพียง 1 เมตร ขอเวลาให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบให้ชัดเจน
โดยเรือทั้ง 3 ลำ มีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ส่วนตัวเชื่อว่า น้ำมันของกลางที่อยู่บนเรือไม่ใช่เป้าหมายสำคัญของกลุ่มผู้ต้องหา เพราะสามารถขายได้เพียงลิตรละ 10 บาท มูลค่ารวม 4 -5 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนน้ำมันที่สูญหายไป ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ และเรือทั้ง 3 ลำก็ยังต้องถูกอายัดเป็นของกลาง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแสดงตัวยืนยันเป็นเจ้าของเรือ ศาลจึงออกหมายจับในเรื่องของการลักทรัพย์ที่เป็นของกลางเท่านั้น
ซึ่งแน่ชัดว่า เหตุการณ์นี้ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่บกพร่องต่อหน้าที่ ขณะนี้สั่งการว่าต้องมีความชัดเจนในเรื่องการสอบสวน ภายใน 7 วัน ต้องมาดูว่าการบกพร่องต่อหน้าที่นั้น ทำให้เกิดความเสียหายมากน้อยเพียงใด ก่อนเอาผิดตามมาตรา 157 ยืนยันว่าไม่มีละเว้น ดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 8 คน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ รวมถึงอีก 7 คนที่หลบหนี อยู่ระหว่างการติดตามตัว จึงอยากฝากถึงผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีว่าอยากให้เข้ามอบตัว และให้การกับตำรวจ เพื่อเป็นประโยชน์ ต่อการทำคดี ซึ่งเจ้าของเรือถือเป็นคนสำคัญ ส่วนผู้ต้องหา 28 คนในคดีที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ก็จะต้องส่งฟ้องไป ตามกระบวนการทางกับกฎหมาย พร้อมทั้งเตรียม เพิกถอนการประกันตัว
โดยเชื่อว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับทั้งหมดนี้เป็นเพียงลูกจ้าง ส่วนตัวการจะสั่งงานผ่านทางโทรศัพท์ในการซื้อขายน้ำมันเถื่อนเท่านั้น ส่วนใหญ่ที่ขึ้นเรือไปเป็นลูกจ้างก็จะกินนอนอยู่บนเรือโดยมีสุนัขเฝ้าเรืออยู่ด้วย และไม่ได้ติดต่อกับทางครอบครัว
ส่วนพยานหลักฐานที่จะเชื่อมโยงถึงเจ้าของเรือหรือผู้สั่งการ จะมีการตรวจสอบทางอิเล็กทรอนิกส์อีกครั้ง ในครั้งนี้อาจจะมีส่วนให้เป็นการเพิ่มโทษกับตัวนายโจ้ ปัตตานี ในส่วนคดีแรกที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ซึ่งยอมรับว่าตัวนายโจ้เองไม่ธรรมดา ใช้เงินเป็นอาวุธ ตามจับมานานแล้วแต่ก็หลุดรอดไปได้ทุกครั้ง
หลังจากที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเรือเสร็จสิ้น และมีการพูดคุยกับผู้ต้องหาเบื้องต้นก็ได้มีการ นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาตั้งแถว บนเรือแต่ละลำ เพื่อที่จะเตรียมควบคุมตัวขึ้นรถตู้ ไปสอบปากคำ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ซึ่งคาดว่าจะมีการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 8คน ตลอดคืน โดยเฉพาะในประเด็น เรื่อง ของกลางที่หายไปรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้สั่งบงการ และเส้นทางการหลบหนี รวมถึงผู้ต้องหาอีก 7 คนที่ยังหลบหนีว่ามีข้อมูล ว่าหลบหนีอยู่พื้นที่ใดหรือไม่
โดยระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาจากเรือของกลางลงมาที่ท่าเทียบเรือ ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามทั้ง 8 คน เกี่ยวกับเกลือของกลางที่หายไป และผู้สั่งการ รวมถึงการใช้ชีวิตระหว่างที่หลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชา ว่ามีการนำน้ำมันไปขายที่ใดบ้าง รวมถึงมีการสอบถามถึงสุนัขบนเรือซึ่งอยู่ประจำ แต่ละเรือ โดยมี 1 ในลูกเรือที่บอกว่า หากถูกจับไป ก็คงจะคิดถึงสุนัขที่อยู่บนเรือ แต่ในส่วนของประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทางคดี ไม่มีผู้ต้องหาคนใด ยอมตอบคำถามกับสื่อมวลชน ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นรถตู้ เดินทางออกไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง