ตาโมโหหลานพาเพื่อนมามั่วสุมที่บ้าน ไม่ยอมไปเรียน เจอตายิงถล่มห้องดับ 1

วันที่ 9 มิถุนายน 2567 เวลา 21.00 น. ร.ต.อ.ชัชวินทร์ ศรีแก้วหล่อ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองหนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 เกิดเหตุฆ่ากันตายที่บ้านข่าใหญ่หมู่ที่ 3 ตำบลหัวนา อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วประสานแพทย์เวร ตำรวจชุดสืบ และชุดสายตรวจออกไปที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ตำรวจได้พบนายบัวเรียน อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน กำลังนั่งรอมอบตัวพร้อมอาวุธปืนพกสั้น ออโตเมติกขนาด 9 มม. ยี่ห้อ STI GP 6 พร้อมแม็กกาซีนเปล่า 1 อัน โดยบอกว่าใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในห้องพักของหลานชาย ซึ่งพาเพื่อนมามั่วสุม ดื่มน้ำกระท่อม ส่งเสียงเอะอะ เปิดเพลงเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านแทบทุกวัน จำนวน 5 นัด ภายหลังทราบว่า ถูกเพื่อนของหลานชายคนหนึ่งเสียชีวิตอยู่ในห้อง ตำรวจจึงควบคุมตัว นายบัวเรียน พร้อมอาวุธปืน ไปสอบสวนที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู แล้วจึงประสาน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาร่วมชันสูตรพลิกศพ

หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบ และภายในห้องของบ้านหลังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กแยกมาจากบ้านหลังใหญ่ ซึ่งบ้านหลังนี้ มีนาย A อายุ 15 ปี หลานชายนายบัวเรียนใช้อยู่อาศัยคนเดียว เบื้องต้นพบศพชายวัยรุ่น ทราบชื่อภายหลังคือ เด็กชายบี อายุ 15 ปี ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในห้อง และบริเวณที่พบศพซึ่งอยู่ใกล้กับประตูห้อง เจ้าหน้าที่พฐ.พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้นจำนวน 5 ปลอก แต่ไม่พบหัวกระสุนคาดว่าน่าจะทะลุหน้าต่างออกไปข้างนอก ส่วนที่ศพของชายวัยรุ่น สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลที่ไหล่ซ้าย คาดว่ากระสุนจะฝังใน บริเวณประตูห้องชั้นในที่พบศพ พบรอยเท้าเปื้อนเลือด วิ่งออกมาจากห้องที่เกิดเหตุ ภายหลังพบว่าขณะเกิดเหตุมีเด็กวัยรุ่นอายุไล่เลี่ยกัน มีจำนวน 5 คน รวมทั้งนาย A หลานเจ้าของบ้านหนึ่งในนั้นเป็นเด็กวัยรุ่นเพศหญิง หลังเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นเหล่านั้นก็วิ่งหลบหนีสลายตัว รวมทั้งนาย A หลังเก็บหลักฐานทุกอย่างเสร็จสิ้น จึงส่งศพผู้ตายไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู เพื่อส่งผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลจังหวัดเลยต่อไป

นางทองเรียบ ภรรยาของนายบัวเรียง กล่าวว่า นายเอกหลานชายของตนมักพาเพื่อนมามั่วสุมอยู่ในบ้านหลังเล็ก เป็นประจำทุกวัน สร้างความระอาใจให้กับตนและสามีอย่างยิ่ง วันนี้นายเอก็พาเพื่อนมามั่วสุมอยู่ในบ้านหลังเล็ก แล้วปิดประตูห้องไม่ให้ใครเข้าไปรบกวน เปิดเพลงเสียงดังลั่น ตนเองไปเคาะประตูเรียกก็ไม่เปิด เวลาประมาณ 20.00 น. นายบัวเรียน สามีกลับมาจากไปทำงานให้อาจารย์คนหนึ่งในเขตตำบลเดียวกัน ตนจึงไปบอกให้ไปเรียกหลานชาย เพื่อห้ามปราม นายบัวเรียนมีอาการหงุดหงิดเดินไปตบประตูเรียกหลานชายหลายครั้ง ก็ไม่เปิดจึงตะโกนว่า “ไม่เปิดจะยิงเข้าไป” กลุ่มหลานชายและเพื่อนต่างก็ไม่เปิดประตู นายบัวเรียนโมโหสุดขีดเดินกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ คว้าปืนเดินกลับมาที่บ้านหลานชาย นางทองเรียบบอกว่าตนตกใจมากพยายามห้ามว่าอย่าทำ แค่สั่งสอนก็พอ แต่ไม่กล้าเข้าไปขวาง เพราะกลัวปืนในมือนายบัวเรียน ตนเดินตามไปเห็นแต่สามีผลักประตูชั้นนอกเข้าไปในห้องชั้นในที่หลานชาย และเพื่อนมั่วสุมอยู่ปิดประตูแน่น เห็นนายบัวเรียนกระหน่ำยิง จนหมดแมกกาซีน ประมาณ 5 นัด แล้วเดินกลับไปบ้านตนตกใจมาก มารู้ภายหลังว่ากระสุนปืนถูกเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่อยู่ในห้อง นอนจมกองเลือด จึงรีบโทรแจ้ง ศูนย์กู้ชีพ 1669

ส่วนหลานชาย และเพื่อนที่เหลือต่างแตกวิ่งหนีกระจัดกระจาย ภายหลังจึงโทรแจ้งเหตุไปที่ 191 จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มา ขณะเดียวกันนั้นนอกเส้นกั้นของตำรวจพบว่า มีชาวบ้านมามุงดูมากมายแม้จะเป็นเวลาดึกดื่น มีญาติของนาย B ผู้ตายต่างก็ส่งเสียงโวยวายด่านายบัวเรียนว่า แก่แล้วยังมีจิตใจเหี้ยมโหดฆ่าเด็กได้ลงคอ เจ้าหน้าที่จึงออกมาป้องปรามกลุ่มคนเหล่านั้นจึงค่อยเงียบไปในที่สุด

ผู้สื่อข่าวติดตามมาที่แผนกสืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้พบกับนายบัวเรียน มือปืนผู้ก่อเหตุ ให้การว่าปืนเป็นอาวุธของลูกชายซึ่งเป็นทหาร เก็บไว้ในบ้าน ยอมรับว่าตนเป็นคนใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงถล่มเข้าไป โดยไม่เห็นตัวผู้อยู่ในห้อง เนื่องจากปิดประตูมิดชิด สาเหตุที่มีอารมณ์หงุดหงิด ก็เนื่องจากว่าเสียใจและผิดหวังกับหลานชาย ที่ทำตัวไม่เหมาะสม ประพฤติตนเกเรไม่ไปเรียน ทั้ง ๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าจะไปเรียน ทั้งไปจ่ายเงินค่าหนังสือ ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายต่างๆ  หมดแล้ว แต่ถึงเวลาก็ยังไม่ไปเรียน จนอาจารย์ที่วิทยาลัยโทรมาตามเมื่อวานนี้ก็ยังไม่ไป ตนกล่อมว่าไปเข้าเรียนสักปีก่อนค่อยย้ายกลับมาแล้วตาจะซี้อรถ จยย.รุ่น PCX ที่นาย A อยากได้ให้ แต่นาย A ก็ไม่ยอมไปเรียน

วันนี้เมื่อกลับมาภรรยาเล่าให้ฟังว่า หลานชายพาเพื่อนมามั่วสุมอีก จึงเดินไปตบประตูเรียกไม่ยอมเปิด ไม่ยอมเปิดก็เลยยิง โดยไม่รู้ว่าถูกใครหรือไม่ เพราะยิงเสร็จก็กลับมานั่งที่บ้าน ภายหลังได้ยินเสียง เพื่อนของหลานแตกตื่นร้องบอกกันกับชาวบ้านและยายจึงรู้ว่า มีคนถูกปืนที่ตนยิงเข้าไปจนถึงแก่ความตาย ตนปลงตกจนนั่งรอตำรวจให้มาจับไม่หนีไปไหน ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นาย A พ่อกับแม่แยกทางกัน ตั้งแต่ยังแบเบาะนายบัวเรียนและนางทองเรียบเลี้ยงดูมาแทนเพราะแม่นาย A ไปทำงานที่ประเทศเกาหลี

เบื้องต้นตำรวจ แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อน ข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อไป