อาชญากรรม

มือฆ่าหมกคอนโดหนีไปพัทยา พบย่องซื้อทองแท่ง 28 บาท ญาติยังไม่เผาศพ ลั่นหนีได้หนีไปอย่าคิดว่ารอด

โดย nattachat_c

30 พ.ค. 2567

1.1K views

จากกรณี คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ นายไพศาล ทองอ่อน วัย 54 ปี ภายในคอนโดพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยเหตุเกิดขึ้นคืนวันที่ 20 พ.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 21 พ.ค. ลักษณะเป็นฆ่าปาดคอ และมีบาดแผลตามส่วนอื่นของร่างกายร่วม 15 แผล หลังจากนั้น ฆาตกรโหดได้หมกศพไว้ในห้อง จนหลายวันต่อมา วันที่ 26 พ.ค. ศพส่งกลิ่นเหม็นจนลูกบ้านทนไม่ไหว ร้องเรียนนิติบุคคล และมีการพบว่าได้เกิดเหตุการณ์ฆ่าคนตาย  


ล่าสุด ชุดสืบสวน จ.นนทบุรี สืบทราบว่า คนร้ายนั่งรถหลบหนีมาเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังลงพื้นที่ พร้อมประสานชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ออกตามหาคนร้าย ณ จุดต่าง ๆ จนไล่กล้องวงจรปิด พบว่า เมื่อเวลา 21.22 น. วันที่ 27 พ.ค. 67 คนร้ายเดินอยู่บริเวณชายหาดพัทยา บริเวฯถนนเลียบชายหาด ระหว่าง ซอย 10 - 11 


ต่อมา พบว่า คนร้ายเข้าไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอย 11 ถนนเลียบชายหาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปยังโรงแรมดังกล่าว ปรากฎว่า ได้เช็กเอาต์ออกไป ช่วงเที่ยงของวันที่ 28 พ.ค.


โดยตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนนทบุรี กำลังสืบสวนสอบสวนต่อเนื่อง เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้

-------------

มีคลิปกล้องวงจรปิด วันที่ 20 พ.ค. 67 เวลา 21.42 น. พบว่า ผู้ต้องสงสัยได้เข้าไปซื้อมีด ที่ห้างย่านรัชโยธิน โดยชุดที่สวมใส่เป็นชุดเดียวกับชุดที่ฆ่าผู้ตาย


ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ไม่ได้เป็นการทะเลาะกันโดยไม่ตั้งใจ แต่มีการเตรียมการไว้ก่อน แต่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุแน่ชัด

----------------

นายประสงค์ ทาตทา อายุ 68 ปี คนขับรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง  เดินทางมาเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี


เนื่องจากได้รับคนร้ายขึ้นรถแท็กซี่ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา จากหน้าห้างย่านรัชโยธิน


โดย นายประสงค์เปิดเผยว่า ช่วงประมาณ 3 - 4 ทุ่ม ผู้ต้องสงสัยได้โบกเรียกรถตนที่บริเวณหน้าห้างเมเจอร์รัชโยธิน ให้ไปส่งที่หน้าห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ระหว่างที่นั่งรถ ผู้ต้องสงสัยไม่ได้มีท่าทีพิรุธอะไร เพียงแต่นั่งสวมฮู้ดคลุมศีรษะไว้ แต่ไม่ได้สวมแว่นตา


ตนไม่เห็นว่ามีกระเป๋าสะพายใด ๆ ติดตัวมา นอกจากในมือจะมีโทรศัพท์อยู่ 2 เครื่อง ซึ่งก็มีข้อความดังมาตลอดเวลา แต่ไม่เห็นว่าชายคนนี้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุยอะไรกับใคร


จนกระทั่ง รถวิ่งมาถึงใต้สะพานลอยฝั่งตรงข้ามพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน ค่าโดยสารเป็นเงินจำนวน 90 บาท ชายคนนี้จึงยื่นแบงก์ร้อยมาให้ ตนก็ถอนเงินกลับ 10 บาท ไม่ได้สนทนาพูดคุยอะไรกัน


ผู้สื่อข่าวได้เปิดภาพคนร้ายจากโทรศัพท์มือถือให้ดู ซึ่งนายประสงค์ยืนยันว่า เป็นคนคนเดียวกันกับที่เรียกรถแท็กซี่ตน จากหน้าเมเจอร์รัชโยธินให้มาส่งที่ฝั่งตรงข้ามพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน ก่อนจะขึ้นสะพานลอยข้ามไป ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คนร้าย ได้ไปแวะซื้อมีดที่ร้านสะดวกแห่งหนึ่งในเมเจอร์รัชโยธิน ก่อนจะนั่งรถย้อนกลับมาในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี อีกครั้ง

----------------
วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ช่วงบ่าย ผู้ต้องสงสัยได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปสแกน QR Code ซื้อทองคำที่ร้านทองย่านลาดพร้าว โอนเงินจาก iPhone XR สีแดงของผู้ตาย 3 รอบ รวม ล้านเศษๆ 


ต่อมา พบว่า ได้กลับมายังร้านเดิมอีกครั้ง แต่รอบนี้ใช้บัตรเครดิตของผู้ตายซื้อทองคำ 3 บาท มูลค่ากว่า 100,000 บาท และใช้เปิดห้องโรงแรมหรูแถวลาดพร้าว 2 คืน

----------------

น.ส.ไอซ์ (นามสมมุติ ) 24 ปี เจ้าของห้องพักชั้น 5 คอนโดที่เกิดเหตุ เดินทางมาเข้าให้ปากคำกับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า


กลางดึกวันที่ 20 พ.ค.ช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ตนพักอาศัยอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันมาจากชั้นบน เป็นเสียงทะเลาะกันในทำนองที่ว่า "เฮ้ย ทำไมอ่ะ"


แล้วก็มีเสียงคล้ายคนผลักกันไปมา ก่อนที่สักพักจะมีเสียงเก้าอี้ เสียงของตกตามมา ทีแรก ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าเป็นเสียงคนทะเลาะกันตามปกติ


ก่อนที่สักพักต่อมา จะได้ยินเสียงคนร้องตามมาว่า "กูโดนแล้ว ช่วยด้วย" จากนั้น ก็มีเสียงเหมือนคนกระทืบเท้ากับพื้นตามมาหลายครั้ง ซึ่งเสียงดังมาก จนตนคิดว่าถ้าทะเลาะกันขนาดนี้ คงตายแล้วมั้ง


จนสักพัก ตนก็ได้ยินเสียงร้องช่วยด้วยตามมาอีกครั้ง แต่เหมือนเสียงร้องไม่เต็มคำ ตนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายบันทึกเสียงเพื่อแจ้งนิติคอนโด แต่เสียงก็เงียบไป ตอนนั้นเป็นเวลา 23.37 น.


น.ส.ไอซ์ เล่าอีกว่า หลังจากนั้น ถัดมาก่อนวันพระใหญ่ หรือวันวิสาขบูชา ตนเกิดอาการนอนไม่หลับ ตั้งแต่ช่วงตี 1 ไปจนถึงตี 5 มันมีความรู้สึกอยากร้องไห้ตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ตนไม่ได้เป็นอะไรมาก่อนเลย นอนดูซีรีส์ตามปกติ อยู่ดี ๆ ก็อยากร้องไห้ออกมา


และคืนก่อนวันที่จะพบศพคืนหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกเจ็บปวดที่ข้อพับแขนซ้ายเหมือนถูกเฉือนถูกกรีด ตนยังรู้สึกว่าทำไมมันเจ็บแบบนี้ พอตอนเช้ามา อาการเจ็บปวดก็หายไป


นอกจากนี้ ตนยังฝันอีกด้วยว่า มีคนที่ตนไม่รู้จักมาก่อน มาขออาหารตนกิน ซึ่งตนก็เห็นหน้าเขาแค่ในฝัน โดยที่ไม่เคยเห็นหน้าคนตายมาก่อน พอมาเห็นภาพคนตายในข่าว ก็ปรากฎว่าใช่เขาจริง ๆ ด้วย เป็นคนเดียวกันกับคนในฝัน

----------------

นายฉัตรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี  พี่ชายของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากเสร็จจากการให้ปากคำ ก่อนเดินทางกลับ โดยได้เผยว่า


ยังไม่ไปรับร่างน้องชายมาทำพิธีทางศาสนา เพราะทางครอบครัวต้องการรอให้ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ก่อน เลยยังไม่เผาศพ เชื่อว่าภายในอีกไม่กี่วันนี้ตำรวจน่าจะติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้


ตนเองคิดว่า วิญญานของน้องชายจะติดตามคนร้ายไปตลอดเวลา เพราะมีคนเห็นเขาจริง ๆ ทางครอบครัวก็เชื่อ และทำบุญให้กับเขาทุกวัน ตนเชื่อมั่นลึก ๆ ว่า วิญญาณของน้องชาย จะช่วยดลจิตดลใจให้ตำรวจตามจับคนร้ายที่ก่อเหตุได้ในที่สุด


พี่ชายของผู้เสียชีวิต ยังบอกอีกว่า แม่เคยเห็นผู้ต้องสงสัยมากับน้องชายที่บ้านแต่นานมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่เคยคุยกัน ไม่รู้ว่าชื่ออะไร ไม่รู้ว่าไปรู้จักกันตอนไหน แต่เป็นคนไทยแน่นอน เพราะพูดไทยชัด


ตอนนี้ สภาพจิตใจแม่ค่อนข้างย่ำแย่ เพราะอยู่กับน้องชายมาตลอด ประกอบกับกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะผู้ต้องสงสัยได้ข้อมูลของน้องชายไปเยอะมาก


ส่วนมูลเหตุจูงใจ เชื่อว่าต้องเป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ และคงวางแผนมานานแล้ว จึงเข้ามาตีสนิท จนน้องชายไว้ใจ


ขอฝากถึงผู้ก่อเหตุ ที่ตอนนี้ยังหลบหนีอยู่ว่า “ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ไป คนเราคงไม่ดวงดีไปตลอด ทุกคนในครอบครัวไม่มีใครอโหสิกรรมให้ ถ้าครอบครัวตัวเองโดนแบบนี้บ้างจะรู้สึกอย่างไร และขอให้กอดทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของตัวเองไว้ให้ดี เชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องได้รับกรรม”


พี่ชายผู้เสียชีวิต ยังบอกด้วยว่า ได้จ้างเจ้าหน้าที่อาสาของมูลนิธิฯ ไปทำความสะอาดห้องของน้องชายเรียบร้อยแล้ว และยกทรัพย์สินของน้องชายทั้งหมด ให้กับเจ้าหน้าที่นำไปใช้ หรือไปบริจาค เพื่อเป็นการทำบุญให้กับน้องชาย และวันเสาร์นี้ ทางคอนโดจะนิมนต์พระมาทำบุญด้วย

-----------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/jDDrGixY-eQ


คุณอาจสนใจ

Related News