อาชญากรรม

เปิดไทม์ไลน์ คืนเกิดเหตุ 'ฆ่าปาดคอ' หนุ่มใหญ่ หมกคอนโด - คนร้ายสวมรอยเป็นผู้ตาย ตอบแชทเพื่อน

โดย nattachat_c

28 พ.ค. 2567

326 views

ไทม์ไลน์วงจรปิด ฆ่าหมกศพในคอนโดฯ ก่อนเกิดเหตุพบผู้ตายเดินเข้าลิฟต์ขึ้นห้องกับผู้ต้องสงสัย ใส่เสื้อฮู้ดคลุมศีรษะ สวมแว่นดำ-แมสก์ปกปิดใบหน้า กล้องอีกมุมจับภาพเดินลงมารื้อค้นทรัพย์สินในรถแล้วกลับเข้าห้องผู้ตายอีกรอบ ก่อนเดินออกจากคอนโดหลบหนี คนร้ายขโมยโทรศัพท์สวมรอยเป็นผู้ตาย ตอบแชทกลุ่มเพื่อน


จากกรณีพบศพ นายไพศาล อายุ 54 ปี ถูกฆ่าเสียชีวิตภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน สภาพงามวงศ์วานศพมีบาดแผลถูกแทงตามร่างกายกว่า 10 แห่ง ลำคอถูกปาด 2 แผล แขน-ขา มีรอยมีดฟันและมีการอำพรางศพ เอาหมอน ผ้าห่ม ภายในห้องมากองทับศพไว้เป็นเนิน ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน


ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดวันที่ 20 พ.ค. 67 คาบเกี่ยววันที่ 21 พ.ค. 67 พบว่า


เวลา 22.24 น. ของวันที่ 20 พ.ค. รถของผู้เสียชีวิต ได้ขับเข้ามาจอดภายในคอนโด แล้วเห็นผู้เสียชีวิต สวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ เดินลงมาจากรถพร้อมกับชายรูปร่างผอม สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น เสื้อฮู้ดสีดำ สวมหน้ากากอนามัย และแว่นสายตา โดยใส่ฮู้ดคลุมศีรษะอยู่ตลอด โดยทั้งคู่ได้เดินเข้าคอนโดไปพร้อมกัน


เวลา 22.26 น. ของวันที่ 20 พ.ค. ผู้เสียชีวิตและผู้ต้องสงสัย ขึ้นลิฟต์มา โดยมีการพูดคุยกันเรื่องรูปร่าง โดยผู้เสียชีวิตถามว่า “ไหนดูสิ พุงใครใหญ่กว่ากัน” และถามว่า “เล่นฟิตเนสหุ่นก็ต้องลีนสิ”


เวลา 01.01 น. ของวันที่ 21 พ.ค.ผู้ต้องสงสัยได้ลงลิฟต์มาเพียงคนเดียว โดยสังเกตว่ามีการสวมแว่นกันแดด ทับแว่นสายตาที่สวมอยู่แล้วอีกทีหนึ่ง และพยายามเอาฮู้ดคลุมหัว จับหัวอยู่ตลอด


เวลา 01.05 น. ของวันที่ 21 พ.ค. ผู้ต้องสงสัยเดินกลับมาที่รถของผู้เสียชีวิต และใช้เวลาอยู่ที่รถประมาณ 15 นาที


เวลา 01.23 น. ผู้ต้องสงสัยจะเดินกลับมาขึ้นลิฟต์ไปบนห้อง โดยถือถุงผ้า และหอบของบางอย่างออกมาด้วย


เวลา 04.05 น. ของวันที่ 21 พ.ค. ผู้ต้องสงสัยได้กลับลงลิฟต์มาโดยเปลี่ยนถุงผ้าเป็นสีเขียว ระหว่างลงลิฟต์มีการส่องกระจก ดูมือตัวเอง ก่อนจะเดินออกไปจากคอนโดอย่างใจเย็น ไม่ได้ดูรีบร้อน


เวลา 04.10 น. ส่วนกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าคอนโดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพชายสวมเสื้อฮู้ดสีดำ สะพายกระเป๋าสีเขียว กำลังเดินออกจากหน้าคอนโด เดินเลี้ยวซ้ายไปทางร้านสะดวกซื้อ จากนั้น ได้นั่งแท็กซี่สีเหลือง ไม่ทราบทะเบียน ขับผ่านหน้าคอนโดหลบหนีไปทางซอยงามวงศ์วาน 6  

----------------

พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ สามารถรวบรวมข้อมูลได้พอสมควร แต่ยังไม่สามารถสรุปมูลเหตุจูงใจได้ โดยตำรวจตั้งประเด็นไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องหุ้นส่วนทางธุรกิจ ส่วนทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตยังตรวจสอบไม่ครบว่า มีอะไรหายไปบ้าง


ตอนนี้ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน ซึ่งเบื้องต้นพยานที่เชิญมาให้ปากคำ ก็ได้ให้ข้อมูลเรื่องความขัดแย้งของผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ ส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิด ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าใช่ผู้ก่อเหตุหรือไม่


ขณะนี้ ตำรวจมีข้อมูลของผู้ก่อเหตุบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดตัวบุคคลได้ ซึ่งขอรวบรวมพยานหลักฐานสักระยะก่อน ยืนยันไม่กังวลว่าคนร้ายจะหนีออกนอกประเทศ หลังเหตุเกิดผ่านมาแล้วหลายวัน ส่วนชายต้องสงสัยที่ปรากฏในภาพวงจรปิด ตำรวจขอพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดก่อนว่าใช่คนร้ายหรือไม่

----------------
วานนี้ (27 พ.ค.) เวลา 12.30 น. นางบรรจง เขียวอ่อน อายุ 77 ปี แม่ของนายไพศาล (ผู้เสียชีวิต) และหลานสาว 2 คนของผู้เสียชีวิต เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำ


จากนั้น ได้เชิญหลานสาวทั้ง 2 คนไปตรวจสอบรถยนต์ของผู้เสียชีวิต พร้อมรวบรวมหลักฐานจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ก่อนจะเดินทางขึ้นรถตู้ตำรวจไปตรวจสอบที่บ้านพัก (ไม่ใช่คอนโดเกิดเหตุ) เพื่อให้นำตรวจค้นหลักฐานภายในบ้าน เพื่อหาข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตเคยติดต่อกับใครบ้างในช่วงก่อนหน้านี้


โดยแม่ยืนยันว่าลูกชายเป็นคนดีไม่มีศัตรูที่ไหน ยังอยู่ระหว่างเศร้าโศกเสียใจไม่สะดวกในการให้สัมภาษณ์ แม่ของนายไพศาล ไม่ได้เปิดเผยอะไรกับสื่อ บอกเพียงว่า ไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น


แม่ยอมรับหวั่นใจว่าจะจับคนร้ายไม่ได้ หลังเหตุเกิดผ่านมาหลายวัน หวังคนร้ายจะรีบเข้ามอบตัว โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง ทำให้ไม่รู้เรื่องส่วนตัวของลูกชายมากนัก ยืนยันไม่เคยเห็นหน้าผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดมาก่อน


จากนี้ส่วนตัวคงต้องใช้ชีวิตด้วยความลำบาก เนื่องจากลูกชายถือเป็นเสาหลักของครอบครัว และคอยดูแลตัวเองเสมอไม่เคยทอดทิ้ง

--------------------

นอกจาก มีแชตไลน์ของกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิต หลังจากที่นายไพศาล ถูกฆ่าตายแล้ว คนร้ายซึ่งขโมยโทรศัพท์มือถือไปได้สวมรอยไปนายไพศาล ตอบแชตไลน์เพื่อน ๆ ในวันที่ 21 พ.ค.โดยเพื่อนถามว่า “หายไปไหน / หรือโทรศัพท์หาย /โทรไปก็ให้ฝากข้อความ” / มีการตอบแชตกลับมาว่า “ติดงาน ๆ” / เพื่อนคนหนึ่งบอก “จะแจ้งความแล้ว” / จากนั้น มีการส่งอิโมจิหัวเราะกลับมา / เพื่อนอีกคนพิมพ์ว่า “เกรงจะโดนลักพาตัว” / เพื่อนอีกคนบอก “ไม่เคยหายไปอย่างงี้” / แล้วมีการตอบกลับว่า “เดี๋ยวต้องไปจีนด่วน ๆ”

ขณะที่ กลุ่มเพื่อนของนายไพศาล (ผู้เสียชีวิต) เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำ โดยหนึ่งในเพื่อนสนิท ที่คบหากันมามากกว่า 20 ปี เปิดเผยว่า ปกติแล้ว ตน และเพื่อน รวม 3 คน จะพูดคุยกันผ่านแชตไลน์กลุ่มตลอด ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งนัดกันว่าวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค. จะพากันไปดูโรงเรียนให้ลูกเพื่อน แต่หลังจากนั้น นายไพศาลก็เงียบหายไป ไม่เข้ามาตอบในกลุ่ม โทรไปก็ไม่รับ เพื่อน ๆ ก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะปกตินายไพศาลเป็นคนที่ติดโทรศัพท์มาก


ต่อมาวันที่ 21 พ.ค. บัญชีไลน์ของนายไพศาล ได้เข้ามาตอบข้อความในกลุ่มบอกว่า “ติดงาน เดี๋ยวต้องไปจีนด่วน” และล่าสุดก็ได้มีการลบบัญชีไป


จนกระทั่ง มาทราบข่าวว่า นายไพศาลเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ ปกตินายไพศาลจะอาศัยอยู่กับแม่และหลานที่บ้านย่านนนทบุรี แต่จะมีคอนโดที่มาใช้พักผ่อนบ้าง โดยมาอยู่คนเดียว ซึ่งเพื่อน ๆ ไม่เคยรู้ว่า นายไพศาลมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเพื่อนชายคนไหนบ้าง จะเห็นนายไพศาลอยู่คนเดียวตลอด ไปต่างประเทศก็ไปคนเดียว


อย่างไรก็ตาม นายไพศาล เป็นคนมีฐานะ ทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีน จึงเชื่อว่ามูลเหตุต้องเป็นเรื่องทรัพย์สิน

-----------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/f3b4u7hVd1U

คุณอาจสนใจ

Related News