อาชญากรรม
พ่อนรต.ดับหลังกระโดดร่มไม่กาง ร้องสื่อ สตช.ยังไม่ชดใช้ ซ้ำขอขยายเวลา อ้างงบไม่เพียงพอ
21 พ.ค. 2567
557 views
ผ่านมากว่า 10 ปีสำหรับเหตุการณ์ที่นรต.ชยากร พุทธชัยยงค์ หรือน้องโยโย่ เสียชีวิตจากเหตุการณ์กระโดดร่ม แล้วไม่กาง ใน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557
แต่ล่าสุด นายสาธร พ่อของ นรต.ชยากร หรือน้องโยโย่ ได้ร้องเรียนกับทีมข่าวว่า ขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ได้จ่ายชดใช้ค่าขาดไร้อุปการะแก่คุณพ่อเดือน หลังศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567
โดยศาลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชดใช้ค่าขาดไร้อุปการะแก่คุณพ่อเดือนละ 10,000 บาทเป็นเวลา 29 ปี ซึ่งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,480,000 บาท และมีดอกเบี้ยอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงค่าปลงศพอีก 277,000 บาท โดยให้ชำระภายใน 60 วัน
แต่ตอนนี้ ผ่านมา 90 วันแล้ว ก็ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเมื่อวานนี้ คุณพ่อจึงโทร.ไปสอบถามศาลปกครอง ทราบว่าทางกองบินตำรวจ ได้มีหนังสือถึงศาลปกครองว่า “ขอขยายเวลาในการชดใช้” และไม่ได้กำหนดกรอบว่าจะชำระเมื่อไหร่ โดยให้เหตุผลว่า “ด้วยเหตุงบประมาณไม่เพียงพอ”
คุณพ่อ ยอมรับว่ากังวลใจมาก เพราะเราฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงาน ไม่ใช่ฟ้องบุคคล แต่ทางสำนักงานไม่สามารถชดใช้ให้ได้ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้เกิดความคับข้องใจว่าเมื่อไหร่จะจบ แล้วจะได้รับการชดใช้เมื่อไหร่
ซึ่งขณะนี้ทราบว่า เจ้าพนักงานบังคับคดี ได้รับหนังสือแล้ว และได้เสนอตุลาการศาลปกครองว่าจะพิจารณาอนุญาติให้ขยายหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำตอบกลับมา
นอกจากนั้น ผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ก็จะไปเกี่ยวพันกับ การชดใช้ค่าเสียหายของศาลแพ่งฎีกา ในคดีที่คุณพ่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทการบินไทย และบริษัทอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ศาลแพ่งฎีกา อ่านคำพิพากษา ให้จำเลยชดใช้ค่าขาดไร้อุปการะแก่คุณพ่อ เดือนละ 15,000 บาทเป็นเวลา 25 ปี รวมประมาณ 4 ล้าน 5 แสนบาท
มีคำพิพากษาเพิ่มเติมว่า ในคดีแพ่งที่ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ศาลปกครอง หากได้มาเท่าไหร่ จะต้องนำยอดของศาลปกครอง มาหักออกจากศาลแพ่ง
แต่พอสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่จ่าย ก็ทำให้ทุกอย่างสะดุด ไม่สามารถที่จะนำยอด ชำระของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปหักออกจากศาลแพ่งได้ ทำให้จนถึงขณะนี้ คุณพ่อยังไม่ได้รับค่าขาดไร้อุปการะเลย
คุณพ่อบอกว่า ตนเองสู้ในคดีนี้ เพราะต้องการให้เกิดความตระหนักในหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคน และเงินที่ได้มา ก็จะเอาไปทำบุญให้ลูกชายให้ได้มากที่สุด
ยอมรับว่าเหนื่อยจนไม่รู้จะพูดยังไง บางทีคิดทำอะไรลงไป ก็ยังเคารพวินัยในตนเอง เคารพกฎหมาย ทุกวันนี้ ยังมาคุยกับรูปของลูกชายในห้องทำงาน จะพูดสวัสดีกับเขาทุกเช้า แล้วสิ่งแรกที่พูด ก็คือ “ป๊าขอโทษโย่นะครับ ที่ป๊าอนุญาตตัวเอง พาโย่ไปรายงานตัว” เพราะมันคือจุดที่พาเค้าไปสู่ความตาย และสัญญากับเขาว่าจะต่อสู้จนแล้วเสร็จในทุกกระบวนการ
คุณพ่อมองว่าความยุติธรรม มันควรได้มาโดยระบบ ไม่ใช่ได้มาโดยการที่ผู้เสียหายจะต้องไปวิ่งดำเนินการเอง
ส่วนคดีอาญา ขณะนี้อัยการสูงสุดได้ส่งฟ้องไปยังศาลศาลอาญาทุจริตและประพฤติไม่ชอบภาค 7 ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาไปแล้วเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ทางเราก็ได้อุทธรณ์ไป ตอนนี้ผ่านมา 2 ปีแล้ว ก็ยังรอคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตในชั้นอุทธรณ์อยู่
แท็กที่เกี่ยวข้อง