พื้นถนนข้างบ่อพักท่อประปากลางถนนทรุดเป็นหลุม ทำรถเสียหายนับ 10 คัน เจ็บ 1 ราย

เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เวลา 22.00 น วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีถนนทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ ทำให้รถยนต์ที่ขับผ่านตกหลุมได้รับความเสียหายหลายคัน และ มีรถจักรยานยนต์ตกหลุดดังกล่าวเสียหลักล้มทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนศรีนครินทร์ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าศรีด่าน ขามุ่งหน้าบางนา ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ บน ถนนศรีนครินทร์ เลนขวาสุด มีการขุดวางบ่อพักขนาดใหญ่ และ มีการปิดฝาบ่อไว้ โดยหลุมดังกล่าวอยู่ริมขอบบ่อพักบนถนนเลนกลาง ซึ่งทรุดลึกกว่า 15 ซม กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร และ เป็นขอบเหลี่ยมฝาท่อ ทำให้รถยนต์ที่ขับลงจากสะพานข้ามแยกศรีเทพาผ่านบริเวณดังกล่าวนั้น ล้อกระแทกกับหลุมดังกล่าว จนยางแตก ล้อดุ้ง จอดเสียหายนับ 10 คัน

โดยที่ยังมีรถจักรยานยนต์ที่ขี่ผ่านตกหลุมดังกล่าวเสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลนำส่งโรงพยาลใกล้เคียง โดยที่ทางผู้เสียหายต้องเรียกรถปะยางนอกสถานที่มาปะยาง ใน ราคา 500 บาท ส่วนทางผู้รับเหมานั้นหลังเกิดเหตุการณ์ก็ได้มาปิดถนนตรงจุดเกิดเหตุ เพื่อซ่อมแซมจุดดังกล่าว

โดยเบื้องต้นทางผู้เสียหาย ทั้งรถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ รวมกันกว่า 10 คัน ได้รวมตัวกันไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับความเสียหายกับผู้รับเหมาต่อไป

นายเจ อายุ 32 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนขับรถมาระหว่างทางลงมันมองไม่เห็น แล้วมันเหมือนมีหลุมลงไปหลังจากนั้นรถตนก็ยางแตก ตอนที่เกิดเหตุรถของตนเหมือนจะเป็นคันที่ 3 ที่โดน พอตนเดินมาดูก็เห็นว่ามีรถคันอื่น ๆ ก็โดนด้วยอีกหลายคัน ตอนนี้เจ้าของรถที่เสียหายก็เลยรวมกลุ่มกัน รถที่โดนก็มีประมาณ 9 -10 คัน นี่คือจำนวนที่ตนรู้ ที่ไม่รู้อีกก็มี เบื้องต้นตนได้ถ่ายคลิปเอาไว้ และ ความลึกของหลุมก็ประมาณ 20 ซม.ส่วนเรื่องการฟ้องร้อง ตนได้คุยปรึกษากันกับคนที่โดนเหมือนกันคร่าว ๆ แล้วว่าจะไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.สำโรงเหนือ เอาไว้ก่อน แล้วจะเอาหลักฐานตรงนี้ไปเรียกร้องค่าเสียหายได้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เรื่องนี้ตนได้ปรึกษากับกรมทางหลวง และ ได้แนะนำตนให้ไปลงบันทึกประจำวันก่อน ตนอยากจะฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รักษาความปลอดภัยกันให้มากกว่านี้ เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงกว่านี้หรือไม่ วันนี้ถือว่าตนยังโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ถ้าเกิดมีจักรยานยนต์ลงหลุมตรงนี้แล้วเสียชีวิตขึ้นมามันก็จะร้ายแรงกว่านี้ ครั้งนี้เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยังมีคนเสียหายมาประมาณเป็น 10 คันแล้ว ส่วนตัวตนใช้ถนนเส้นนี้บ่อย เพราะเป็นทางกลับบ้าน ตนก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ถ้ามันเสร็จก็คงจะดีกว่านี้ ทางที่ดีตนก็ไม่อยากจะให้มันเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

นายธนกฤต แสงชมพู อายุ 34 ปี เล่าว่า ตนขับรถลงมาจากสะพาน รถมันก็จะเยอะ รถตนก็วิ่งมาฝั่งขวา รถตนจึงไปตกหลุมตรงนั้น หลุมตรงนั้นก็ลึก เพราะตอนที่รถตนตกลงไป พวงมาลัยรถตนก็สะบัดเลย ถ้าเกิดเป็นรถจักรยานยนต์ลงไปก็คงจะล้มแน่นอน ตอนนั้นมีรถคันอื่นที่ประสบเหตุเหมือนกับตนอยู่อีกหลายคัน นับรวม ๆ ก็เกือบ 10 คันได้

ส่วนผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า ตนขับรถมาจากปากน้ำกำลังจะไปวัดหนามแดง เพื่อไปรับลูกสาว ตอนนั้นตนวิ่งเลนขวามา เพื่อจะไปยูเทิร์นข้างหน้า พอมาถึงบริเวณนี้ ก็จะเบี่ยงออก แต่ก็เจอหลุมพอดี สภาพรถของตนที่เสียหายคือแม็กแตก ยางระเบิด ส่วนตัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ตนไม่อยากจะพูดถึงเลยเพราะเส้นทางตั้งแต่นิคมบางปูมา เป็นแบบนี้ตลอด เป็นหลุมเป็นบ่อ ยังดีรถตนเป็นรถยนต์ ถ้าเป็นจักรยานยนต์คงตาย เพราะครั้งนี้ก็มีรถจักรยานยนต์ประสบเหตุด้วย ก็น่าจะมีบาดเจ็บอยู่บ้าง

ด้าน ร้านปะยางนอกสถานที่ เล่าว่า รถที่ประสบเหตุมีร่วม 10 คัน ตอนนั้นตนได้รับโทรศัพท์โทรตามให้มาปะยาง พอมาถึงก็เจอรถที่เสียหายเป็น 10 คัน แต่ละคันที่เห็นต้องเปลี่ยนยางใหม่หมด เพราะยางมันปะไม่ได้ ความเสียหายมันเยอะที่บริเวณแก้มยาง ตนมาปะยางนอกสถานที่แบบนี้ก็คิดราคาอยู่ที่ประมาณ 500 บาท ตอนตนมาก็ไม่เห็นมีผู้บาดเจ็บ จะมีแต่รถที่เสียหาย

นายประพล อายุ 50 ปี วิศวกร เผยว่า เล่าว่าตรงนี้เป็นงานวางท่อประปาใหม่ ตนคาดว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นเพราะว่าวัสดุใต้นี้มันทรุดลงไป ทำให้เกิดเป็นโพรง ก็คงจะต้องทำใหม่ เดี๋ยวคืนนี้จะให้ทางหัวหน้าเขาวางฝาใหม่ โดยการสกัดตรงนี้ตัดเป็นช่องแล้วก็เอาฝาปูนไปวาง ก็คือจะทำวัสดุตรงนี้ใหม่ แล้วก็เอาฝาไปวาง ถึงจะแก้ได้ เพราะตรงนี้มันเป็นรอยแตกอยู่แล้ว เพราะฝนตกน้ำมันเซาะมันก็จะยุบลงไป ส่วนผู้เสียหาย ตนได้เข้าไปเคลียร์และพูดคุยแล้ว ก่อนที่จะมาตรงนี้ เข้าไปที่โรงพยาบาลไปคุยกับผู้เสียหายมาแล้ว และก็วิ่งมาดูหน้างานก่อน เพราะต้องรอญาติของผู้บาดเจ็บ