หญิง ร้อง ป.ป.ป. ถูกอดีตสารวัตร รีดเงิน 1 แสน ข่มขู่กลับคำให้การ

นายกันฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา นางสาวโรส (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เข้าร้องที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) หลังถูกอดีตสารวัตร พนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี รีดเงิน 100,000 บาท อ้างเคลียร์อัยการได้ บุกไปบ้านถึง 3 ครั้ง พยายามให้เซ็นเอกสารยอมความ และกลับคำให้การ และโทรไปหาผู้เสียหายให้ช่วยกลับคำให้การ โดยอ้างขอความเห็นใจ เมียเป็นมะเร็ง

คดีนี้สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหา มีอาชีพเป็นผู้รับเหมาทุบตึก ถูกยื่นฟ้องในคดีร่วมลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ได้ร้องเรียนมายัง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ว่าถูกนายตำรวจ ระดับสารวัตร สภ.โคกสำโรง เรียกรับเงินสินบนค่าทำคดี โดยเรียกเงินจำนวน 1 เเสนบาท ทางผู้ต้องหาจ่ายเงินไปเเล้วก้อนเเรก จำนวน 5 หมื่นบาท เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 จ่ายที่ลานจอดรถของศาลากลางจังหวัดลพบุรี ส่วนอีกก้อน นัดหมายรับวันที่ 20 กันยายน 66

ต่อมา กัน จอมพลัง ได้ประสานไปยังตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทางเจ้าหน้าที่จึงวางเเผนจับกุม โดยให้ผู้ต้องหาเอาเงินที่เหลืออีกก้อน จำนวน 5 หมื่นบาท ไปให้กับสารวัตรคนดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่รับเงินจากผู้เสียหายเเล้ว ขณะที่กำลังจะเดินขึ้นรถกระบะส่วนตัว ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถของร้านอาหาร เพื่อเดินทางกลับ ทางเจ้าหน้าที่จึงซ้อนเเผนเข้าจับกุม โดยพบเงินของกลาง จำนวน 5 หมื่นบาท อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวาหลัง เป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 50 ฉบับ ซึ่งการตรวจสอบเลขธนบัตร ตรงตามที่ทำบันทึกของกลางไว้

กัน จอมพลัง ระบุว่า อยากถามประชาชนทุกท่านว่า ควรให้โอกาสตำรวจรายนี้หรือไม่ เป็นอดีตตำรวจ ตำรวจมีปืน ผู้เสียหายก็ห่วงเรื่องความไม่ปลอดภัย ไม่รู้จะถูกงัดมาใช้เมื่อไหร่ คดีนี้ผ่านมานานแล้ว เหตุใดผู้ต้องหายังคอยวนเวียน และไปบ้านผู้เสียหายในพื้นที่ จ.สุโขทัย และจ.พระนครศรีอยุธยา ได้หลายครั้ง

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 66 ตนเองไปร่วมบุกจับตำรวจรายนี้ พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปป. และผู้กำกับการ สภ.โคกสำโรง ซึ่งหลักฐานพบเป็นเงินคาอยู่กระเป๋ากางเกง ต่อมา กลับมีอดีต ตำรวจ ปปป. ที่ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ และโทรกลับมาหาผู้เสียหายให้กลับคำให้การ ถือเป็นการหักหลังเพื่อนร่วมงานตำรวจกันเองหรือไม่ นอกจากนี้ยังมากล่าวหาตนเองว่า ขายข่าว ช่วยคนแล้วก็หายไป ถือว่าล้ำเส้นกันเกินไป ตนมีหลักฐานคลิปเก็บไว้ทั้งหมด หากอยากติดต่อตนจริง ให้ติดต่อมา ตนทำสุด ทำจริง และทำเต็มที่ วันนี้จะให้เห็นว่าเป็นอย่างไร

ด้านผู้เสียหาย ระบุว่า นายตำรวจ ได้พาภรรยาที่อ้างว่าป่วยเป็นมะเร็ง และลูก 2 คน มาอ้อนวอนถึงที่บ้าน 3 ครั้ง เพื่อให้เซ็นเอกสารยอมความและกลับคำให้การ และมีการเสนอให้เงินค่าน้ำมันด้วย โดยไปหาถึงที่บ้านใน จ.สุโขทัย 1 ครั้ง และพระนครศรีอยุธยา 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังเคยนำกระเช้าของขวัญไปให้แม่ของตนเองที่ดสุโขทัยอีก 1 ครั้งด้วย โดยล่าสุดเมื่อวาน เพิ่งมาถึงที่บ้านในจ.พระนครศรึอยุธยา

ซึ่งการมาถึงที่บ้านตนเองนั้น ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ว่ารู้จักบ้านของตนเองได้อย่างไร ซึ่งทุกครั้งที่มา ก็ได้ปฏิเสธไป และยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด เพราะความจริงก็คือความจริง และอยากได้รับความยุติธรรมกับครอบครัว