อาชญากรรม

รวบสาวบัญชีม้า คดีพ่อฆ่ายกครัว 3 ศพ อ้างแค่รับจ้างเปิดบัญชี ปัดเอี่ยวหลอกกู้เงิน

โดย nattachat_c

26 มี.ค. 2567

387 views

จากกรณี เมื่อประมาณเดือน ส.ค. 2566 สาวใหญ่อายุ 45 ปี (ผู้เสียหาย) พบคนร้ายโพสต์โฆษณาหลอกลวง โดยอ้างว่า สามารถปล่อยเงินกู้ให้ได้เป็นเงินจำนวน 5 เท่าของเงินเดือน


ผู้เสียหายเกิดความสนใจที่จะกู้เงิน จึงได้กดลิงก์ใต้โพสต์โฆษณาที่คนร้ายโพสต์หลอกลวงไว้ แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านแพลตฟอร์มของคนร้าย พร้อมแจ้งความประสงค์ยื่นกู้เงิน จำนวน 100,000 บาท


หลังจากที่กรอกข้อมูลลงทะเบียนเสร็จแล้ว ต่อมาไม่นาน กลุ่มคนร้ายแจ้งว่าเงินกู้ได้รับการอนุมัติแล้ว และได้ส่งเงื่อนไขในการกู้เงินให้ผู้เสียหายทราบ โดยให้โอนเงินจำนวน 10% ของยอดเงินที่ยื่นกู้ (จำนวน 10,000 บาท) เพื่อสร้างเครดิตในระบบธนาคาร จึงจะสามารถถอนเงินได้


ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินตามคำแนะนำของคนร้าย แต่แล้วกลุ่มคนร้ายไม่โอนเงินกู้ให้กับผู้เสียหายแต่อย่างใด อีกทั้งยังหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินไปแก้ไขข้อขัดข้องของระบบอีกหลายครั้ง


ผู้เสียหายได้โอนไปให้อีกตามคำหลอกลวง สุดท้ายแล้ว ก็ไม่สามารถกู้เงินได้จริง และเชื่อแน่ว่าจะต้องถูกหลอกลวง จนได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 1,700,320.59 บาท พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 


ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ฉ้อโกงดังกล่าว เป็นเหตุให้ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 สามีของผู้เสียหายตัดสินใจก่อเหตุ ใช้มีดอีโต้สังหารคนใครอบครัว เป็นภรรยา (ผู้เสียหาย) อายุ 45 ปี และลูกชายทั้ง 2 คน รวม 3 ศพ ภายในบ้านพัก ในพื้นที่ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนจะปาดคอตัวเอง หวังตายตาม แต่อาการสาหัส


ซึ่งสาเหตุเกิดจากปัญหาหนี้สิน ที่ฝ่ายสามีไปค้ำประกันรถยนต์ของอดีตนายจ้าง  และเจ้าของรถไม่ยอมส่งรถ จนโดนฟ้องร้องถึงขั้นถูกกรมบังคับคดีจะมายึดบ้านขายทอดตลาด


ก่อนที่สุดท้าย จะเคลียร์กันได้ ทางครอบครัวเตรียมหาเงินไปจ่าย แต่ต้องมาประสบปัญหา กรณีที่ภรรยาไปกู้เงินในแอปฯ เพื่อต้องการเงินแค่ 1 แสนบาท แต่กลับถูกหลอกให้โอนเงินไปหลายครั้ง สูญเงินไปประมาณ 1.7 ล้านบาท จนต้องไปกู้เงินเพื่อน รวมทั้งเงินเก็บที่เตรียมไว้เคลียร์หนี้ จากการถูกฟ้องร้องดังกล่าว

-------------

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบเหตุฉ้อโกง พบว่า กลุ่มของคนร้ายคือ นางสาวอภิษฎา (ผู้ต้องหา) ที่มีหมายจับฉ้อโกง อีก 2 หมายจับ ของ สภ.พร้าว จังหวัดเชียงใหม่ และ สภ.เมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น รวมมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท


ก่อนที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. จะทำการสืบสวน จนพบว่า นางสาวอภิษฎา ได้พักอาศัยในพื้นที่ จ.นครปฐม พร้อมนำกำลังเข้าจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ 

-------------

โดย วานนี้ (25 มี.ค. 67) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมกันจับกุม นางสาวอภิษฎา อายุ 24 ปี เป็นผู้ต้องหา 3 หมายจับ


1. ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 775/2566 ลงวันที่ 25 กันยายน 2566  ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” (สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ) ค่าเสียหาย ประมาณ 1.7 ล้านบาท (จับกุมตามหมายจับดังกล่าว)


2. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.313/2567 ลง 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.พร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ) ความเสียหาย ประมาณ 2 แสนบาท


3. หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 228/2567 ลง 20 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.เมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ) ความเสียหายประมาณ 1.1 ล้านบาท


โดยจับกุมได้บริเวณที่พักแห่งหนึ่งใน ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม

---------------

ทั้งนี้ จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้หลอกลวง ไม่ทราบว่าตนเองมีหมายจับ


แต่ให้การว่า ช่วงประมาณกลางปี 2566 ตนได้เดินไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน มีบุคคลชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยมีค่าเช่าเพื่อตอบแทน ในราคา 500 บาทต่อบัญชี  

---------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Qb5mfzXeamw




คุณอาจสนใจ

Related News