2 ชาวต่างชาติเหิมขี่จยย.แย่งปืนตำรวจยังปฏิเสธให้การ - "บิ๊กโจ๊ก" เผยสั่งเพิกถอนวีซาแล้ว

ชาวต่างชาตินักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์เหิม ขี่จักรยานยนต์ซิ่ง-ฝ่าฝืนกฎจราจร โมโหถูกตำรวจจราจรเรียกให้จอดเข้าแย่งอาวุธปืน-ทำร้ายเจ้าพนักงาน จนปืนลั่น 1 นัดยังปฏิเสธการให้ปากคำจะไปให้ปากคำในชั้นศาล


ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.อ.เอกรัตน์ พลายด้วง ผกก.สภ.ฉลอง เขาขับขี่รถมาด้วยความรวดเร็ว ตำรวจเรียกไม่ยอมหยุด สกัดจับได้และพอมีการเข้าไปถ่ายภาพเพื่อดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย เขาก็พยายามที่จะชำระเงินตรงนั้น แต่ตำรวจไม่รับสินบน มันเริ่มจากการล็อกคอก่อน มีการแย่งปินและยื้อแย่งกัน อาวุธปืนลั่น 1 นัด ดูจากในเหตุการณ์ไม่อาการมึนเมา น่าจะเกิดจากความไม่พอใจ



ขณะเดียวกันวันนี้มีรายงาน ว่าคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาการเพิกถอนวีซาชาวต่างชาติที่มีการกระทำผิกกฎหมายเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งเคยเพิกถอนวีซาชาวต่างชาตินายเดวิด ชาวต่างชาติที่เตะหมอในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยคณะกรรมการชุดนี้ มีผู้ว่าฯ เป็นประธาน รายงานระบุว่าจะเชิญตำรวจ สภ.ฉลองเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของชาวต่างชาติ 2 รายนี้แล้ว



ทั้งนี้ ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้โพสต์เฟซบุ๊ก สุรเชษฐ์ หักพาล ระบุข้อความว่า "วันนี้หลังจากผมได้ทราบเรื่อง "ตำรวจจราจร สภ.ฉลอง ถูกชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย" จึงสั่ง ผู้การ ตม.6 เพิกถอนวีซ่า 2 ต่างชาติ ดำเนินคดีเฉียบขาด หลังจบคดี ให้สั่งห้ามเข้าประเทศอีก หลังพยายามชิงอาวุธปืนตำรวจ

จากเหตุการณ์ เกิดที่ บริเวณริมถนนหน้าร้านกิตติก๋วยเตี๋ยวเป็ด ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จว.ภูเก็ต ผู้บาดเจ็บ ด.ต.สมศักดิ์ หนูเอียด ผบ.หมู่ (จร.) สภ.ฉลอง (บาดเจ็บบริเวณนิ้วมือและขา) ถูกนำส่ง รพ.ฉลอง

เหตุดังกล่าว จนท.ตร. ได้อำนวยความสะดวกจราจรและกวดขันวินัยจราจร  ได้มีรถ จยย. จำนวน 2 คัน ขับขี่โดยชายชาวต่างชาติ ขับรถผ่านในลักษณะใช้ความเร็วไม่ใช้ความระมัดระวัง ด.ต.สมศักดิ์ฯ ได้เรียกให้ชายชาวต่างชาติหยุด

เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ชายต่างชาติทั้งสองมีท่าทีที่จะหลบหนี ด.ต.สมศักดิ์ ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเพื่อเก็บพยานหลักฐาน จากนั้นชาวต่างชาติได้ปัดโทรศัพท์มือถือและเข้าประชิดตัวกอดรัดฟัดเหวี่ยงจน ด.ต.สมศักดิ์ ล้มลงโดยมีชายต่างชาติ MR.OSCAR ขึ้นคร่อมตัวอยู่จนด.ต.สมศักดิ์ฯ ได้รับบาดเจ็บ แล้ว MR.OSCAR ได้พยายามแย่งอาวุธปืนของ ด.ต.สมศักดิ์

โดยด.ต.สมศักดิ์ ได้พยามยามป้องกันไม่ให้ยื้อแย่งปืนไปได้ ขณะที่ยื้อแย่งกันนั้นอาวุธปืนได้ลั่นจำนวน 1 นัด ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ต่อมาได้มี จนท.ตร. ได้ขับรถมาจอดขวางและช่วยเข้าระงับเหตุ

เมื่อผมได้รับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมสั่งการให้ดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างดี และยืนยันว่าจะลงไปเยี่ยมบำรุงขวัญอีกครั้งด้วยตัวเอง

ผมขอชื่นชมตำรวจที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ  แม้ว่าคู่กรณีจะเป็นชาวต่างชาติ แต่ก็สามารถป้องกันตัวและระงับเหตุโดยไม่หวั่นเกรงต่อชีวิต

นอกจากนี้ ผมได้สั่งการให้ ผู้การ ตม.3 เพิกถอนวีซ่า 2 ต่างชาติ ดำเนินคดีเฉียบขาด และหลังจบคดี ให้สั่งห้ามเข้าประเทศอีก"