อาชญากรรม

พบศพ เศรษฐีนี-เลขา ถูกยิงดับในบ้าน เจอจดหมายอ้างเป็นอุบัติเหตุปืนลั่น

โดย passamon_a

11 มี.ค. 2567

771 views

ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีเศรษฐีนี เจ้าของโรงหล่อพระ อายุ 63 ปี และเลขาสาว ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพัก ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


เมื่อวันที่ 10 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นตึกแถว ขนาดสามชั้น ด้านหน้าต่อเติมเป็นห้องกระจก เปิดเป็นร้านจำหน่ายพระพุทธรูป รับหล่อพระ เครื่องสังฆภันฑ์ ที่หน้าบ้านมีรถยนต์หรูจอดอยู่ โดยมี นายเอ (นามสมมติ) ลูกชายเจ้าของบ้าน รอให้การกับเจ้าหน้าที่บอกว่า ตนไม่สามารถติดต่อ นางภัทร (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่ได้มานานหลายวัน ด้วยความไม่สบายใจกลัวจะเกิดเหตุร้ายกับแม่ จึงตัดสินใจเดินทางจากบ้านพักที่กรุงเทพฯ พร้อมภรรยา มาตามหาแม่ที่บ้านพัก อำเภอหัวหิน


โดยเดินทางมาถึงช่วงเช้า พบว่าบ้านพักปิดล็อคประตูไว้ แต่มีเสียงแอร์ทำงาน ประกอบกับรถยนต์ของแม่จอดอยู่หน้าบ้าน พยายามตะโกนเรียกแม่ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงตัดสินใจปีนเข้าไปทางหน้าต่างบานเกร็ดด้านหลังบ้าน จากนั้นได้เดินหาแม่ที่ชั้นล่าง กระทั่งมาถึงห้องกระจกด้านในสุด ประตูห้องล็อค แต่มองเห็นร่างคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ และมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยมาเตะจมูกอย่างแรง คิดว่าต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ


เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ ได้พยายามเปิดล็อคประตูห้อง จนเปิดห้องเข้าไปได้ พบร่างของ นางภัทร นอนอยู่โดยมีผ้าห่มคลุมร่างไว้ ใกล้กันยังพบร่างของ นางสุ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเลขาของนางภัทร นอนตะแคงเสียชีวิต สภาพสวมแต่ชุดชั้นใน จากสภาพศพคาดว่าทั้งสองน่าจะเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงแล้ว


จากการสอบถาม นางสาวบี (นามสมมติ) ภรรยาของลูกชายนางภัทร เล่าว่า ปกติแม่จะพักอาศัยอยู่คนเดียว เพราะไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย โดยมีพี่สุ ทำหน้าที่เลขา คอยดูแลช่วยขับรถ พาแม่ไปทำธุระ สามีจะโทรศัพท์หาแม่เป็นประจำ ซึ่งแม่จะมีนิสัยชอบปิดมือถือ หรือติดต่อไม่ได้ครั้งละหลายวัน เพราะบางครั้งเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ หรือไปต่างจังหวัด แต่จะโทรคุยกับลูกชายตลอด


กระทั่งเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา แม่บอกว่าจะไปหาคุณยายที่ชุมพร และมารู้สึกผิดปกติหลังจากที่สามีโทรหาแม่แล้วติดต่อไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าแม่อยู่กับคุณยายจึงไม่อยากรับสาย แต่ปรากฏว่าญาติที่ชุมพรแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อแม่ได้ และแม่ยังไม่ได้โอนเงินให้กับพยาบาลพิเศษที่ดูแลคุณยาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ จึงเดินทางมาหาที่บ้าน จนมาพบว่า แม่และเลขา เสียชีวิตแล้ว


ขณะที่ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับ สภ.หัวหิน กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีว่า ขณะนี้ได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตให้แพทย์จากโรงพยาบาลหัวหิน ชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงแล้ว เบื้องต้นนางภัทร เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน ตรวจร่างกายพบถูกยิงที่บริเวณหน้าอก 1 นัด ส่วนนางสุ เลขา เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด และพบอาวุธปืน กล็อค 19 ขนาด 9 มม. ยังมีกระสุนในรังเพลิง ตกอยู่ใกล้ตัว โดยขณะนี้ได้ส่งอาวุธปืนให้พิสูจน์หลักฐาน ตรวจพิสูจน์ DNA ที่อาวุธปืนว่าเป็นของใคร และประการสำคัญเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพื่อหาร่องรอยคนร้ายที่อาจจะเข้ามาก่อเหตุฆาตกรรมอำพราง แต่ภายหลังตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะเป็นบุคคล 2 คนที่เกิดเหตุฆาตกรรมกันเอง


นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบโกศบรรจุกระดูก วางไว้ใกล้ศพ 2 โกศ และยังตรวจพบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ คล้ายกับพินัยกรรม และจดหมายสารภาพผิด 2 ฉบับ ระบุชื่อในจดหมายว่า นางสุเป็นผู้เขียน


โดยจดหมายฉบับแรก ระบุวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 มีใจความสรุปได้ว่า หากนางสุ ได้เสียชีวิตลงด้วยเหตุอันใดก็ตามได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ เพื่อแสดงเจตจำนงว่า ขอมอบบ้านและที่ดิน จำนวน 2 แปลง ให้กับลูกสาวทั้ง 2 คน โดยแบ่งให้คนละ 50% ส่วนสามีชาวต่างชาติ ให้อยู่ในบ้านได้จนวันตาย แต่ไม่มีสิทธิ์ในที่ดินและบ้านดังกล่าว


ส่วนจดหมายฉบับที่ 2 ระบุวันที่ 1 มีนาคม 2567 เขียนเพียงสั้น ๆ ว่า "ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอาปืนมาเล่นโชว์กัน แล้วปืนเกิดลั่นใส่พี่ภัทร ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก"


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บจดหมายทั้ง 2 ฉบับไว้เป็นหลักฐาน โดยจะนำไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่าใช้ลายมือเป็นของนางสุจริงหรือไม่ ก่อนที่จะสรุปสาเหตุของการเกิดเหตุฆาตกรรม 2 ศพในครั้งนี้ต่อไป


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/IMCxRZ44W08

คุณอาจสนใจ

Related News