อาชญากรรม
ครูฝึกเจ้าของค่ายมวยหื่น ล่วงละเมิดเด็กหญิง นานนับปี ขู่ยิงทิ้งหากบอกใคร
โดย nutda_t
28 ก.พ. 2567
419 views
ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางพาแม่และยาย ของ 2 เด็กหญิง อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ไปพบกับ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อประชุมและติดตามคดี นายใหญ่ อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของค่ายมวยและเป็นครูฝึกมวย แห่งหนึ่งในจ.สมุทรสาคร และเป็นอดีตตำรวจบ้าน ข่มขืนกระชำเรา 2 เด็กหญิง ซึ่งเป็นนักชกมวยรุ่นเยาว์ในค่ายหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 66 จนถึงเดือน ก.พ.67 ซึ่งแม่และยาย ได้แจ้งความไว้แล้ว ตำรวจส่งเด็กทั้ง 2 ไปตรวจร่างกาย สอบสหวิชาชีพแล้ว ขณะนี้เจ้าของค่ายมวยหนีไป แม่และยายจึงมาร้องปวีณาฯเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่ได้รับความปลอดภัย
สืบเนื่องจากวานนี้ 27 ก.พ. 67 แม่และยาย 2 ครอบครัว พาเด็กหญิงทั้ง 2 คน เดินทางจากจ.สมุทรสาคร เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ขอความช่วยเหลือติดตามคดี นายใหญ่ ใช้ปืนข่มขู่บังคับข่มขืนกระชำเราลูกและหลานสาวทั้ง 2 คน
ยาย ด.ญ.เอ เล่าทั้งน้ำตาว่า ยายเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เกิด เพราะแม่เด็กต้องไปทำงาน หลานชื่นชอบการชกมวยมากเพราะจะได้ฝึกป้องกันตัว ซึ่งค่ายมวยของนายใหญ่ ผู้ก่อเหตุ อยู่ไม่ไกลจากบ้าน ยายจึงให้หลานไปเรียนตั้งแต่ป.1 อายุ 7 ขวบ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 5 ปี ที่ค่ายมวยจะมีเด็กและเยาวชนทั้งชายและหญิงประมาณ 10 กว่าคน เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี จำนวน 3 คน ตอนแรกยายจ่ายค่าเรียนชกมวยให้ครูวันละ 100 บาท พอเด็กเก่งขึ้นครูก็พาไปชกตามที่ต่างๆ ครูก็ไม่เก็บค่าสอนแล้ว เพราะเวลาได้เงินรางวัลครูก็หักค่าฝึกซ้อมในค่ายมวย ส่วนที่เหลือก็จะให้เด็กบ้างครั้งละประมาณ 400-500 บาท
หลานไปแข่งขันตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ 8-9 ขวบ มีชนะบ้าง แพ้บ้าง และก็ได้เป็นแชมป์หลายรายการ ตอนหลานอายุ 11 ปี มีครั้งหนึ่งได้ไปแข่งในรายการที่ “รถถัง จิตเมืองนนท์” นักชกมวยไทยชื่อดังจัดขึ้น เป็นรุ่นของเด็กและเยาวชน หลานได้ขึ้นชกกับนักชกเด็กหญิงชาวจีน ชนะได้ถ้วยรางวัล “นักชกดุเดือด”
ที่ผ่านมา หลานเป็นคนที่ขยันฝึกซ้อมมวยและตั้งใจเรียน แต่จู่ๆ วันที่ 28 ม.ค. 67 หลานก็พูดขึ้นมาว่า “หนูอยากตายแล้วไปเกิดใหม่” ยายตกใจมากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับหลาน แต่หลานก็ไม่ยอมบอก จนกระทั่งวันที่ 31 ม.ค.67 ตอนเย็นยายไปรับหลานที่ค่ายมวย วันนั้นเป็นวันที่ครูจ่ายเงินค่าชกมวยให้กับเด็กๆ มีเด็กที่ซ้อมมวยรุ่นเดียวกับหลาน วิ่งมาบอกยายว่า “ยายรู้มั้ยว่ามีไอ้เฒ่าในค่ายมันตอกพวกหนู” ยายจึงถามจนเข้าใจว่า “ตอก” ตามประสาที่เด็กในค่ายมวยคุยกัน คือ “ข่มขืน/การมีเพศสัมพันธ์”
จากนั้นยายจึงได้ถามหลานสาวบอกว่าถูก นายใหญ่ ครูฝึกมวย ข่มขืนตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย.66 เรื่อยมา ล่าสุดช่วงเดือนช่วงเดือนม.ค.67 โดยถูกกระทำที่บ้านครูฝึกมวย และที่ห้องพักนักมวย ในค่ายมวยที่ฝึกเวลาที่ไม่มีใครอยู่ เด็กไม่กล้าขัดขืน เพราะก่อนจะลงมือข่มขืน นายใหญ่จะวางปืนไว้ให้เด็กเห็นจนเกิดความกลัว หลังข่มขืนเสร็จนายใหญ่ก็ข่มขู่ว่า “ถ้าไปบอกใคร กูจะยิงมึงให้ตาย”
ที่ผ่านมา หลานไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวนายใหญ่ และกลัวจะไม่ได้ชกมวยอีก แต่ก็สุดจะทนแล้วจึงได้นำเรื่องไปคุยกับหลาน จึงรู้ว่าทั้งสองคนก็ถูกนายใหญ่ข่มขืนด้วย เด็กๆ ไม่อยากทนทุกข์อีกต่อไป จึงตัดสินใจบอกยายและพ่อแม่ในวันที่ไปรับที่ค่ายมวย เมื่อเย็นวันที่ 31 ม.ค.67 เด็กๆ ยังบอกอีกว่า นายใหญ่ ครูฝึกมวย เป็นคนดุมาก เวลาเด็กทำไม่ถูกใจก็จะทำร้ายเด็กโดยการตบ เตะ และชอบพกอาวุธปืน เอาปืนมาเช็ด ถือปืนให้เด็กๆในค่ายมวยเห็นทุกคนจึงกลัวนายใหญ่มาก
วันนั้นหลังรู้เรื่อง ยายและแม่เด็ก จึงได้ต่อว่า นายใหญ่ และนายใหญ่ ได้ขับรถหลบหนีออกไปจากค่ายมวยทันที ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่กลับมา ส่วนลูกสาวนายใหญ่ ที่เป็นครูฝึกมวยด้วย ก็ข่มขู่ผู้ปกครองด้วยว่า “ถ้าเด็กคนไหนย้ายค่ายมวย ก็จะฟ้องให้หมด” จากนั้นยายกับแม่เด็ก จึงตกลงพากันเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ตำรวจส่งเด็กทั้งสองไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และสอบสหวิชาชีพแล้ว
ยายและแม่เด็ก จึงตัดสินใจพาเด็กทั้งสอง มาขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี นอกจากนี้ ยังทราบว่ามีเด็กหญิงที่เคยฝึกซ้อมมวยที่ค่ายนี้ถูกนายใหญ่ข่มขืนอีกหลายรายแต่ไม่กล้าแจ้งความ ยายต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และไม่อยากให้เด็กหญิงคนอื่นๆ ตกเป็นเป็นเหยื่อครูฝึกมวยหื่นรายนี้อีก อยากให้ตำรวจจับกุม นายใหญ่ มาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะเด็กๆ กลัวนายใหญ่ที่มีอาวุธปืนข่มขู่จะฆ่า และนายใหญ่ ยังเคยเป็นตำรวจบ้านมาก่อน เกรงครอบครัวเกรงจะไม่ปลอดภัย
ด้าน แม่เด็ก กล่าวว่า บ้านของตนอยู่ใกล้ค่ายมวยของนายใหญ่ และตนมีหลานชายไปฝึกมวยที่ค่ายตั้งแต่เล็กๆ ลูกสาวได้ตามไปดูด้วยแล้วเกิดความชื่นชอบอยากจะชกมวยบ้าง ตนจึงให้เรียนชกมวยตั้งแต่เรียนอยู่ป.3 ช่วงแรกค่าเรียนวันละ 20 บาท จากนั้นพอเด็กเก่ง ได้ออกไปแข่งขันก็ไม่ต้องเสียค่าเรียน แต่พอชกชนะทางค่ายก็จะหักเงินรางวัลบางส่วน ที่เหลือก็ให้เด็กบ้างครั้งละประมาณ 400-500 บาท
ที่ผ่านมาลูกไม่กล้าบอกแม่ เพราะเวลาที่นายใหญ่กระทำ บางครั้งก็จะเอาปืนมาวางให้เห็นและข่มขู่ ลูกยังกลัวว่าแม่และยายที่พิการจะกลุ้มใจจึงไม่กล้าบอก แต่เด็กก็ทนไม่ไหวมาคุยกับเพื่อนเด็กผู้หญิงในค่าย แล้วจึงตัดสินใจบอกเรื่องทั้งหมดกับแม่ในวันที่ไปรับลูกตอนเย็นวันที่ 31 ม.ค. 67 ซึ่งลูกถูกนายใหญ่ กระทำชำเราครั้งล่าสุดในวันที่ 28 ม.ค.67 ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายใหญ่โดยเร็ว เพราะเด็กๆ อยู่กันอย่างหวาดผวา และเกรงกลัวครอบครัวจะไม่ปลอดภัย เด็กๆ บอกว่า อยากให้ครูฝึกมวยหื่นคนนี้ติดคุกไปตลอดชีวิต กับสิ่งที่ทำให้มีตราบาป และไม่อยากให้ไปทำกับใครอีก แม่จึงมาขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี ให้ได้รับความเป็นธรรม และกลัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย
ด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า ล่าสุด วันนี้ 28 ก.พ. 67 เวลา 11.00 น. ตำรวจได้ออกหมายจับ เจ้าของค่ายมวยและเป็นครูฝึกมวยแล้ว และจะติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่มขืนเด็ก ,เจ้าของค่ายมวย