ออกหมายจับ ‘ไอ้นนท์’ ชายหื่นตระเวนลวงขืนใจ ด.ช.นับสิบราย ทำมานานกว่า 10 ปี

“กัน จอมพลัง” นำเด็กชายวัย 11และ 14 ปีบุกโรงพักเมืองระยอง จี้ตำรวจตามจับ “ไอ้นนท์” ล่อลวงเด็กกระทำชำเรานับสิบคน แถมยังหนีการควบคุมตัวของตำรวจออกจากโรงพยาบาลได้แบบสบายๆ ทำชาวบ้านผวา ล่าสุด ออกหมายจับแล้ว 3 ข้อหา 

เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.67)  กัน จอมพลัง พาเด็กชายที่เป็นผู้เสียหาย ถูกนาย อนนท์ ชาลีกุล หรือ นนท์ อายุ 33 ปี ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ ไปที่ สภ.เมืองระยอง เพื่อเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวนายนนท์ มาดำเนินคดี หลังชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์จับกุมตัวได้แล้ว แต่นายนนท์หลบหนีออกจากโรงพยาบาล โดยที่ตำรวจยังไม่ทันได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีใดๆ

โดยผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหายรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า นายนนท์ มีพฤติการณ์ที่เป็นอันตราย จะตระเวนล่อลวงเด็ก โดยใช้วิธีไปซุ่มแอบถ่ายรูปเด็กนักเรียนชายที่ไปโรงเรียนสาย แล้วเอารูปไปขู่เด็กว่า จะเอาไปฟ้องพ่อแม่และครู  แล้วบังคับให้เด็กไปที่ห้องพักแล้วกระทำชำเรา บางครั้งก็ไปตระเวนแถวสวนสาธารณะในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ชวนเด็กไปเล่นที่บ้าน แล้วเอามีดจี้คอ บังคับล่วงละเมิดทางเพศ แล้วยังข่มขู่ให้เด็กมาหาอีกเรื่อยๆ หากไม่มา จะไปบอกเพื่อนๆ ทำให้อับอาย  เด็กกลัวจึงไม่กล้าบอกพ่อแม่ผู้ปกครองหรือครู  นายนนท์ จึงย่ามใจก่อเหตุแบบนี้กับเด็กชายอายุ 10-14 ปี มานับ 10 ราย

จนกระทั่งมีเด็กคนหนึ่งที่กล้าพูดว่าเจอกับอะไร ทำให้เด็กคนอื่นๆ ที่ตกเป็นเหยื่อกล้าจะออกมาให้ข้อมูล จนชาวบ้านถึงกับเดือด รุมประชาทัณฑ์นายนนท์และจับตัวส่งตำรวจ สภ.เมืองระยอง  แต่ตำรวจกลับปล่อยให้นายนนท์หลบหนีไปได้  ชาวบ้านกลัวว่าลูกหลานจะไม่ปลอดภัย นายนนท์จะก่อเหตุจนมีเหยื่อเพิ่มอีกเรื่อยๆ จึงมาร้องกับกัน จอมพลัง ให้ช่วยเร่งรัดติดตามเรื่องกับตำรวจ

ด้านกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า นายนนท์ ก่อเหตุแบบนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว เด็กบางคนที่เคยถูกกระทำ ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่อายุ 20 ปีแล้วก็มี  ที่สำคัญและน่าเป็นห่วงคือ นายนนท์ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก โดยที่ไม่มีการป้องกันใดๆ เลย จึงน่าเป็นห่วงไม่รู้ว่าเด็กๆ จะติดโรคอะไรหรือไม่ จึงต้องขอให้ตำรวจเร่งจับกุมตัวนายนนท์ให้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุอีก ส่วนเด็กๆ ที่ถูกกระทำ ได้ประสาน พม.ระยอง เข้าดูแลเยียวยาแล้ว

ต่อมา กัน จอมพลัง พร้อมนายธนภัทร แก้วชาวนา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5  ต.เชิงเนิน  อ.เมืองระยอง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบห้องพักของนายนนท์ ที่ใช้ก่อเหตุ พบเพียงห้องว่างเปล่า  มีกองชุดนักเรียนเด็กผู้ชายอยู่ 2-3 ตัว และลูกบอล 1 ลูก  ส่วนข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ถูกเก็บออกไปหมดแล้ว

ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า นายนนท์ มาอยู่ในพื้นที่มานานกว่า 10 ปี  แต่ไม่เคยรู้ว่ามีพฤติกรรมทำผิดกฏหมาย หรือล่วงละเมิดเด็กเลย  ปกตินายนนท์ชอบเตะบอล ทำงานร้านอาหาร ใช้ชีวิตปกติทั่วไป จนมาเป็น ถึงได้รู้ว่า นายนนท์มีพฤติกรรมเป็นบุคคลอันตราย

ขณะที่ เจ๊แจง อายุ 60 ปี  แม่ค้าในละแวกที่เกิดเหตุ บอกว่า เห็นนายนนท์ ลักษณะเป็นผู้ชายปกติทั่วไป   ชอบเตะบอล  แต่ที่ผิดสังเกตคือ มักมีเด็กผู้ชายมาที่ห้องพักบ่อยๆ สลับสับเปลี่ยนหน้าไป ไม่รู้มาทำอะไรกัน แต่พอมารู้ว่านายนนท์ ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ก็ตกใจมาก ขอให้ตำรวจจับตัวได้เร็วๆ  

ด้านนายป๊อบ เพื่อนของนายนนท์ เปิดเผยว่า รู้จักกับนายนนท์ มานานแล้ว นายนนท์มีบ้านเกิดอยู่ จ.อุดรธานี มาอาศัยอยู่ที่ระยองนานกว่าสิบปีแล้ว  ที่ผ่านมาเห็นชอบเล่นกับเด็กและดูแลเด็กดี  แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะกระทำแบบนี้ จนกระทั่งถูกชาวบ้านจับตัวรุมประชาทัณฑ์  ตนยังเข้าไปช่วยกันตัวออกมาและสอบถามว่าทำจริงหรือไม่  ซึ่งนายนนท์ยอมรับว่าทำจริง ทำมามากกว่าสิบคน จึงบอกให้รับสารภาพกับตำรวจ  แล้วนายนนท์ก็ถูกควบคุมตัวไป ก่อนจะทราบว่าหลบหนีออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน อยากฝากให้นายนนท์มามอบตัว มารับโทษที่กระทำลงไป

พันตำรวจเอก วีพงษ์ กงแก้ว ผู้กำกับการ สภ.เมืองระยอง ชี้แจงว่า ในวันที่ชาวบ้านจับตัวนายนนท์ ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกาย  จึงไประงับเหตุ และเจอนายนนท์บาดเจ็บ จึงคุมตัวส่งไปรักษาที่ รพ.ระยอง แล้วนายนนท์ก็หนีไประหว่างอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้ตั้งข้อหา ยังไม่ทราบว่านายนนท์ กระทำความผิด ตำรวจจึงยังไม่มีอำนาจคุมตัว

โดยข้อมูลขณะนี้ มีเด็กชายถูกล่วงละเมิด มาแจ้งความแล้ว 5 ราย โดยได้ประสานสหวิชาชีพ เร่งรัดมาสอบปากคำเด็กผู้เสียหายตั้งแต่เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.67) จากเดิมที่กำหนดไว้ 27 ก.พ.67 และล่าสุด ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ขออนุมัติศาลจังหวัดระยอง ออกหมายจับนาย อนนท์ ชาลีกุล ในข้อหา  พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร , กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ฯ โดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ราย โดยเด็กอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาหรือผู้ดูแล  โดยจะเร่งตามล่าตัวนายนนท์ มาดำเนินคดีโดยเร็ว ส่วนเด็กที่ถูกกระทำแล้วยังไม่มาแจ้งความ ก็ขอให้มาแจ้งความได้ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา โดยตำรวจจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เสียหาย