อาชญากรรม

เซเลบสาวจิตใจย่ำแย่ เผยสบายใจขึ้นหลังพบตร.เรื่องคดี ฝากขอบคุณน้องพลเมืองดี ช่วยเหลือไว้

โดย attapan_n

12 ก.พ. 2567

3.7K views

วันที่ 12 ก.พ.2567 จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่าเซเลปสาวชื่อดังคนหนึ่ง อายุ 25 ปี ถูกไฮโซหนุ่มซึ่งอ้างว่าเป็นลูกชายนักการเมืองชื่อดัง ล่อลวงจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อไปที่บ้าน ฝ่ายชาย ก่อนที่จะพยายามกระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนร่างกายเป็นแผลฟกช้ำรุนแรงทั้งที่มือ ขา เท้า แต่โชคดีที่เซเลบสาวสามารถหนีออกมาได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ช่วงเวลาตีสาม ก่อนจะมีการแจ้งความที่ สน.ประเวศ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์

วันนี้เวลาประมาณ 14.30 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พา น.ส.เอ ผู้เสียหายวัย 25 ปี มายื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เมื่อมาถึงปรากฏว่าทางผู้เสียหาย ยังคงมีสภาพจิตใจที่ไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ

โดยหลังจากพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเสร็จ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อม น.ส.เอ ผู้เสียหาย ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 อีกครั้ง โดย น.ส.สุชาดา กล่าวว่า ตอนนี้ผู้เสียหายรู้สึกสบายใจมากขึ้นในเรื่องทางคดี แต่ยังคงมีสภาพจิตใจย่ำแย่อยู่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการที่น้องผู้เสียหายไปเที่ยวที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ แล้วเจอ กับผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเพื่อนของแฟนหนุ่มและเป็นที่รู้จักในสังคม จึงไม่มีการร่วมโต๊ะสังสรรค์กัน ก่อนที่ทางผู้ก่อเหตุจะยึดโทรศัพท์และอ้างว่าจะพาไปส่งที่บ้านของแฟนหนุ่มผู้เสียหาย ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุอาศัยความที่ผู้เสียหายเมาสุราขับรถพาผู้เสียหายไปยังที่บ้านของผู้ก่อเหตุและได้พยายามที่จะทำอนาจาร แต่ผู้เสียหายสามารถวิ่งหนีออกมาจากบ้านของผู้ก่อเหตุได้ถึง 3 ครั้ง

โดย 2 ครั้งแรกนั้น ตัวผู้ก่อเหตุสามารถมาตามตัวได้ทัน และมีการฉุดกระชากลากถูจนเกิดบาดแผลตามตัว แต่ครั้งที่ 3 นั้น ผู้เสียหายวิ่งออกมาถึงนอกหมู่บ้าน จนพบเจอกับมอเตอร์ไซค์ของพลเมืองดีและสามารถช่วยพาออกมาได้ ซึ่งทางผู้เสียหายเองก็ทิ้งโทรศัพท์เอาไว้ที่บ้านผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม การหนี 2 ครั้งแรกนั้น น้องพยายามที่จะขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน แต่ในส่วนประเด็นตรงนี้ไม่อยากลงรายละเอียดมากนัก เพราะอยู่ในสำนวนของคดีและก็เข้าใจว่าอาจจะมีความเกรงใจลูกบ้านอยู่บ้าง ซึ่งประเด็นนี้ทางผู้เสียหายระบุกับทีมข่าวว่า ไม่ติดใจในพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้านแต่อย่างใด เพราะเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนกรณีเรื่องโทรศัพท์นั้น หลังจากวันเกิดเหตุ ทางผู้เสียหายได้เดินทางกลับมายังที่บ้านของผู้ก่อเหตุเพื่อเอาโทรศัพท์คืนก่อนที่พ่อของผู้ก่อเหตุจะเป็นคนเดินเอาโทรศัพท์มาคืนให้ และพูดจาประมาณว่า ทางฝั่งผู้ก็เห็นคนเอาโทรศัพท์ไปเอง ไม่ได้มีการซ่อนแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่พ่อของผู้ก่อเหตุสัมภาษณ์กับสื่อว่าจะเอาเรื่องกับฝั่งผู้เสียหาย เนื่องจากเป็นการแบล็คเมล์ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น น.ส.สุชาดา กล่าวว่า ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลครอบครัวสำคัญกว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง จนสามารถทำร้ายใครก็ได้เช่นนี้หรือ ตนมองว่าไม่ใช่

การที่ดื่มสุราเมาและจะสามารถไปก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ฝั่งผู้เสียหายเองก็มีชื่อมีเสียงและมีฐานะเพียงพอที่ไม่จำเป็นจะต้องไปดิสเครดิตเรียกเงินจากใคร ก็ยังเชื่อมั่นในเรื่องกระบวนการยุติธรรมว่า จะสามารถเอาผิดกับผู้กระทำความผิดได้หรืออย่างน้อยผู้กระทำความผิดสำนึกและมากล่าวขอโทษยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนที่พ่อของผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอและจะฟ้องร้องดำเนินคดีกลับนั้น น.ส.สุชาดา มองว่า เดี๋ยวว่ากันในชั้นศาลหรือในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทางผู้เสียหายได้กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือขอบคุณไปยัง เยาวชนผู้ให้การช่วยเหลือว่า ถ้าวันนั้นไม่ให้การช่วยเหลือ ตนก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เท่าที่จำได้วันนั้นตนได้พูดกับผู้ให้การช่วยเหลือเล็กน้อยว่าให้รีบพาตนออกจากพื้นที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะมีการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ออกไป ทั้งนี้หลังจากพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ตนก็ยังคงมีความรู้สึกเชื่อมั่นและมั่นใจในกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝากความหวังว่าตำรวจจะดำเนินคดีนี้ให้ถึงที่สุด เพราะตนไม่อยากให้ผู้หญิงหรือใครก็ตามถูกทำร้ายร่างกายเช่นนี้อีก

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ